อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งที่ศักดิ์สยามเพิ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อวานนี้ว่า (6 เม.ย.64) ร่างกายยังแข็งแรงดีและได้ผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 โดสแล้ว แต่วันนี้ (7 เม.ย.64) กลับคำให้สัมภาษณ์ว่าได้รับวัคซีน 1 โดสนั้น ศักดิ์สยามกำลังโกหกประชาชนและกำลังลดทอนความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาลเสียเอง ใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นยันต์กันผี ฉีดแล้วจะปฏิบัติตัวอย่างไรก็ได้
รัฐมนตรีควรมีความรับผิดชอบ
ทั้งที่รัฐมนตรีและรัฐบาลในฐานะที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต้องปฏิบัติตัว ให้เป็นแบบอย่างกับสังคมและต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าประชาชน แม้จะได้รับวัคซีนแล้วไม่ได้หมายความว่าจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยปราศจากการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ต้องป้องกันตัวเองด้วยมาตรการเข้มข้นตามที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง เพราะประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับวัคซีน มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนเพียง 1 โดส
โดยศักดิ์สยามและรัฐมนตรีอีกหลายคนที่ต้องกักตัวไม่ควรเป็นหนึ่งในสาเหตุของการแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ทองหล่อ ซึ่งล่าสุดศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้มี 334 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 327 ราย พบมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร 210 ราย ส่วนใหญ่พบจากกลุ่มสถานบันเทิงใน กทม. ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า การระบาดครั้งนี้อาจจะกลายเป็นการระบาดระลอกที่ 3 หรือไม่
ทำลายความน่าเชื่อถือ
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลกำลังทำลายความน่าเชื่อถือให้กับวัคซีน ที่ตนเองเป็นผู้สั่งซื้อและยังผูกขาดการเข้าถึง จากนี้ไปรัฐบาลต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ทั้งที่ได้รับวัคซีนแล้วและยังไม่ได้รับวัคซีนว่า วัคซีนไม่ใช่ยาวิเศษ ที่เมื่อได้รับไปแล้วจะทำให้ตัวเองไม่ติดเชื้อโควิด-19 ได้ หลังได้รับวัคซีนโดสที่ 2 แล้วจะต้องรักษาระยะห่างทางสังคมและป้องกันตนเองอย่างเข้มข้นต่อไป เพราะวัคซีนมีระยะการสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายหลังฉีดเข็มที่ 2 แล้ว 14-28 วัน ข้อมูลเหล่านี้สำคัญในการดำเนินชีวิตของประชาชนเป็นอย่างมาก
“รัฐมนตรีที่ติดเชื้อโควิดไม่รับผิดชอบต่อสังคม ซ้ำยังปกปิดข้อมูล ทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชน ลอยตัวเหนือปัญหาที่ตนเองเป็นผู้ก่ออยู่เสมอ ประชาชนต้องรับกรรมแทนทุกครั้ง” อรุณี กล่าว