วันที่ 18 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภารกิจเผาศพผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ในการช่วยเหลือของ วัดราษฎร์ประคองธรรม อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งดำเนินภารกิจเรื่อยมาเกินกว่า 130 รายแล้วนั้น โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางวัดราษฎร์ประคองธรรม ได้ดำเนินการเผาศพผู้เสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวานนี้จนมาสิ้นสุดในเช้าวันนี้เวลา 05.13 น. จำนวน 9 ศพ
โดย นายไพรัช สุดธูป ไวยาวัจกรวัดราษฑร์ประคองธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ทางวัดมีภารกิจที่ต้องเร่งดำเนินการเผาศพผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดอย่างต่อเนื่องด้วยกันถึง 9 ศพ ทำให้ต้องใช้เตาใช้เมรุติดต่อกันโดยแทบไม่ได้พัก ซึ่งเคสที่หนักที่สุดนับตั้งแต่ทางวัดดำเนินการเผาศพผู้เสียชีวิตมา คือ ศพชายไทย อายุ 85 ปี น้ำหนัก 250 กิโลกรัม จากโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งถือว่ามีน้ำหนักมากที่สุดเท่าที่ทางวัดเคยรับมาดำเนินการ ทำให้ทางวัดต้องสั่งโลงศพขนาดพิเศษเพื่อรองรับใส่ร่างผู้เสียชีวิตรายนี้เนื่องจากทางวัดไม่มีโลงขนาดใหญ่พิเศษมาก่อน
ไวยาวัจกรวัดราษฑร์ประคองธรรม กล่าวอีกว่า หลังทางวัดรับทราบภารกิจที่จะต้องไปรับร่างผู้เสียชีวิตที่มีน้ำหนักมากถึง 250 กิโลกรัมที่โรงพยาบาลศิริราชในช่วงเช้า จึงได้ปรึกษาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เนื่องจากโลงที่วัดไม่มีขนาดที่จะใส่ร่างผู้เสียขีวิตรายนี้ได้ ทางพระครูกิตติวิริยาภารณ์ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรม จึงได้สั่งการให้สั่งซื้อโลงใหม่ขนาดไซส์พิเศษในทันที เพื่อจะได้มีโลงไปรับร่างผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวออกมาจากโลงพยาบาลเพื่อดำเนินฌาปนกิจต่อไปโดยศพจะไม่ติดค้างไว้ที่โรงพยาบาล จนกระทั่งโลงมาเสร็จในข่วงเย็นทางวัดจึงสามารถนำโลงไปบรรจุร่างผู้เสียชีวิตที่น้ำหนักมากที่สุดรายนี้ดำเนินการฌาปนกิจได้สำเร็จ
ไวยาวัจกร กล่าวอีกว่า ด้วยน้ำหนักของผู้เสียชีวิตที่มีน้ำหนักมากที่สุดเท่าที่ทางวัดเคยเผามา ทำให้เกิดความกังวลใจในการช่วงยกโลงจากรถขึ้นเตาเผา เพราะกลัวโลงหล่นมาแตก จะทำให้ภารกิจเกิดความยุ่งยากมากขึ้นไปอีกเพราะไม่มีโลงพิเศษสำรองไว้ ทำให้คนต้องระดมเต้าหน้าที่ของวัดมาช่วยกันยกจำนวน 9 คน ซึ่งแม้จะทุลักทุเลไปหน่อยแต่ก็สามารถยกโลงที่มีน้ำหนักมากที่สุดเข้าเตาเผาได้สำเร็จ จากที่แรกกังวลว่าโลงจะใหญ่กว่าเตาเผาศพ ซึ่งทุกอย่างก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ด้วยความเรียบร้อย ซึ่งทางวัดต้องเร่งดำเนินการเผาศพ 9 รายที่รับมาให้เสร็จสิ้น ทำให้ภารกิจฌาปนกิจศพสุดท้ายของเมื่อวานนี้มาเสร็จสิ้นเอาในเช้าวันที่ 18 ก.ค. เวลา 05.13 น.