เผยประวัติบ้านร้าง สาวถ่ายชวนขนลุก ผญบ.เผยหลังนี้ไม่มีอะไร แต่อีกหลังน่ากลัวกว่า ผัวเมีย ตชด.มาเช่ายังเผ่นหนี ทั้งที่ยังไม่ขนของลงรถ

จากกรณีสมาชิกพันทิป “นัมนามู” โพสต์ภาพบ้านหลังหนึ่ง ระบุว่า ขณะกลับบ้านช่วงสงกรานต์ บังเอิญขับรถผ่านบ้านหลังนี้ ตั้งอยู่ที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถนนหน้าหาดแห่ พบบ้านเก่าถูกปล่อยทิ้งร้าง มีการตั้งเจดีย์ใส่กระดูกเรียงรายหน้าบ้าน หลังโพสต์ออกไปมีชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บางรายบอกว่าบรรยากาศคงน่ากลัวอาจถูกทิ้งร้างมานาน และบ้านหลังนี้อาจไม่มีประวัติขนลุกใดๆ เจ้าของอาจเคยทำธุรกิจขายศาลที่ใส่กระดูก หรืออาจจงใจวางเจดีย์ใส่กระดูกไว้กันขโมยก็เป็นได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว สาวขับผ่านบ้านสุดสะดุดตา ถามหาประวัติ ชาวเน็ตเมนต์ชวนขนลุก

ล่าสุดวันที่ 20 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พบว่าตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงชนบท นพ.3015 พื้นที่บ้านน้ำก่ำใหม่พัฒนา หมู่ 18 ต.น้ำก่ำ สายธาตุพนม-คำผักแผว-หว้านใหญ่ ฝั่งขาเข้าก่อนถึงตัว อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ราว 6 กิโลเมตร

พบหน้าบ้านมีสะพานคอนกรีตกว้าง 6 เมตร ขนาบด้วยเสาสูง 2 เมตร 2 ต้น หน้าริมรั้วมีศาลพระภูมิตั้ง 3 จุดเรียงกัน ริมรั้วด้านขวาพบซากกระถางเสาปูนโรมัน และจานดาวเทียมทิ้งกองอยู่ หน้าบ้านพบเจดีย์ธาตุ 3 ต้น มีดอกไม้ธูปเทียนแห้งปักไว้

ตัวบ้านเป็นบ้านปูน 2 ชั้น เลขที่ 175 เสาทรงโรมัน 4 ต้น หลังคาทรงคล้ายยุโรปเก๋งจีน ประตูหน้าบ้านถูกปิดตาย มีกุญแจล็อกไว้ พบกิ่งไม้แห้งธูปเทียนห้อยไว้ มีนกพิราบบินโฉบไปมา กลางวันบรรยากาศค่อนข้างวังเวง

จากการสอบถาม นางเนตรนภา อักษร อายุ 45 ปี แม่ค้าส้มตำ กล่าวว่า บ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านของ นายสุนทร ลำลอง หรือ ครูเชียง อายุ 63 ปี อดีตครูโรงเรียนบ้านคับพวง ซึ่งเป็นคนโสด และย้ายมาสอนที่โรงเรียนบ้านทู้ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม เป็นบ้านมรดกตั้งอยู่บนที่ดินครึ่งไร่เศษ

หลังเกษียณอยู่บ้านหลังนี้ได้ 3 ปี ก็เสียชีวิตด้วยโรคไตและเบาหวาน ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ส่วนญาติเป็นหมอพยาบาลและเภสัชกร มีบ้านหลายหลังและที่ดินจำนวนมาก ฐานะค่อนข้างดี จึงไม่ค่อยมีใครมาอยู่จนถูกทิ้งร้างมานานร่วม 10 ปี

ตนอยู่ตรงข้ามบ้านหลังนี้ ก็ไม่มีผีหรือวิญญาณอะไรก็ปกติดี ส่วนเจดีย์ธาตุน่าจะเป็นของพ่อแม่ และของผู้ตาย ปกติจะเอากระดูกไว้บ้าน แต่ญาติอาจจะเอากระดูกมาไว้บ้านมรดกของพ่อแม่ ไม่น่ากลัวอะไรชาวบ้านทราบดี ไม่มีคนดูแลบ้าน จึงอาจจะมองดูทรุดโทรม

ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวว่า บ้านของ ครูเชียง ไม่มีอะไรน่ากลัว แต่มีอีกบ้านหลังหนึ่งที่ร้างข้างบ้านผู้ใหญ่บ้าน ยิ่งมีเสียงล่ำลือว่าไม่มีใครอยู่ ถูกทิ้งร้างยิ่งน่ากลัวกว่าหลังนี้

ด้านนายดิเรก กะหล่ำผัก อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ.น้ำก่ำใหม่พัฒนา กล่าวว่า เจดีย์ที่อยู่หน้าบ้านครูเชียง เป็นเจดีย์บรรจุอัฐิพ่อแม่และครูเชียง ปล่อยทิ้งร้างมานานไม่มีใครอยู่ ยืนยันว่าไม่น่ากลัว แต่หลังที่ข้างบ้านตนน่ากลัวกว่า เป็นบ้านฝรั่งชื่อพอล มีภรรยาเป็นสาวสอง ซึ่งภรรยาเป็นชาวลาว แขวงสวันนะเขต มีคนในหมู่บ้านซื้อไว้ แต่ไม่ได้อยู่ไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และได้เสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้

สำหรับบ้านหลังนี้เป็นบ้านปูน 2 ชั้น ทรงสเปน 3 ห้องนอน อยู่ห่างจากบ้านครูเชียงแค่ 800 เมตร สร้างมานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งหมู่บ้าน เนื้อที่ 4-5 ไร่ เคยมีคนมาขอซื้อ 3 ล้านแต่เจ้าของบ้านที่อยู่ต่างประเทศไม่ขาย

ก่อนนี้มีชาวบ้านเคยมีผัวเมีย ตชด.ไปเช่าอยู่ก็อยู่ไม่ได้ เห็นเป็นเงาคล้ายคนในช่วงพลบค่ำ ยังไม่ได้ขนสิ่งของลงจากรถ เผ่นหนีแทบไม่ทัน อีกทั้งมีผู้บุกรุกเข้าไปปลูกผักหลังบ้านมีอาการป่วย และเสียชีวิตไปแล้ว 1 คน จึงร่ำลือปากต่อว่าเฮี้ยน นอกจากเจ้าที่จะแรง วิญญาณคนตายอาจจะหวงบ้านก็อาจเป็นไปได้