ของแพงไหม ก็แล้วแต่โซน แหล่งท่องเที่ยวในเชิงรูปแบบนี้ บนเกาะห่างไกลชายฝั่ง ยิ่งไกลก็ยิ่งแพง เพราะการเดินทาง การขนส่ง ที่เกาะปันหยีเมื่อก่อนลำบากกว่านี้มาก เมื่อน้ำจืดไม่พอใช้ ต้องใช้เรือไปขนมาจากฝั่ง เพิ่งมีการเดินท่อประปาผ่านทะเลมาไม่กี่ปี ระบบไฟฟ้าก็ด้วย มีผลต่อราคาที่พักที่กิน และการดำรงชีพ

เดิมทีไม่เกิน 50 ปี ก็ยังเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่สงบหลบพายุมรสุมได้ดี การท่องเที่ยวเพิ่งรุกเข้ามาไม่กี่สิบปี แรกๆ แค่แวะมากินข้าว อาบน้ำอาบท่าแบบแวะบ้านพี่น้อง ไปๆมาๆ จนมันกลายเป็นตลาดท่องเที่ยวเต็มรูปแบบในทุกวันนี้

ส่วนใครบางคนที่บอกว่า มาเที่ยวแถวนี้ไม่เห็นมีอะไร สาเหตุมีแค่สองอย่าง อย่างแรก ไม่ใช่แนวของคุณ อย่างที่สอง คือ ไม่ได้ทำการบ้านหาข้อมูลก่อนการเดินทาง

มันมีทริปการท่องเที่ยวให้เลือกมากมาย ไกด์ผู้ชำนาญจะจัดการให้ว่าควรไปที่ไหน แวะที่ใด กินตรงไหน พักที่ใด ตรงไหนไม่ควรแวะ อะไรไม่ควรซื้อ เพื่อให้เหมาะสมกับเวลา และคุ้มกับเงินในกระเป๋าของคุณ ถ้าแนวไปกันเองแต่ทำการบ้านมาดี หรือเจอไกด์ดีๆช่วยพาไป ก็จะผ่านฉลุยไม่มีปัญหา หรือจะจัดโปรแกรมใหม่ด้วยตัวเอง ก็ยังทำได้ ตรงไหนไม่ชอบไม่ใช่แนว ก็ไม่ต้องแวะ

การท่องเที่ยวโดยส่วนตัวในโซนนี้ ก็แนวๆ แวะเที่ยวตามเกาะต่างๆที่มีถ้ำและชายหาด พายคายัค ชมภูเขาและพรรณไม้สวยๆ แวะกินข้าวและเดินเล่นบนเกาะปันหยี แล้วก็กลับไปนอนบนเกาะยาวน้อย เช็คอิน พาราไดซ์รีสอร์ท – ทรีเฮาส์รีสอร์ท หรือถ้าเงินเหลือเยอะๆจนไม่รู้จะพาไปไหน ก็แนะนำพักที่เดอะซิกเซนต์ คืนละแสน ถึงหลายแสน

ส่วนในกระแสโซเชี่ยลที่เหมือนฟัดกันจะเอาให้ตุยกันให้ได้ ในเรื่องก็ดูๆมาแล้วล่ะ หลักๆมีคนผิดแค่สองสามคน แต่สังคมไทยส่วนใหญ่สรุปไปแล้วว่าเลวทั้งเกาะ ถึงขั้นมีการสาปแช่งให้ล้มละลายให้เกาะจมน้ำ อย่าไปเที่ยวอย่าไปเหยียบ แชร์กันหนัก กะจะเอาให้ตุยให้ฉิบหายกันให้ได้ เหมือนกับว่าสะใจดีที่ได้เกาะกระแสถล่มกันไป

ที่นั่น เป็นชุมชนมุสลิมแบบ 100 % มีมัสยิด มีโรงเรียน มีเด็กๆมากมาย เด็กๆชาวปันหยีถ้าได้อ่านได้รับรู้แรงถล่มด้านโคตรลบจากสังคมโซเชี่ยล เขาจะรู้สึกยังไง ก็ลองนึกถึงตัวเอง หากสมมุติว่าคุณเป็นคนเกาะปันหยีโดยกำเนิด และเติบโตที่นั่น

ก็ไม่ต่างกับที่มีมุสลิมสักสองสามคน หรือสัก 100 คนล่ะกัน เป็นพวกก่อการร้าย มีข่าวด้านลบให้เห็นผ่านตา แล้วคนแทบทั้งโลกก็จะสรุปให้ว่าอิสลามเป็นศาสนาที่ป่าเถื่อน เป็นศาสนาพวกก่อการร้าย ฯลฯ ทั้งที่โลกนี้มีมุสลิมกว่า 1,565 ล้านคน

ใครล่ะอยากแก้ต่างเรื่องแบบนี้ ให้กับผู้คนที่ตัดสินไปแล้ว ไม่น่าจะมี เพราะโคตรจะเสียเวลาชีวิต ปล่อยให้เขาสรุปกันไป แล้วแต่ความฉลาดของแต่ละคน

และเรื่องทัศนคติ ที่ส่วนมากถ้าติดด้านลบในหัวแล้ว คือพาไปจนตุยเท่านั้นล่ะ ยากมากที่จะแก้ไขแก้หัวสมอง ยากยิ่งกว่าแบกรถไถเอาไปวางเล่นๆ บนยอดเขาเอเวอร์เรส”