เพื่อไทย จวก ‘ประยุทธ์’ บริหารประเทศล้มเหลว ทำคนจะตายกันหมดแล้ว ทั้งไฟฟ้า ก๊าซ น้ำมัน หมู ไข่ แห่ขึ้นราคา คนจะตกงานอีกมาก

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2565 นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหาร และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า รัฐบาลประกาศจะปรับราคาก๊าซขึ้นแบบขั้นบันไดเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. จะเป็นการเพิ่มภาระค่าครองชีพซ้ำเติมให้กับประชาชนอย่างมาก หลังจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นไปก่อนหน้านี้ และจะเริ่มขึ้นค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือน ม.ค.เช่นกัน รัฐบาลอ้างว่ากองทุนน้ำมันต้องสนับสนุนราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซ

โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือน ธ.ค.64 มีรายจ่ายเฉลี่ยติดลบเดือนละ 5,963 ล้านบาท แบ่งเป็นน้ำมัน 4,276 ล้านบาท LPG 1,687 ล้านบาท อีกทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ทะลุ $81 แล้ว และ ราคา LPG ในตลาดโลกทะลุ $900 ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันแบกรับภาระการพยุงราคาน้ำมันดีเซลของก๊าซ และจะมีภาระเพิ่มขึ้นอีกถ้าราคาน้ำมันและก๊าซยังคงเพิ่มขึ้น

นายพชร กล่าวต่อว่า นอกจากราคาพลังงานจะสูงขึ้นแล้ว ราคาอาหาร เช่น ราคาหมู ไก่ ปลา ไข่ไก่ได้ปรับสูงขึ้นตาม รวมถึงราคาค่าขนส่งและราคาสินค้าหลายชนิดทยอยสูงขึ้น ส่งผลทำให้อัตราเงินเฟ้อของไทยในปีนี้สูงขึ้นมาก ประชาชนส่วนใหญ่ที่รายได้ไม่เพิ่ม และคนตกงานจำนวนหลายล้านคนจะลำบากกันอย่างมากจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

นายพชร กล่าวอีกว่า ที่น่ากังวล คือธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยอาจจะขึ้นในเดือน มี.ค. จากภาวะเงินเฟ้อสูง ทำให้ไทยต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม มิเช่นนั้นเงินตราต่างประเทศอาจจะไหลออกได้ เศรษฐกิจไทยที่หนักหนาสาหัสอยู่แล้วต้องถูกซ้ำเติมมากขึ้น บริษัทห้างร้านต่างๆ ที่ติดหนี้ธนาคารอย่างมากจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มาตลอดหลายปี ต้องมาจ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งจะแบกรับกันไม่ไหวและอาจจะต้องปิดตัวกันมาก และจะทำให้คนตกงานอีกมาก

“ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาในช่วงภาวะที่เศรษฐกิจโลกดี เงินเฟ้อต่ำ ดอกเบี้ยต่ำ น้ำมันราคาถูก หนี้ประเทศต่ำ พล.อ.ประยุทธ์ยังบริหารประเทศล้มเหลว จากนี้ไปพล.อ.ประยุทธ์จะต้องเผชิญกับน้ำมันแพง ก๊าซแพง ไฟฟ้าขึ้น ค่าครองชีพพุ่ง อาหารแพง เงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยขึ้น หนี้ท่วมทั้งภาครัฐและเอกชน พล.อ.ประยุทธ์จะบริหารประเทศให้สำเร็จได้อย่างไร ดังนั้นในปีนี้จะเป็นปีแห่งความทรุดโทรมและเสื่อมถอย ซึ่งเป็นผลมาจากความล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์”

นายพชร กล่าวอีกว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ยอมลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแต่แรกตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคพท.เสนอ กองทุนน้ำมันก็ไม่ต้องมาแบกภาระหนักขนาดนี้ สามารถนำกองทุนน้ำมันไปแบกภาระค่าก๊าซที่สูงขึ้น อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์ควรนำเงิน 20,087.42 ล้านบาท ที่โอนจากกองทุนพลังงานมาคืน เพื่อช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันและราคาก๊าซที่แพงขึ้น เพราะคนจะตายกันหมดแล้วจากผลงานบริหารที่ล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์

“แต่นี้ต่อไปการบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นจุดอ่อนของพล.อ.ประยุทธ์มาตลอด การที่จะฟื้นฟูประเทศต่อไปต้องใช้ความแม่นยำ ทฤษฎีที่ถูกต้อง ต้องพลิกฟื้นเปลี่ยนวิธีการบริหาร ไม่เช่นนั้นประเทศจะอ่อนแอ ความมั่นคงของประเทศจะสั่นคลอน เพราะประชาชนสูญเสียความสามารถในการใช้ชีวิตขั้นพื้นฐานไป” นายพชร กล่าว