เพื่อนบ้านหน้ามึน! จอดรถขึงผ้าใบ กินถนน 1 เลน จนทุกคนเอือม เขตเตือนแล้ว ข้างบ้านเผยถึงพฤติกรรมสุดแสบ ตัวเองทำได้ บ้านอื่นห้ามทำ
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 5 เม.ย.66 ที่ หมู่บ้านรินทร์ทอง รามคำแหง 190 นายวชิรญาณ์ จันทร์ขอนแก่น อายุ 29 ปี เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากโพสต์เฟซบุ๊ก แชร์เรื่องราวในกลุ่มพวกเราคือผู้บริโภค เพื่อนบ้านมหาภัย ใช้ถนนหน้าบ้าน 1 เลน เป็นที่จอดรถ แถมยังมีหลังคายื่นล้ำออกมาและปลูกต้นไม้ใหญ่ล้ำบริเวณบ้านตนเองออกมา มีการร้องเรียนไปที่เขตถึง 3 ครั้ง แต่ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข จนกระทั่งเป็นกระแสในโลกโซเชี่ยล ผอ.เขตมีนบุรี จึงลงพื้นที่มาตรวจสอบ
นายวชิญาณ์ กล่าวว่า ตนพึ่งเข้ามาอยู่ได้ 3 ปี ช่วงแรกไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่ช่วงหลังเริ่มเอารถมาจอดและเอากรวยมาตั้งเวลาไม่อยู่บ้าน และต่อเติมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น หลังคาผ้าใบก็เพิ่งเอามาติด ส่งผลให้ตนเเละเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ขับรถเข้าออกลำบาก แต่ด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหาเลยไม่ได้พูดอะไร
“แต่ที่ปัญหานี้เกิดขึ้นจนถึงขั้นต้องออกมาโพสต์และแจ้งไปทางเขต เกิดจากเมื่อวันจันทร์ที่ 3 เม.ย.66 เพื่อนบ้านเอาปืนหรือประทัดมายิง ส่งเสียงดัง ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยไปร้องเขต และร้องสื่อ”
ทุกครั้งที่เขตเข้ามาก็ตักเตือนและล่าสุดเขตเข้ามาทำข้อตกลง คือ 1.ตัดต้นไม้ 2.เก็บหลังคาผ้าใบเมื่อไม่ใช้งาน และ3.ให้ขยับรถเข้าไปชิดบริเวณหน้าบ้านมากขึ้น ตอนนี้ดำเนินการตัดต้นไม้ไปแล้ว โดยอีก 2-3 หลังจากที่เตือนแล้ว เขตก็จะเข้ามาดูความเรียบร้อยอีกครั้ง
นายวชิญาณ์ เล่าอีกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้คุยกับเพื่อนบ้าน เพราะคิดว่าเป็นเรื่องพื้นฐานของการอยู่ร่วมกัน “คุณไม่ควรไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน และคนอื่นก็ไม่ควรไปทำให้คุณเดือดร้อน” และถ้าจะให้ตนไปคุยกับเพื่อนบ้าน ตนก็พร้อมที่จะคุย แต่ตอนนี้อยากให้เป็นหน้าที่ของเขตก่อน ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาในการปรับปรุงตัว
ด้านยายฐา อายุ 70 ปี กล่าวว่า เพื่อนบ้านหลังนี้เป็นคนใจแคบมาก ก่อนหน้านี้รู้จักและเคยพูดคุยกันอยู่ ซึ่งเขาอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน พ่อ แม่และลูกอีก 2 คนอยู่มานาน บ้านหลังนี้นำเอาผ้าใบมากาง ล้ำถนนออกมา นำรถมาจอด ปิดถนน 1 เลน ทำแบบนี้มาหลายปีมาก และคนจะทำแบบเดียวกับเขาไม่ได้ เขาจะต่อว่าอย่างเช่น เวลาที่เขาไม่อยู่ ขับรถออกไปข้างนอก ถนนด้านหน้าบ้านของเขาจะให้คนอื่นจอดไม่ได้ เขาจะเอากรวยมาตั้งกันที่เอาไว้ ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้อง อย่างตนเองบ้านอยู่หลังในสุด ก็เข้าออกลำบาก ต้องไปขอพื้นที่หน้าซอย อาศัยจอดรถ เนื่องจากว่าไม่สามารถเอารถเข้ามาในซอยของตัวเองได้
นอกจากนี้เพื่อนบ้านรายนี้ ยังมีพฤติการณ์พูดจาไม่ดี ต่อว่าเพื่อนบ้านหลังอื่น จนทำให้ทุกคนในซอย รู้จักนิสัยของเขาดี จึงไม่ค่อยยุ่งกับเขา ต่างคนต่างอยู่มากกว่า ส่วนตนเองนั้น ขอไม่ยุ่งเกี่ยว เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกเพื่อนบ้านหลังดังกล่าว พูดจาแดกดัน ทำให้รู้สึกไม่ดี จึงไม่คุยกันดีกว่า
ทั้งนี้ หลังจากเป็นข่าว สำนักงานเขตมีนบุรี ก็ลงพื้นที่มาแก้ไขปัญหาแล้ว ตนก็สบายใจขึ้น พร้อมฝากบอกถึงเจ้าของบ้านหลังเจ้าปัญหาว่า ขอให้ปรับปรุงตัว อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน