เพื่อไทย ขนผู้สมัคร สก. บุกมหาดไทย ร้องสอบ ‘อัศวิน’ เซ็นตั้งกก.ติดตามนโยบายฯ เอื้อประโยชน์ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.บางคน-บางพรรค ขัดกม.ชัด จี้สอบสวนเอาผิดพร้อมส่งเรื่อง ปปช.ฟันต่อ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 ม.ค.65 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.พรรค ร่วมกันยื่นหนังสือขอให้ รมว.มหาดไทย ตรวจสอบคำสั่งแต่งตั้งกรรมการติดตามการปฏิบัติตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม.ของพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ว่าใช้อำนาจแต่งตั้งบุคคลที่อาจเป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่อว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ซึ่งผลให้เป็นการเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ศรีของตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หรืออาจเป็นเหตุให้เสียหายอย่างร้ายแรงแก่ราชการในส่วนรวมของ กทม. ซึ่งต้องห้ามตามมาตรา 52 (8) พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และอาจเข้าข่ายปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยตัวมีแทนจากกระทรวงเป็นผู้รับเรื่อง
นายจิรายุ กล่าวว่า หากตรวจสอบพบข้อเท็จจริงพบเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดต่อกฎหมาย ก็ขอให้ใช้อำนาจสั่งการให้ผู้ว่าฯ กทม.ยุติการกระทำดังกล่าว และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ด้วยการเสนอให้ผู้ว่าฯ กทม.พ้นจากตำแหน่ง และขอให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป
ทั้งนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ว่าฯ กทม.ได้กระทำการอันอาจเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการแต่งตั้งหรือยินยอมแต่งตั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ในแต่ละเขตบางคน ซึ่งไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นบุคคลในทีมของผู้ว่าฯ กทม.หรือ ในทีมผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.คนอื่น เป็นกรรมการติดตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งอาจมีการอาศัยตำแหน่งหน้าที่ดังกล่าวสั่งการผู้บริหารเขตหรือเจ้าหน้าที่ของ กทม.เขตต่างๆ ร่วมกับตนเองในการลงพื้นที่หาเสียงให้กับตนเอง โดยอ้างการติดตามนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.บังหน้า ใช้ทรัพยากรบุคคลและทรัพย์สินของราชการเพื่อประโยชน์ในการหาเสียง อีกทั้งยังมีการประชาสัมพันธ์นำเสนอในลักษณะที่ระบุให้ประชาชนทราบว่าตนเองเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าวอาจทำให้เกิดการนำทรัพยากรของรัฐไปใช้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองหรือผู้อื่น เป็นการเอาเปรียบผู้สมัครอื่น แม้ขณะนี้จะยังไม่มีประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ก็ตาม แต่การกระทำก็ส่งผลต่อคะแนนนิยมของบุคคลที่อ้างว่าเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.แล้ว ซึ่งการแต่งตั้งบุคคลที่รู้ว่าเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ให้เป็นคณะกรรมการติดตามนโยบายผู้ว่าฯ กทม.เช่นนี้ เป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่อว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ซึ่งอาจเป็นการเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ศรีของตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หรืออาจเป็นเหตุให้เสียหายอย่างร้ายแรงแก่ราชการในส่วนรวมของ กทม. ซึ่งเป็นการกระทำต้องห้ามตามกฎหมาย