เพื่อนศิลปินร่วมอาลัย รดน้ำศพ ‘ปิยะ ตระกูลราษฎร์’ ลูกเล่าอาการป่วย เผยงานเพลงที่กำลังจะทำ ยกย่องเป็นศิลปินต้นแบบที่ดีที่สุด

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาใหญ่ วัดจินดาราม ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีรดน้ำและสวดอภิธรรมศพ นายปิยะ ตระกูลราษฎร์ อดีตนักแสดงและนักแต่งเพลงชื่อดัง หลังเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยศพของ นายปิยะ ได้เคลื่อนศพออกจาก รพ.พระนั่งเกล้า เมื่อเวลา 10.00 น. โดยมีรถมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำขบวนรถของ รพ.พระนั่งเกล้า เคลื่อนพของ นายปิยะ มาถึงวัดจินดาราม โดยอยู่ในชุดเสื้อสูทดำ คลุมทับด้วยผ้าแพรสีฟ้า มีพระครูจินดากิจจานุรักษ์ เจ้าคณะตำบลบางช้าง เจ้าอาวาสวัดจินดาราม ได้รอรับศพเข้าสู่ที่ตั้งทำพิธี พร้อมกับครอบครัวและเพื่อนในวงการเพลง อาทิ รังสี รุ่งเสรีชัย, วิลลี่ ผีก้าบก้าบ นักแสดงตลก, ปริศนา วงศ์ศิริ หรือ ไก่ หมอลำชื่อดัง ร่วมไว้อาลัย

วิลลี่ ผีก้าบก้าบ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับพ่อปิยะมาตั้งแต่ปี 2528 นานกว่า 40 ปีแล้ว ท่านเป็นนักร้องนักแสดงที่ในสมัยก่อนจะตามไปกับวงต่างๆ ทั้งวงของ สายัณห์ สัญญา, พุ่มพวง ดวงจันทร์, ยอดรัก สลักใจ ช่วงหลังก็ได้มาสนิทกันและไปไหนมาไหนด้วยกัน ผลงานล่าสุดที่ได้ทำร่วมกันคือ “เพื่อนรักบ้านทุ่งภาค 2” ของด็อกเตอร์อเนก พันธุรัตน์ ตนรู้ว่าพ่อปิยะป่วยมานานแล้ว แต่พ่อปิยะได้สั่งว่าไม่ต้องมาเยี่ยม ซึ่งเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) ได้ทราบข่าวว่าพ่อปิยะเสียชีวิตลงอย่างสงบ ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ทางเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการบันเทิง วงการเพลงหรือภาพยนตร์ วงการนักมวยและวงการเขียนเพลง ทุกคนต่างเสียใจในการจากไปของพ่อปิยะ เนื่องจากถือเป็นหนึ่งในศิลปินต้นแบบที่ดีที่สุดคนหนึ่ง

ด้าน รังสี รุ่งเสรีชัย เผยว่า ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยได้พบปะกัน แต่พอมาทราบข่าวกลับเป็นช่วงจังหวะที่ปิยะมาจากไปพอดี น่าเสียดายและเสียใจต่อการจากไปของปิยะ ผู้ที่มีประสบการณ์และมากความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงหรือเรื่องของการแต่งเพลง วันนี้ถือโอกาสมารดน้ำศพ ส่วนใหญ่มักเจอกันในกลุ่มเพื่อนฝูงและคุยกันในเรื่องของการทำเพลง และถามเรื่องของความเป็นอยู่ว่าสุขสบายดีไหม ซึ่งล่าสุดได้คุยเกี่ยวกับงานเพลงที่จะไปทำสาธารณกุศลกัน แต่ยังไม่ได้ทำกลับเกิดเรื่องที่หน้าเสียใจขึ้นซะก่อน

ทางด้าน น.ส.อารดา ตระกูลราษฎร์ อายุ 48 ปี ลูกสาวของ ปิยะ เผยถึงอาการป่วยของพ่อว่า เมื่อปี 64 พ่อได้ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งที่ลำคอ รักษาโดยการฉายแสงมา 35 ครั้ง ที่ รพ.ราชวิถี จนหายดีแล้ว ภายหลังเริ่มรับประทานอาการไม่ได้ เนื่องจากกลืนอาหารลำบาก เกิดความเจ็บปวด จากนั้นได้พบแพทย์และตรวจพบเชื้อมะเร็งมาเกิดที่หลอดอาหาร ก่อนเข้ารักษาตัวเรื่อยมา จนกระทั่งเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา อาการเริ่มทรุด ซึ่งก็ได้พักรักษาตัวที่บ้านใน จ.นนทบุรี และ รพ.ราชวิถี แต่อาการก็ทรงๆ ไม่ได้ดีขึ้น จากนั้นในเดือน ก.ย. ได้มาพักอยู่ที่ รพ.ราชวิถี นานถึง 2 อาทิตย์ แต่ก็ไม่ดีขึ้นเช่นกัน กระทั่งในวันที่ 3 ต.ค. พ่อได้ย้ายไปรักษาที่ รพ.พระนั่งเกล้า กระทั่งมาเสียขีวิตลง

ทั้งนี้กำหนดการสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 คืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 – 5 พ.ย. และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 6 พ.ย. เวลา 15.39 น. ที่วัดจินดาราม ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม

สำหรับประวัติของ ปิยะ ตระกูลราษฎร์ เกิดที่ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ที่บ้านมีฐานะยากจน จบการศึกษาชั้น ม.ศ.5 จึงมาทำงานอยู่ใน กทม. เคยเป็นลูกศิษย์วัด เป็นช่างตัดผม รับจ้างแบกของในตลาด ปั่นรถสามล้อถีบ เริ่มเข้าสู่วงการจากการเป็นตัวประกอบภาพยนตร์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 โดยภาพยนตร์เรื่องแรกที่ได้แสดงในฐานะตัวประกอบคือเรื่อง “นี่หรือชีวิต” ภาพยนตร์ขนาด 70 มม. เรื่องแรกของเมืองไทย จากการกำกับของ ชุติมา สุวรรณรัตน์ ซึ่งนำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี และ ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา โดย ปิยะ รับบท บุรุษพยาบาลเข็นศพ

แต่ที่การแสดงที่มีชื่อเป็นที่รู้จักก็คือ “มนต์รักแม่น้ำมูล” (2520 สมบัติ-นัยนา-เนาวรัตน์) สร้างโดย ดวงกมลมหรสพ ของ กมล กุลตังวัฒนา โดยในเรื่อง ปิยะ ได้บทเป็นพระรอง ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง มนต์รักแม่น้ำมูล ประสบความสำเร็จเกินคาด ทำให้กมลตัดสินใจที่จะสร้างภาพยนตร์แนวสะท้อนปัญหาสังคมไทยในเรื่อง “ครูบ้านนอก” บทประพันธ์ของ คำหมาน คนไค โดยผลักดันให้ สุรสีห์ ผาธรรม ผู้ช่วยผู้กำกับเรื่องมนต์รักแม่น้ำมูล ขึ้นมาเป็นผู้กำกับการแสดง แต่ กมล ได้เลือกพระเอกของเรื่องนั้นก็คือ ปิยะ ตระกูลราษฎร์ นอกจากนี้ยังเคยกลั่นน้ำตามาเป็นเพลงดังๆ ให้สายัณห์ สัญญา ขับร้อง อาทิ เพลง ไก่จ๋า, หนึ่งปีที่ทรมาน, ศึกอัศวินดำ จนโด่งดังทั่วประเทศ สุดท้ายปิยะยังเบนเข็มจากดาราไปเป็นนักพากย์มวยรายการศึกอัศวินดำ (อัศวินดำก่อเกียรติ) จนเป็นที่รู้จักทั่วไป