เพื่อไทย อัด ประยุทธ์ เลิกพาดพิง ทักษิณ ชี้สวนทางกับการกระทำให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง สับประเทศนี้ไม่ได้มีแค่ 3 ป. แนะตั้งสติ ตอบฝ่ายค้านให้ดี

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2565 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ตอบคำถามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ท้าเอาคนดีกว่ากลับมาให้ได้ก็แล้วกันว่า น่าเสียดายที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถก้าวข้ามความเป็นตัวของตัวเอง แทบทุกครั้งของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีพัฒนาการ ละทิ้งโอกาสที่จะได้แสดงวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ควบคุมได้ แทนที่จะตอบคำถามว่าจะแก้ไขวิกฤตของประเทศชาติและประชาชนอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กลับตอบแบบที่อยากตอบ ตอบไม่ตรงคำถาม

ที่หนักกว่าและถือว่าเกินความจำเป็นไปมาก คือพอจวนตัวนอกสคริปต์จนเสียทรงก็ไปพาดพิงอดีตนายกฯ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการอภิปราย แสดงว่าที่พล.อ.ประยุทธ์เคยบอกจะทำงานเพื่อทุกคน ไม่เป็นศัตรูกับใคร ย้อนแย้ง คำพูดสวนทางกับการกระทำ หรือประชาชนเรียกร้อง ให้ก้าวข้ามนายทักษิณ ก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งแสวงหาความปรองดองสมานฉันท์ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยทำได้ ทำเหมือนกับนายทักษิณ ชินวัตร เป็นศูนย์กลางจักรวาลในใจของพล.อ.ประยุทธ์ตลอดเวลา

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน พุ่งเป้าอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว 30 ชั่วโมง คนดีชอบแก้ไข เวลาที่เหลืออยู่เอาไปตั้งสติ เตรียมตัวตอบคำถามของฝ่ายค้านดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะเสียทรงไปกว่านี้

พล.อ.ประยุทธ์มีกรอบแนวคิดที่ผิด คิดว่าการตั้งคณะกรรมการคือการแก้ปัญหา ทั้งที่ประชาชนต้องการเห็นผลสัมฤทธิ์ของการแก้ปัญหา ไม่ได้ต้องการเห็นการตั้งสารพัดคณะกรรมการชุดต่างๆ ตั้งจนงง ไปตั้ง 10 รัฐมนตรีมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าครม.อยู่แล้ว จะไปตั้ง 10 รัฐมนตรีมาให้ซ้ำซ้อนทำไม สะท้อนวิสัยทัศน์ มีความรู้ความสามารถระดับใด

“ใครจะเอาใครกลับมาได้หรือไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์อย่าห่วง ไหนๆ ก็สารภาพแล้วว่า ไม่เก่งและมีคนเก่งกว่า ซึ่ง 8 ปียังทำประชาชนเดือดร้อนขนาดนี้ ถ้าถึงขั้นจะแก้รัฐธรรมนูญให้อยู่ 12 ปี ประเทศชาติและประชาชนจะพังหนักขนาดไหน ประเทศนี้ไม่ได้มีแค่ 3 ป. ที่พอเคลียร์กันได้แล้วก็หวังอยู่ยาว เอาเวลาไปเตรียมตอบคำถามใน 30 ชั่วโมงที่ถูกอภิปราย ถ้าได้คะแนนไว้วางใจน้อยที่สุดจะตัดสินใจอย่างไร” นายอนุสรณ์ กล่าว