เพื่อไทย จี้รัฐบาลเร่งออกมาตรการให้ตรงจุด ชี้ประชาชนเรียกร้องเร่งแก้เศรษฐกิจ ‘ประยุทธ์’ กลับตั้งทหารมาคุมแทน ลั่นทหารบริหารประเทศไม่ได้
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2565 น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้า สินค้าอุปโภคบริโภคปลายทางล้วนพาเหรดขึ้นราคา นับตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึงปัจจุบัน น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 95 ปรับขึ้นแล้ว 28% ดีเซล บี 10 ปรับขึ้น 23% ไข่ไก่ หมู แก๊สหุงต้มก็ปรับขึ้นเฉลี่ย 12-18% รวมทั้งราคาข้าวสารถุง 5 กิโลกรัมปรับขึ้น 30 บาทหรือปรับขึ้น 18%
น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า ข้าวสารปรับเพิ่มขึ้นมากอย่างไม่เกรงใจชาวนา เพราะราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้ ณ วันที่ 5 มิ.ย.อยู่ที่ตันละ 9,000 บาท และปีที่ผ่านมาราคาข้าวไทยราคาตกต่ำมากที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งตรงกันข้ามกับราคาปุ๋ยที่แพง เพราะรัฐบาลไปไม่เป็น บริหารไม่ได้ ผู้รับกรรมคือประชาชนคนไทยทุกคน
น.ส.อรุณี กล่าวอีกว่า โจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งทำทันที คือออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ตรงจุด ตอบโจทย์ความเดือดร้อน ที่สำคัญต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไปพร้อมกันด้วย โดยเฉพาะการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 35 บาทต่อลิตร ซึ่งจะเป็นการช่วยป้องกันต้นทุนอื่นๆ ที่จะแพงขึ้นแปรผันตามต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น
น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้กลับเข้ามาลงทุนในประเทศ ไม่ใช่ว่าตนเองเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่มอบหน้าที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจให้เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาคุมวอร์รูมเศรษฐกิจแทน แล้วรอการรายงานเท่านั้น คงมีผู้นำประเทศที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวเท่านั้นที่ทำงานแบบสั่งแล้วจบ ไม่สนใจผลลัพธ์
“ประชาชนเรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตราคาพลังงาน แต่หนึ่งในแนวทางที่เสนอคือเตามหาเศรษฐี ประชาชนเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์แก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญ แต่กลับได้ทหาร (สมช.) เข้ามาแก้ปัญหา วิกฤตค่าครองชีพทำคนไทยเดือดร้อนหนัก เมื่อไหร่ท่านถึงจะตระหนักว่าทหารบริหารประเทศไม่ได้” น.ส.อรุณี กล่าว