ทราบกันหรือไม่ว่า “สีม่วง” คือสีที่แทบจะไม่ปรากฎอยู่บนธงชาติของประเทศต่างๆ บนโลกนี้เลย เพราะอะไร? เราไปหาคำตอบพร้อมกัน
หากผู้ที่สนใจลองสังเกตให้ดีจะพบว่าธงชาติต่างๆ บนโลกนี้นั้นแทบไม่ใช้สีม่วงกันเลย โดยปัจจุบันนี้มีเพียง 2 ประเทศเท่านั้น จากทั้งหมด 195 ประเทศทั่วโลก ที่บนธงชาติมีสีม่วงปรากฏอยู่ ซึ่งก็มีแค่นิดเดียวด้วย นั่นก็คือ นิการากัว และ โดมินิกา
สาเหตุหลักที่สีม่วงไม่ถูกนิยมใช้นั่นก็เพราะว่าในสมัยก่อนนั้น สีม่วง เป็นสีย้อมผ้าที่มีราคาสูงมาก เพราะมันหายาก โดยในสมัยโบราณ สีม่วงที่ได้จากธรรมชาตินั้นต้องเอามาจากหอยทากทะเลชนิดหนึ่ง ซึ่งมันมีอยู่ในเนื้อหอยทากแค่เล็กน้อย ทำให้มีแต่ชนชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถใส่เสื้อผ้าสีม่วงได้ ราคาของสีม่วงในช่วงเวลานั้นแพงพอๆกับราคาของทองคำเลยทีเดียว ว่ากันว่าสีม่วงปริมาณ 1 กรัม จะต้องใช้หอยทากในการผลิตมากถึง 1 พันตัว
อย่างไรก็ดี จุดเปลี่ยนโลกเกิดขึ้นในปีค.ศ. 1856 เมื่อ วิลเลียม เฮนรี เพอร์กิน (William Henry Perkin) นักเคมีชาวอังกฤษ ค้นพบสีม่วงสังเคราะห์สำหรับย้อมผ้าได้สำเร็จ ส่งผลให้สีม่วงมีราคาถูกลง จนคนทั่วไปเข้าถึงซื้อหาเสื้อผ้าสีนี้มาใส่กันได้ง่ายขึ้น
แต่ถึงแม้ว่าสีม่วงจะได้รับความนิยมและมีราคาที่ถูกลง แต่สำหรับการนำสีม่วงมาใช้กับธงชาติก็ไม่ได้แพร่หลายแต่อย่างใด เนื่องจากส่วนใหญ่ประเทศต่างๆก็มีธงชาติที่ใช้กันมาอย่างยาวนานอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยที่สีม่วงยังมีราคาสูงลิ่ว ทำให้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
จากประวัติศาสตร์มีเพียง 2 ประเทศบนโลกเท่านั้น ที่มีการใช้สีม่วงอยู่บนธงชาติ ซึ่งล้วนถูกออกแบบหลังจากที่สีม่วงมีราคาถูกลงแล้ว นั่นก็คือ
1. ธงชาติของประเทศนิการากัว (Nicaragua) ประเทศที่ตั้งอยู่ในอเมริกากลาง โดยสีม่วงปรากฏอยู่บนแถบสีรุ้ง ธงชาติผืนนี้ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1971 และถูกใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
2. ธงชาติของสาธารณรัฐโดมินิกา (Dominica) ประเทศที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน โดยสีม่วงปรากฏอยู่บนสีตัวของนกแก้ว ธงชาติผืนนี้ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1978 และถูกใช้งานจนถึงปัจจุบันเช่นเดียวกัน
และอีก 1 ประเทศสมัยอดีต คือ สเปนในยุคสาธารณรัฐที่ 2 (Spanish Second Republic) ซึ่งถูกใช้งานตั้งแต่ปี 1931-1939