เพื่อไทย ฟาดบิ๊กตู่ เก็บภาษีที่ดิน ในสภาวะเศรษกิจฝืดเคือง ทั้งที่ควรลดมากกว่า แนะควรคิดให้มากกว่า การเก็บภาษี แจกเงิน หรือการซื้ออาวุธ
24 ม.ค. 2565 – นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลจะเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเต็ม 100% โดยไม่ผ่อนผันหลังจากที่เก็บ 10% มา 2 ปี แม้จะเป็นประโยชน์ในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นที่จะมีรายได้มากขึ้น
แต่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากขึ้นถึง 10 เท่าจากปัจจุบัน จะสร้างภาระให้กับประชาชนมากขึ้น เจอปัญหาแพงทั้งแผ่นดินแล้วยังจะมาเจอภาษีแพงอีก คงรับกันไม่ไหวแน่
จากความล้มเหลวของรัฐบาลในการบริหารประเทศ รัฐบาลไม่สามารถเก็บรายได้ให้เข้าเป้าได้ จึงคิดแบบมักง่ายโดยการขึ้นภาษีทุกชนิด แทนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนำเงินมาพัฒนาประเทศ สร้างงาน เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน กลับนำเงินมาแจกแบบสะเปะสะปะ ไม่ได้เกิดการพัฒนาความสามารถแข่งขันของประเทศ ไม่เกิดการจ้างงาน ใช้แล้วก็หมดไป แถมยังจะนำเงินที่เก็บภาษีได้ไปซื้ออาวุธสะเปะสะปะอีก แล้วประเทศจะพัฒนาต่อไปได้อย่างไร ถ้าคิดได้แค่นี้
นายพชร กล่าวต่อว่า ในภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง รัฐบาลที่มีความรู้จะเร่งสร้างรายได้ให้ประชาชนก่อน เช่นในสหรัฐอเมริกา ผู้นำจะลดภาษีทุกครั้งที่เศรษฐกิจฝืดเคือง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นก่อน จึงค่อยเก็บภาษีเพิ่มขึ้น จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ศึกษาตัวอย่างในต่างประเทศ
นอกจากนี้ช่วงหลังวิกฤติการณ์โควิด มีกลุ่มอภิมหาเศรษฐีของโลก ได้ออกเรียกร้องให้รัฐบาลเก็บภาษีกับคนร่ำรวยมหาศาลที่มีปัญญาจ่ายภาษีกันมากขึ้น เพื่อนำเงินไปช่วยคนที่ลำบาก ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งน่าจะเป็นความคิดที่ดี มหาเศรษฐีและอภิมหาเศรษฐีของไทยที่ร่ำรวยมากขึ้นมาตลอด 7 ปี นำความคิดนี้มาใช้บ้าง ประเทศไทยจะได้ลดความเหลื่อมล้ำลงบ้าง
“พล.อ.ประยุทธ์ ต้องคิดได้มากกว่าการขึ้นภาษี การแจกเงิน การซื้ออาวุธ เพราะหากคิดได้แค่นี้ ที่ประกาศจะสู้ตาย ไม่ยอมแพ้จากปัญหาความแตกแยกในพรรค จะกลายเป็นความพ่ายแพ้ของคนทั้งชาติ น่าจะถอยดีกว่าก่อนประเทศจะเสื่อมถอยลงไปมากกว่านี้”