“บิ๊กเอ” ผศ. พิมล ศรีวิกรม์ ประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา พรรคเพื่อไทย และนายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา ที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา นายต้น ณ ระนอง ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย แถลงนโยบายกีฬาเรื่องมวยไทย ถ้าได้จัดตั้งรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย
ผศ.พิมลกล่าวว่า จากการที่ตนทำกีฬาต่อสู้มาตลอด 20 ปี ในกีฬาเทควันโด ก็ดีวันดีคืน ประสบความสำเร็จ มีคนเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะคนไทยได้เฝ้าดูมวยไทยมาตลอด มวยไทยเป็นมรดกของไทยที่ต้องได้รับการสนับสนุน ต่อยอด เพื่อสร้างชื่อเสียง สร้างความภาคภูมิใจ สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับคนไทย เพราะมวยไทยเป็นกีฬาเดียวที่มีชื่อประเทศอยู่ในชนิดกีฬา ดังนั้นจึงมีความหมายมากในทุกมิติ มวยไทยต้องได้รับการสนับสนุนผลักดันอีกมาก โดยข้อมูลจากการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) มีค่ายมวยไทยมากถึง 4,000 แห่งทั่วโลก มีชาวต่างชาติมาฝึกมวยไทยที่ไทยมากถึง 6-7 หมื่นคนต่อปี ซึ่งเชื่อว่ายังตกหล่นอีกมาก
ผศ.พิมลกล่าวอีกว่า ตอนนี้มวยไทยได้รับการสนับสนุนอยู่แล้ว แต่จากนโยบายคิดใหญ่ ทำเป็นของพรรคเพื่อไทย อยากจะทำให้เป็นซอฟต์เพาเวอร์ที่มีพลังมากกว่าที่เป็นในปัจจุบัน เป้าหมายที่อยากทำ มีอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.พัฒนามวยไทยให้ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก มีการให้ใบรับรองครูฝึกมวย นักมวย ให้ได้มาตรฐานว่าอยู่ในระดับไหน ไปถึงจุดไหนถึงจะเป็นครูสอนได้ ไม่ใช่เตะต่อยเป็นเล็กๆ น้อยๆ แล้วไปเป็นครูมวย เพราะจะทำให้มาตรฐานของนักมวยที่ไปเรียนด้วยน้อยลง 2.เพื่อขยายความนิยมมวยไทย ซึ่งนับเป็นศิลปะวัฒนธรรมการต่อสู้และเป็นมรดกอันทรงคุณค่าของไทย เป็นมวยไทยที่ออกไปทั่วโลกแล้วแข่งในระดับนานาชาติ ไม่ใช่ไปผสมผสานกับศิลปะแขนงอื่นๆ เช่น เอ็มเอ็มเอ หรือคิกบ๊อกซิ่ง จนเป็นมวยไทยกลายพันธุ์ ตรงนี้ภาครัฐต้องให้การสนับสนุน 3.เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในวงการและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย
ประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา กล่าวต่อว่า แนวทางปฏิบัติเพื่อยกระดับวงการมวยไทยถ้าได้เป็นรัฐบาล ดังนี้ 1.รวมความรู้มวยไทย สร้างมาตรฐานสู่การออกใบรับรองในระดับสากล โดยมี กกท.เป็นเจ้าภาพ ทำงานร่วมกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย, สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย 2.สร้างสถาบันผู้ตัดสินมวยไทยให้เป็นที่ยอมรับ 3.ส่งเสริมสนับสนุนให้ทั่วถึงทั้งวงการ มีการติดตามประเมินผลให้ตรงกับศักยภาพของงาน 4.ประชาสัมพันธ์มวยไทยไปไกลทั่วโลก ทั้งการจัดการแข่งขัน โรดโชว์ ถ่ายทอดสด ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ เชื่อสัมพันธ์แฟนคลับเพื่อสร้างกระแสไปทั่วโลก 5.สนับสนุนค่ายมวยไทยให้เติบโตทั้งในและนอกประเทศ ทั้งเงินกู้ ความรู้และบุคลากร 6.ส่งเสริมมวยไทยให้เป็นวิชาพื้นฐานกีฬาของทุกโรงเรียน แบบเดียวกับที่ประเทศฟินแลนด์บรรจุในการเรียนการสอนไปก่อนแล้ว
“เพื่อไทยจะเริ่มดำเนินการภายใน 100 วัน หลังจากการจัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าถ้าทำตามนโยบายนี้ ประชาชนจะหันมาสนใจมวยไทยมากขึ้น ขยายฐานมวยไทยไปทั่วโลก สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับคนไทยมากขึ้น เพื่อไทยออกนโยบายและต้องจับต้องได้เป็นรูปธรรม ต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับมวยไทยมาทำงานร่วมกัน เพราะองค์กรมวยไทยมีมากมาย เชื่อว่าถ้าองค์กรต่างๆจะช่วยให้มวยไทยดีขึ้นได้ จะต้องร่วมมือกันทำงาน” ผศ.พิมลกล่าว