เว็บไซต์ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ออสเตรเลีย (WWF Australia) ได้มีการรายงาน รายงาน Living Planet ซึ่งปัจจุบันเป็น ฉบับที่ 15 แล้ว เป็นการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มด้านความหลากหลายทางชีวภาพของโลกและสุขภาพของโลก โดยอิงตามดัชนี Living Planet (LPI) ซึ่งติดตามแนวโน้มประชากรเกือบ 35,000 รายจาก 5,495 สายพันธุ์ ตั้งแต่ปี 1970 ถึง 2020

ซึ่งผลจากการรายงาน Living Planet Report 2024 ของ WWF พบว่าประชากรสัตว์ป่าที่ได้รับการตรวจสอบถึง 73% ในช่วงเวลาเพียง 50 ปี (พ.ศ. 2513-2563) นั้นมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งผลการศึกษาของออสเตรเลียที่ส่งผลให้ตัวเลขน่าตกใจนี้ ได้แก่ การลดลงของประชากร หนูภูเขาแคระ ที่ Mont Higginbotham ในรัฐวิกตอเรีย และ เต่ากระ ที่ทำรังบนเกาะ Milman ในแนวปะการัง Great Barrier Reef

และในระดับภูมิภาคนั้นพบว่าจำนวนสัตว์ป่าที่ลดลงมากที่สุดคือ ละตินอเมริกา และ แคริบเบียน ที่ลดลงมากถึง 95% โดยในแถบแอฟริกา ลดลง 76% และ เอเชียแปซิฟิกลดลงถึง 60% เลยทีเดียว

• ช็อกโลก! ชาวประมงผ่าฉลาม พบศพหญิงนักดำน้ำ หายตัวไปนาน 8 วัน
• อื้อหือ! ราคาบัตรแฟนมีต “น้องหมีเนย” ราคาสูงลิ่ว เกินครึ่งหมื่น
• จับตา! NOAA เตือน พายุแม่เหล็กโลก อาจเพิ่มระดับความรุนแรงเป็น G5

ซึ่งการลดลงของประชากรณ์สัตว์ป่านี้บ่งบอกถึง ความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ที่เพิ่มมากขึ้น และการสูญเสียระบบนิเวศที่มีสุขภาพดีที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งวิกฤตการณ์ทั้งการสูญเสียธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กำลังผลักดันให้โลกเข้าใกล้จุดเปลี่ยนที่อันตราย และไม่อาจย้อนคืนได้

โดยจุดเปลี่ยนแปลงระดับโลก เช่น การตายลงของป่าฝนอเมซอนและการตายลงของแนวปะการังเป็นจำนวนมาก รวมถึง แนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์ จะสร้างคลื่นกระแทกที่ไกลออกไปไกลเกินกว่าบริเวณโดยรอบโดยส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและการดำรงชีพ และอีก 5 ปีต่อจากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับอนาคตของชีวิตบนโลก แต่ก็ยังมีความหวัง หากพวกเราสามารถฟื้นฟูโลกที่เราอาศัยอยู่ได้ โดยการลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้

ทางด้าน แอนดรูว์ เทอร์รี จากสมาคมสัตววิทยาแห่งลอนดอน กล่าวในการแถลงข่าวว่า พวกเรามีความมั่นใจในความแข็งแกร่ง โดยเน้นถึงการใช้ ตัวบ่งชี้ต่าง ๆ ที่ครอบคลุมความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ และสุขภาพของระบบนิเวศ เพื่อขยายภาพนั้นให้กว้างขึ้น

ข้อมูลจาก WWF Australia และ Paris (AFP)