เผยประวัติ ‘ฤาษีอ้าย’ ผู้สร้างเจดีย์ธาตุ 9 องค์ หลังพบกลางป่า อยู่มานับ 100 ปี
วันที่ 8 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี เจ้าอาวาสวัดห้วยเรียน ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนกลาง อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล จ.ลำพูน ได้จาริกและนำสำรวจโบราณสถาน องค์เจดีย์ธาตุ บริเวณสันเขาแบ่งเขตระหว่าง ต.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง และ ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน (ขุนน้ำแม่ต๋ำหลวง ถึง ขุนน้ำแม่ต๋ำน้อย) เมื่อวันที่ 1-3 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบมีองค์เจดีย์ธาตุ ตั้งอยู่ทั้งหมด 9 องค์ ตลอดแนวสันเขา ซึ่งมีสภาพสมบูรณ์ 2 องค์ ที่เหลือบางองค์มีสภาพชำรุด บางองค์มีสภาพผุพังเหลือแต่ฐานองค์เจดีย์และพระพุทธรูปบรรจุภายในองค์เจดีย์ อ่านข่าว ซ่อนตัวมาเป็นร้อยปี! เพิ่งสำรวจพบ เจดีย์ธาตุ 9 องค์ กลางป่ารอยต่อ 2 จว. เผยสิ่งอัศจรรย์
ล่าสุด พระครูอมร สุจิตฺโต อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งกล้วย อายุ 65 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดเวียงทอง ต.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง เปิดเผยว่า ตอนเด็กอายุ 10 ขวบ ได้บรรพชาเป็นสามเณร และได้ขึ้นไปบนดอยขุนตาล ที่สร้างองค์เจดีย์ธาตุ พร้อมกับชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่ ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ยังเหลือไม่กี่คน ต้องเดินขึ้นเขาระยะทางจากบ้านทุ่งกล้วย อ.เมืองลำปาง ขึ้นไปประมาณ 30 กม.ถึงสันเขาเขตรอยต่อ ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน ต้องใช้เวลา 2 วันและนอนค้าง 1 คืน จึงกลับลงมา สมัยนั้นการเดินทางลำบาก เพราะเป็นป่าเขารกบนเขาสูง และมีไม้สักเยอะมาก จนกระทั่งมีการเปิดสัมปทานจนปัจจุบันกลายเป็นป่าร้างมีไม้สักหลงเหลืออยู่บ้าง
ทั้งนี้จากประวัติทราบว่าเป็นฤาษีชื่อ อ้าย วงค์สวรรค์ เดิมเป็นคนเลี้ยงช้างชักลากไม้ ก่อนขึ้นเขาจะมีปางช้างที่พักช้างที่ชาวบ้านขึ้นไปช่วยสร้างองค์เจดีย์ธาตุไปพักค้างคืน และเป็นทางเริ่มต้นขึ้นไปช่วยกันหามดิน หิน ปูนขึ้นไปสร้างอค์เจดีย์ธาตุโดยสร้างเป็นทรงล้านนา ซึ่งท่านชอบสร้างวัด สร้างองค์เจดีย์ธาตุหลายที่ในภาคเหนือ ทั้ง จ.เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และ จ.ลำปาง เช่น เจดีย์ที่วัดบ้านวอแก้ว อ.ห้างฉัตร วัดพระธาตุจอมป๋อ และที่บ้านทุ่งปง เมืองปาน บ้านจำ และบ้านกลาง รวมทั้งบนดอยขุนตาลที่เป็นข่าวค้นพบล่าสุด ซึ่งองค์เจดีย์ธาตุที่ล้ม ไม่ได้ล้มเองเองหรือชำรุดแต่อย่างใด แต่เกิดจากชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่า หากินบนดอย ไปขุดค้นหาของเก่าที่บรรจุในองค์เจดีย์ธาตุไปขาย เนื่องจากมีทางขึ้นลง ทางชาวบ้านเทียวเข้าไปหาของป่าและรอยชักลากไม้สมัยเปิดสัมปทานให้ตัดไม้
พระครูอมร กล่าวต่อว่า ฤาษีอ้าย เป็นศิษย์ครูบาศรีวิชัย ท่านได้บวชเป็นพระเดินธุดงค์ในป่าและถ้ำที่เงียบสงบ และไปที่ไหนก็จะสร้างวัด สร้างเจดีย์ สร้างเสร็จท่านก็จะธุดงค์ต่อไปยังที่อื่น ที่จริงท่านเป็นพระ แต่แต่งตัวเป็นฤาษี เนื่องจากกลัวโดนฆ่า เหมือนครูบาศรีวิชัยในสมัยนั้น เลยเรียกว่าฤาษี และในเขต ต.บ้านเอื้อม มีวัดร้างอยู่หลายแห่ง เช่นวัดบ้านปงกุ่ม วัดบ้านดงลาน และวัดเวียงทอง จากการศึกษาข้อมูลมีเขตแนวเขต แต่ถูกชาวบ้านบุกรุกทำไร่และขุดค้นหาวัตถุโบราณ
พรครูอมร กล่าวอีกว่า อย่างเช่นวัดเชียงทอง วัดร้างเก่าแก่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ห่างท้ายหมู่บ้านประมาณ 2 กม.ล้อมรอบด้วยไร่ข้าวโพด มันสำปะหลัง ห่างจากอุทยานฯดอยขุนตาลประมาณ 30 กม.มีฐานหลักศิลาขอบเขตวัดชัดเจนแต่ว่าได้ถูกขโมยขุดเอาไปและหากไม่เข้ามาพัฒนาเป็นวัดคงจะถูกยึดพื้นที่ไปเช่นกันจึงได้เข้ามาพัฒนาตั้งแต่ ปี 2550 เนื่องจากเป็นวัดร้างเก่าแก่ ได้ก่อสร้างเจดีย์ อุโบสถและวิหาร ยังไม่มีกำลังแพงล้อมรอบ จนปัจจุบันเป็นเวลากว่า 15 ปีแล้ว
นายอดิสร อุ๊ดสืบ รองนายก อบต.บ้านเอื้อม กล่าวว่า ทั้งนี้สำหรับเรื่องราวการค้นพบองค์เจดีย์ธาตุดังกล่าว ชาวบ้านต่างให้ความสนใจ เนื่องจากที่ผ่านมาได้ยินแต่เพียงเรื่องเล่าขานกัน เมื่อมีการค้นพบจึงอยากรู้ที่มาที่ไป รวมทั้งประวัติฤาษีอ้ายที่เป็นชาวบ้านทุ่งกล้วย และมีคู่แฝดเป็นผู้หญิง ปัจจุบันมีหลานอยู่หลายคน อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวบ้านผู้สูงอายุ ที่เคยขึ้นไปช่วยสร้างเจดีย์ธาตุบนดอยขุนตาลยังมีชีวิตอยู่และปราชญ์ชาวบ้าน เช่นนายสันติ อดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านทุ่งกล้วย ที่พยายามเก็บรวบรวมประวัติความเป็นมาหมู่บ้าน บ้านทุ่งกล้วย เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาได้รู้ต่อไป