เพื่อไทย อัดรัฐเอื้อนายทุน บริหารงานผิดพลาด หารายได้เข้าประเทศไม่เป็น ผลักภาระผู้ประกอบการ แบกค่าไฟสูงกว่าเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2565 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย เขต 1 พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีผลการประชุมของรัฐบาลเพื่อสรุปอัตราค่าไฟและค่า FT ในงวด ม.ค. – เม.ย. 2566 โดยขึ้นค่าไฟในภาคธุรกิจเป็น 5.69 บาทต่อหน่วย พร้อมยังต้องใช้หนี้ให้ EGAT ว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกสำหรับรัฐบาลที่หารายได้เข้าประเทศไม่เป็น และยังต้องดูแลทุนใหญ่ การเพิ่มค่าใช้จ่ายเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มรายได้ แต่อย่าลืมว่าสุดท้ายกลไกที่สำคัญที่สุดก็คือภาคธุรกิจรายย่อย ซึ่งกำลังจะถูกทำร้ายรายวันกับต้นทุนที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แต่มาจากการบริหารงานที่ผิดพลาด และการไม่เข้าใจโครงสร้างของเศรษฐกิจในภาพรวม มิหนำซ้ำยังต้องเอื้อนายทุน
นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า วันนี้ภาคอุตสาหกรรม นักลงทุน และภาคธุรกิจ กำลังเริ่มฟื้นตัวจากพิษเศรษฐกิจ รัฐบาลแต่ละประเทศต่างพยายามช่วยผู้ประกอบการในการประคับประคองให้กลับมาสู่ภาวะปกติให้ได้ หากภาคธุรกิจดี การจัดเก็บภาษีของภาครัฐก็สามารถที่จะกลับมาสู่ภาวะปกติได้เช่นกัน หากคิดในมุมของภาษี ภาครัฐก็เหมือนผู้ถือหุ้นคนหนึ่งในบริษัท ไม่มีผู้ถือหุ้นคนไหน อยากเห็นบริษัทตัวเองเจ๊ง ดังนั้นวันนี้อะไรที่ช่วยได้ก็ต้องทำ โดยเฉพาะของเรื่องต้นทุนการผลิต เช่น ค่าไฟ ค่าขนส่ง ค่าน้ำมัน ค่าดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อยู่ในความดูแลของภาครัฐทั้งนั้น
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า วันนี้ค่าไฟในประเทศถ้าเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ยังถือว่าสูงกว่าพอสมควร ทั้งที่เราเองมีความต้องการใช้มากกว่า มิหนำซ้ำยังสามารถผลิตเองได้เกินปริมาณความต้องการใช้ แต่ที่แปลกคือค่าไฟเราก็ยังสูงกว่า แปลว่าวันนี้นโยบายภาครัฐด้านพลังงานต้องมีบางอย่างที่ผิดปกติ การวางโครงสร้างต้นทุนพวกนี้ บวกกับการบริหารที่เข้าใจภาวะเศรษฐกิจโลก จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่ผู้นำประเทศจะต้องรู้ โดยเฉพาะผู้นำที่ดูแลด้านเศรษฐกิจโดยตรง สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงอนาคตของประเทศ
นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า การที่นักลงทุนจากต่างประเทศจะตัดสินใจย้ายฐานการผลิต หรือเข้าไปลงทุนในประเทศหนึ่งประเทศใด มีหลายปัจจัยที่จะต้องเอามารวมเพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่หากเรายังบริหารต้นทุนด้านการผลิตแบบนี้ และยังไม่เข้าใจภาพรวมในการที่จะดึงคนเข้ามา เกรงว่าแทนที่จะดึงเข้า กลับกลายเป็นคนของเราเองจะออกไปลงทุนที่อื่นด้วย ซึ่งจริงๆ เกิดขึ้นมานานแล้ว
“ค่าไฟเป็นเพียงแค่ต้นทุนและปัจจัยหนึ่ง แต่ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆ สำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุน แต่วันนี้มีคำพูดอยู่หนึ่งคำที่ว่าหากรัฐบาลตัดสินใจกับเรื่องๆ หนึ่งอย่างไร กับเรื่องอื่นๆ ก็มีแนวโน้มว่าจะตัดสินใจแบบนั้น ดังนั้นหากรัฐบาลยังดูแลค่าไฟให้ผู้ประกอบการและประชาชนไม่ได้ เกรงว่าอนาคตต้นทุนอื่นๆ ก็จะมีปัญหาเช่นเดียวกัน” นายกฤษฎา กล่าว