ช่วงนี้ดูสวย สดใส จนหลายคนทัก สำหรับคุณแม่ลูกสอง “เป้ย ปานวาด” แถมล่าสุดยังถูกหมอดูทักอีกว่าจะมีหนุ่มรุ่นน้องเข้ามาทำให้ชีวิตดีขึ้น พบเจอแต่สิ่งที่ดี หมดเวรหมดกกรรม งานนี้เจ้าตัวยิ้มรับ พร้อมเคลียร์ชัดหลังชาวเน็ตมีดราม่าเบาๆ ปมปัญหาแม่ผัว ลูกสะใภ้ รวมไปถึงโอกาสกลับมาคืนดีกับพี่คนสนิท “หนิง ปณิตา” ด้วย
“แม่หมออุ๋ยก็ดูให้ ก็ดีค่ะ พอเขาทักมาก็ดีใจค่ะ จำไม่ได้แล้วว่าบอกอะไรบ้าง จำได้แต่ว่าจะมีคนเข้ามา และมีแต่สิ่งดีๆ หมดทุกข์หมดโศก งานการก็จะดีเท่าที่จำได้ ก็ดี ถือว่าเป็นเรื่องดีๆ นะคะ ถ้าเป็นเรื่องดีๆ เราก็ต้องน้อมรับอยู่แล้ว”
“คือเป้ยก็ไม่ได้ปฎิเสธ ถ้าเกิดมีคนเข้ามาคุยก็เป็นเรื่องดีๆ แต่สิ่งที่ต้องโฟกัส ณ ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องพวกนี้ เรื่องคนเข้ามาเป็นเรื่องนอกประเด็นมาก ไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย ณ ตอนนี้น่าจะเป็นเรื่องลูกมากกว่า”
“สวยๆ อย่างเรา ก็มีค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าเราต้องโฟกัสเรื่องลูกมากกว่า ต้องสร้างความมั่นคงทางด้านจิตใจให้เขามากกว่า เป้ยว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในหัวเป้ยตอนนี้คือเรื่องลูกกับตัวเอง
มีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ค่ะ“
“ก็ไม่คิดว่าจากที่สัมภาษณ์ครั้งแรกครั้งนั้นจะเรตติ้งดีขนาดนี้ ต้องบอกว่าเมื่อก่อนมองแต่เรื่องในบ้าน มองแต่เรื่องในครอบครัวเป็นหลัก บางทีก็ลืมมองโลกภายนอก หรือว่าไม่ได้สนใจอะไร โฟกัสแต่เรื่องในบ้าน จนวันนี้พอเดินออกมาแล้วทุกอย่างมันกว้างขึ้น เราก็เรตติ้งยังดีอยู่นะ แต่เอาจริงๆ เป้ยไม่ได้คิดเรื่องนี้อยู่ในหัวเลย พอมีคนเข้ามา เราก็รู้สึกเซอร์ไพรส์เท่านั้นเอง แต่ก็ดี มันก็ชุ่มชื่นหัวใจ แต่ตอนนี้ก็ต้องโฟกัสเรื่องลูก และเคลียร์ปัญหาภายในบ้านให้จบให้เรียบร้อยก่อน”
“เรื่องภายในบ้านคลี่คลายหรือยัง ยังไม่เรียบร้อยค่ะ อยู่ในช่วงระหว่างเจรจาค่ะ เอาเป็นว่าเรื่องสถานะตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนอะไรมาก มันยังไม่ปิดจบ เป้ยก็เลยขออนุญาตไม่พูดก่อนดีกว่า เอาไว้เป็นโอกาสหน้าเมื่อมันชัดเจนแล้วก็จะออกมาพูดอีกครั้งนึง เอาเป็นว่าเดี๋ยวบอกอีกทีนึง ให้เคลียร์หลังบ้านให้เรียบร้อยก่อน”
“สภาพจิตใจจะบอกว่า 100 ก็ยังไม่ได้หรอก เพราะอย่างที่บอกว่าขอเคลียร์ให้มันจบก่อน แต่ถามเรื่องความรู้สึกก็ตามนั้นแหละค่ะ แฮปปี้มาก มีความสุขมาก รู้สึกโล่ง รู้สึกดี”
“อันนี้ต้องขออนุญาตนิดนึงนะคะ เป้ยขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดในเรื่องการไลฟ์วันนั้นแล้วกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ ณ เวลา 12 ปีที่เป้ยได้อยู่ในบ้านหลังนี้มา คุณแม่คุณป๊อปดูแลเป้ยเป็นอย่างดีมากๆ เป้ยชอบทานอะไร คุณแม่ก็จะซื้อมาให้ทานตลอด เวลาที่เป้ยไม่สบาย เป็นโควิด คุณแม่จะเป็นคนแรกที่คอยส่งข้าว ส่งน้ำ ส่งยามาให้ และคอยถามอาการทุกๆ อย่างตลอดเวลา เรียกว่าคุณแม่เอาใจใส่เป้ยเป็นอย่างดีมากๆ นะคะ
ในเวลาที่เกิดปัญหาทุกๆ ครั้ง ก็จะมีคุณแม่คุณป๊อป คุณแม่เป้ย และป๋าคุณพ่อคุณป๊อปที่คอยจัดการแก้ไขปัญหาให้ตลอด คือก่อนที่ทุกอย่างจะมาถึงทุกวันนี้ เรียกว่าท่านทั้ง 3 คนน่าจะเป็นคนสุดท้ายที่ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์พวกนี้มากที่สุด สำหรับบ้านเป้ยไม่มีเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้แน่นอน ฉะนั้นตัดไปได้สำหรับคอมเมนต์แบบนี้ ก็ต้องขอชี้แจงตรงนี้ก่อน แต่ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดตรงนี้ เพราะมันมีลูกเป้ยเข้ามาเกี่ยวด้วย แต่อธิบายในความสัมพันธ์ระหว่างเป้ยกับคุณแม่คุณป๊อปว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะคะ คุณแม่น่ารักกับเป้ยมากๆ เอ็นดูเป้ยมากๆ และ ณ วันที่เป้ยตัดสินใจ คุณแม่กับป๋าก็เสียใจมากๆ และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ด้วยซ้ำค่ะ เพราะที่ผ่านมาเขาดูแลเป้ยอย่างดี ป๋าก็พูดย้ำตลอดว่าเป้ยเป็นลูกสาวคนนึงของป๋าค่ะ เขาก็เสียใจและร้องไห้ด้วยซ้ำที่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้
วันนี้เป้ยก็ขอโอกาสเลยแล้วกัน ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเป้ย ป๋าและคุณแม่ไม่ได้มีอะไรรุนแรง ไม่ได้มีอะไรอย่างที่ทุกคนเข้าใจนะคะ ทุกอย่างโอเคมากๆ คุณแม่น่ารักกับเป้ยมากๆ ค่ะ”
“คือจริงๆ วันนั้นมีคนมาคอมเมนต์ก่อน เมย์ก็เลยอ่านคอมเมนต์ ก็ตามประสาเมย์แหละค่ะ ชอบแซว ชอบเล่น แต่มันก็ไม่มีอะไรเลยค่ะ จริงๆ เมย์เขาน่ารักมากๆ มีความเป็นกาวใจให้ตลอดในระยะหลายๆ ปีที่ผ่านมานะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป้ยว่าเราอยู่ในจุดที่ทั้งเป้ยกับพี่หนิง เราสองคนสบายใจกันอยู่ในจุดๆ นี้อยู่แล้วค่ะ เป้ยเชื่อว่าพี่หนิงก็คิดแบบนี้ อย่างที่เป้ยบอกว่าอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ คือความรู้สึกของเป้ย เป้ยยังจดจำเรื่องราวดีๆ ระหว่างเป้ยกับพี่หนิงตลอดเวลา ฉะนั้นการที่คนเรารักกัน ก็ไม่ได้แปลว่าต้องอยู่ด้วยกันตลอดก็ได้ เรามีความรักและหวังดี และอยู่ในจุดๆ นี้ก็ได้ แค่เราส่งความปรารถนาดีไปให้ แค่นี้เป้ยก็โอเคแล้ว และเป้ยก็คิดว่าพี่หนิงก็คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
“ถ้าเจอกันก็ต้องทักทายกันอยู่แล้วค่ะ มันเป็นเรื่องปกติของคนเคยรักกัน มันไม่มีอะไรที่จะต้องไม่ทักค่ะ เพียงแต่ว่าจุดนี้ทั้งเป้ยและพี่หนิงเราสองคนสบายใจที่จะอยู่จุดนี้กันแล้วค่ะ ก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ที่มอบให้กัน แต่ที่คนเชียร์ให้กลับมาเป็นแก๊งนางร้ายเหมือนเดิมเนี่ย ก็อย่างที่บอกว่าบางทีคนรักกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอด ถามว่ามีเวลาที่จะวนมาเจอกันบ้างมั้ย มันต้องมีโอกาสนั้นอยู่แล้วค่ะ คงจะไม่มีทางไม่เจอหรอกค่ะ มันคือความทรงจำที่ดีๆ เป้ยยังจดจำเรื่องราวทุกอย่างได้ อย่างที่เคยสัมภาษณ์ไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เป้ยก็ยังยืนยันความรู้สึกเดิม เวลาที่เป้ยเดินออกกำลังกายผ่านหน้าบ้านพี่หนิง เวลาได้ยินเสียงพี่หนิง เป้ยก็จะยิ้มและหัวเราะ เอ็นดู มันเป็นความรู้สึกดีๆ ซึ่งตอนนี้มันโอเคแล้ว ไม่มีอะไรนะคะ ก็ขอบคุณมากๆ ค่ะ สำหรับเป้ยก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ให้พี่หนิงเหมือนเดิมค่ะ”