‘เป่าเป้-เควส’คู่จิ้นมาสเตอร์เชฟ – จากผู้เข้าแข่งขันในรายการที่หลายคน จับให้เป็นคู่จิ้น กลายมาเป็นหุ้นส่วน ในชีวิตจริง สำหรับ 2 เชฟคนเก่งจากรายการ “มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์” ‘เป่าเป้’ เจสสิก้า หวัง ดีกรีแชมป์มาสเตอร์เชฟ ออล สตาร์ ไทยแลนด์ และ ‘เควส’ ชานิน จีมะ รองชนะเลิศ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ซีซั่น 3 และรองชนะเลิศมาสเตอร์เชฟ ออล สตาร์ ไทยแลนด์ที่ลงขันเปิดร้านคาเฟ่ในฝัน ชื่อสุดเก๋ว่า “PQRS” ย่านใจกลางเมือง

ล่าสุด ‘เป่าเป้-เควส’ ถือฤกษ์ดี 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา แกรนด์โอเพนนิ่ง PQRS ร้านคาเฟ่ร้านแรกในชีวิต ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งร้านสุดน่ารัก พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงที่มาที่ไปและการจับมือเป็นหุ้นส่วนกัน

จุดเริ่มต้นของร้านเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เป่าเป้ – “หลังแข่งขันมาสเตอร์เชฟไป ก็มีแพลนอยากเปิดร้านอาหาร แต่เนื่องจากมีโควิดทุกอย่างเลยช้าลง สุดท้ายก็เลยเปลี่ยนแพลนเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว เริ่มหาที่เปิดร้านเล็กๆ ให้คนสามารถมาชิมฝีมือเราได้และรู้สึกเข้าถึงง่ายพอหาที่ได้ก็เริ่มทำเลยค่ะ”

ชื่อร้าน PQRS แปลว่าอะไร?

เป่าเป้ – “จริงๆ ชื่อร้านมาจากตัวอักษรภาษาอังกฤษที่หลายคนท่องและคุ้นกันว่า เป็น L M N O P แล้วก็ Q R S เลยเป็นที่มาที่เราจับตัว P กับ Q มาด้วยกัน กลายเป็น PQRS ใช้ชื่อนี้เพื่อให้คนจำง่าย แล้วก็อีกความหมายหนึ่งสำหรับคนที่รู้จักเรา P คือ เป่าเป้ Q คือเควส ส่วน R กับ S คือ Recipe กับ Studio คือเป็นสูตรของเรา แล้วก็เป็นพื้นที่ของเรา เพราะนอกจากเป็นคาเฟ่แล้ว ชั้นบนสุดของร้านยังเป็น Private Chef’s Table ค่ะ”

ทำไมถึงเลือกที่จะเปิดร้านคาเฟ่ด้วยกัน?

เป่าเป้ – “ตั้งแต่ตอนแข่งในรายการก็เป็นเพื่อนสนิทกัน เพราะรู้สึกว่าเควสเป็นคนคุยง่ายและมีฝีมือคนหนึ่ง หลังจบรายการแล้วเราก็มีการร่วมทำ Chef’s Table ด้วยกันหลายครั้งมากจนเริ่มรู้สึกคลิกกัน ความแตกต่างของเรามันกลับทำให้เราช่วยเสริมซึ่งกันและกันในสิ่งที่คนหนึ่งไม่ถนัด”

ใครเป็นคนชวนใครมาทำด้วยกัน?

เควส – “เป้ชวนมั้ง ตอนซีซั่น 3 ก่อนจะแข่งเสร็จว่าอยากทำ Chef’s Table ด้วยกันไหมเราก็บอกว่าอยากทำ พอทำครั้งแรกหลังจากนั้นก็ทำด้วยกันมาตลอด ไม่เคยมีเดี่ยว ไม่เคยมีกับคนอื่น จนมาเปิดร้านด้วยกัน แล้วความที่ทำด้วยกันมาตั้งแต่แรกก็เลยโอเค เราชอบทำอาหาร ชอบไปคาเฟ่อยู่แล้ว เมนูพวกนี้ก็เป็นอะไรที่คนกินง่าย คิดว่าน่าจะสนุกดี”

คอนเซ็ปต์ร้าน?

เป่าเป้ – “ร้านนี้มีธีมเป็น Combination of Contrastable คือการรวบรวมคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันมาอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว เปรียบเหมือนเป็นเอกลักษณ์ของเราสองคนที่ไม่ลงตัวดูไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายกลับมาเวิร์กได้”

แบ่งกันดูแลเรื่องอาหารอย่างไร?

เป่าเป้ – “เป้ชอบทำขนมก็จะดูแลเรื่องขนม ส่วนอาหารจะชอบแนวที่มีความเป็นฟิวชั่น ส่วนเควสชอบอาหารฝรั่ง เมนูพาสต้าต่างๆ ก็ยกให้เขาดูแลเลย”

เมนูแนะนำ?

เป่าเป้ – “ปกติเวลาพูดถึงคาเฟ่หลายคนจะนึกถึงแต่ขนมกับเครื่องดื่ม แต่สำหรับเราเน้นอาหารค่ะ เป็นคาเฟ่ที่ตอบโจทย์ในด้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นพาสต้าเส้นสดที่อยากแนะนำมากๆ กับส่วนของโบวล์ (Bowl) ที่เป็นข้าวหน้าต่างๆ

เควส – “ตัวเองเป็นคนเสนอเมนูพาสต้าเส้นสดไว้ เพราะชอบและถนัด ถ้ามาถึงร้านอย่าลืมสั่งไปลองชิมกันดู”

การลงทุนเปิดร้านในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ค่อนข้างมีความเสี่ยง กังวลไหม?

เป่าเป้ – “จริงๆ ก็กดดัน แต่คิดว่าเป็นความท้าทาย หลังได้ตำแหน่งแล้วเรารู้สึกอยากจะให้หลายๆ คนรู้ว่าเราก็มีความพยายามจะพัฒนาตัวเองมาตลอด รวมถึงมีอะไรใหม่ๆ มาให้ทุกคนติดตาม ซึ่งการเปิดคาเฟ่เป็นสิ่งที่เป้ฝันตลอด เพราะส่วนตัวเป็นสายคาเฟ่ คิดว่าอาหารคาเฟ่กินง่ายและกินได้ทุกวันไม่เบื่อ เลยอยากทำอาหารสไตล์นี้ค่ะ”

ฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง?

เป่าเป้ – “เป้กับเควสปิดเงียบมากเกี่ยวกับการเปิดร้าน เพราะอยากเซอร์ไพรส์ทุกคน เนื่องจากหลายคนชอบที่เราสองคนรวมตัวกัน การเปิดร้านด้วยกันครั้งนี้ก็เหมือนเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์แฟนๆ จริงๆ ตอนนี้ทุกคนก็ยังตกใจ แต่หลายคนก็บอกว่าดีใจและจะมาอุดหนุน”

การทำอาหารเป็นเรื่องของศิลปะ แต่การเปิดร้านก็เป็นเรื่องของพาณิชย์ด้วย?

เป่าเป้ – “เราก็พยายามค่อยๆ โปรโมต อยากให้ทุกคนรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นที่ที่สำหรับแค่ถ่ายรูปครั้งเดียวจบ ตอนนี้ด้วยเทรนด์มีการเปิดร้านคาเฟ่ใหม่หลายที่ แล้วความต้องการของแต่ละคนเปลี่ยนแปลงตลอด เลยทำให้หลายๆ ร้านไม่ค่อยมีลูกค้ากลับไปเรื่อยๆ ร้านเราเลยอยากให้ทุกคนรู้สึกว่าถึงมาแล้วก็มาได้อีก เพราะด้วยตัวเลือกอาหารที่เยอะ แล้วบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เพราะมันอยู่ในซอย เหมือนชวนทุกคนมาทานอาหารที่บ้าน”

ราคาจับต้องได้?

เป่าเป้ – “เรียกว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลมาก สแตนดาร์ด จับต้องได้ สามารถกินได้ทุกวันค่ะ ไม่ได้เป็นราคาที่สร้างภาระมาก (หัวเราะ)”

ความที่เป็นเพื่อนสนิทกัน พอต้องมาทำธุรกิจด้วยกันมีตีกันบ้างไหม?

เป่าเป้ – “มีค่ะ ด้วยนิสัยที่ต่างกัน บางทีเป้ก็จะรู้สึกว่าเวลามีอะไรเราต้องแสดงมันออกมา ต้องคุยกัน แต่เควสจะนิ่งๆ เลยจะตีกันเพราะทำไมเธอนิ่งจัง (หัวเราะ) แต่ก็ไม่เคยตีกันเกินชั่วโมง เพราะมีสิ่งที่ต้องทำมากกว่าการทะเลาะกัน”

เควส – “รู้สึกว่าถึงทะเลาะกันยังไงก็ไม่น่าจะถึง คำว่าแตกกัน เพราะมันก็มีเหตุผลอยู่ลึกๆ ทั้งสองคน อีกอย่างด้วยความที่เราเป็นคนชิล เลยไม่ค่อยมีปัญหา”

เป่าเป้ – “แต่บางครั้งถ้าเขาเสนอว่าเขาจะเอาแบบนี้ เป้จะไม่ขัด เพราะนานๆ เขาถึงจะพูดว่าไม่เอา ไม่ได้ หรือไม่ดี ฉะนั้นพอเขาพูดว่าไม่ได้ขึ้นมาเมื่อใด คำพูดนั้นจะมีน้ำหนักทันที”

คู่จิ้นในรายการ จนจบรายการก็ยังมาทำร้านด้วยกันอีก เรียกว่าสลัดกันไม่หลุดแล้ว?

เควส – “น่าจะๆ ไม่รู้ทำบุญหรือทำเวร (หัวเราะ) หยอกๆ เล่น”

เป่าเป้ – “แรกๆ ที่โดนแซวว่าเป็นคู่จิ้นก็มีเขินบ้าง แต่หลังๆ ไม่รู้สึกอะไรแล้ว ด้วยมันสนิทกันมาก เรียกว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากค่ะ มองตารู้ใจ”

คาดหวังแค่ไหน?

เป่าเป้ – “ความที่เป็นร้านแรกของเรา สองคนก็มีความคาดหวังสูง เพราะเราตั้งใจทำทุกรายละเอียด หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเชฟคงมีส่วนร่วมแค่เรื่องการทำอาหาร แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในร้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องก่อสร้าง ออกแบบ ทุกอย่างผ่านมือเราหมด เลยหวังว่าร้านนี้สามารถจะทำให้ทุกคนได้เห็นคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างแต่ลงตัวของเราทั้งสองคน แล้วก็ได้ชิมฝีมือการทำอาหารของพวกเราจริงๆ”

ฝากร้าน?

เป่าเป้ – “ร้าน PQRS อยู่ที่ทองหล่อ ซอย 19 ตรงข้ามสถานีตำรวจทองหล่อ เข้ามาสุดซอยเลี้ยวขวาและเลี้ยวซ้ายก็จะเจอร้านเลยอยู่ทางขวามือ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ค่ะ”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล