นักวิทยาศาสตร์อเมริกา พบฝูงกวางจำนวนมากล้มตายในเยลโลว์สโตน อุทยานป่าขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ คาดสาเหตุจากเชื้อ “โรคกวางซอมบี้” หวั่นติดต่อสู่มนุษย์ ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนรักษา

เมื่อเร็ว ๆ นี้ The Guardian สื่อต่างประเทศรายงานข่าวน่ากังวลเรื่อง โรคกวางซอมบี้ หรือ โรค CWD ย่อมาจาก (Chronic wasting disease) กำลังระบาดในหมู่กวาง หลังพบฝูงกวางตายในเขตอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของไวโอมิง ประเทศสหรัฐอเมริกา

อีกทั้งพบว่ากวางที่เหลืออยู่มีพฤติกรรมแปลก ๆ ตามอาการของโรค CWD อาทิ น้ำลายไหล เซื่องซึม ผอมแห้ง เดินสะดุดไปทั่ว ด้วยอาการดวงตาล่องลอยว่างเปล่า ซึ่งเชื้อนี้จะแพร่กระจายผ่านวงศ์ปากมดลูก ได้แก่ กวาง กวางเอลก์ กวางมูส แคริบู และกวางเรนเดียร์ โดยไม่มีทางรักษาหรือวัคซีน

ดร. โทมัส รอฟ สัตวแพทย์และอดีตหัวหน้าฝ่ายสุขภาพสัตว์สำหรับปลาและสัตว์ป่า เผยว่าตอนนี้โรคกวางซอมบี้ถูกพบในกวาง กวางเอลก์ และกวางมูสมากกว่า 800 ตัวทั่วรัฐไวโอมิง เป็นการตรวจพบที่น่ากังวลหากมนุษย์ได้รับเชื้อ

ด้านผู้เชี่ยวชาญท่านอื่น ๆ มีความเห็นว่าโรคนี้อาจกลายเป็น “หายนะที่ค่อย ๆ เกิดขึ้นกับโลกเราในไม่ช้า” จึงเริ่มเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกเตรียมรับมือกับสภาวะโรคกวางซอมบี้ระบาดสู่มนุษย์ในอนาคต

“การระบาดของโรควัวบ้าในสหราชอาณาจักรเป็นตัวอย่างว่าสิ่งต่าง ๆ สามารถบ้าคลั่งได้ในชั่วข้ามคืน ตอนนี้เรากำลังพูดถึงความสามารถของโรคที่คล้ายกัน ไม่มีใครบอกได้ว่ามันจะเกิดขึ้นแน่นอน แต่สิ่งสำคัญคือผู้คนต้องเตรียมพร้อม”

สำหรับการชะลอการแพร่กระจาย ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ ดร. รอฟ เน้นย้ำเรื่องการให้อาหารสัตว์ของมนุษย์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมการหาอาหารและการดำรงชีวิตของพวกมัน อาจมีส่วนในการแพร่กระจายเชื้อได้

สืบเนื่องจากผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า สัตว์นักล่าที่ เป็นสัตว์ป่าเช่น หมาป่า คูการ์ และหมี สามารถตรวจจับสัตว์ป่วยได้ก่อนที่มนุษย์จะตรวจจับได้ และพวกมันจะจับเหยื่อโดยนำพวกมันออกจากภูมิประเทศ จนถึงตอนนี้พวกเขายังคงรักษาภูมิคุ้มกันจากโรคได้

แม้ว่า ดร.รอฟ จะบอกว่าพวกเราอยู่แนวหน้าของสถานการณ์นี้ แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้าม เห็นได้ว่าการแพร่ระบาดเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อเกิดขึ้นแล้วสามารถส่งผลกระทบตามมาได้หลายด้าน