ในวันที่ 23 พ.ค. 2567 กลายเป็นไวรัลไม่น้อย เมื่อผู้ใช้ไอจี “Karim Bukhadurov” ได้โพสต์วิดีโอเผยให้เห็นบรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ “Disgusting Food Museum” ในเมืองมัลโม ประเทศสวีเดน ที่รวบรวมเอาอาหารที่ดูน่าขยะแขยงที่สุดในโลกไว้
ภายในของพิพิธภัณฑ์มีอาหารจากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น “องคชาตวัว” จากประเทศจีน “ซุปค้างคาว” จากกวม “หนูตะเภา” จากเปรู เต้าหู้เหม็น จากประเทศจีน รวมถึง “ทุเรียน!!“
- อย. เตือน! อย่าหลงเชื่อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ช่วยรักษาระดับน้ำตาล
- MRT ออกแถลง ปม น้ำรั่วในขบวนรถไฟฟ้า ชี้เกิดจากปัญหาในระบบท่อระบายน้ำแอร์
- ลูกศิษย์ขอครูก็จัดให้! คุณยายวัย 78 ปี กลับมาขอผลการเรียน งานนี้วุ่นทั้งร.ร.
วิดีโอของคาริมมียอดเข้าชมมากกว่า 6.8 ล้านครั้ง ชาวเน็ตหลายคนประหลาดใจที่มีอาหารจากประเทศของตนปรากฏอยู่ในพิพิธภัณฑ์ และเมนูที่ทำชาวเอเชียพูดถึงและถกกันเสียงแตกก็คือ “ทุเรียน” เพราะหลายคนมองว่ารสชาติของทุเรียนมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ชาวเน็ตหลายคนถึงกับบอกว่า “ทุเรียนไม่ได้ขยะแขยง เป็นผลไม้ที่ยอดเยี่ยมในเอเชีย และ ค่อนข้างแพงด้วย”
โดยบนเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์จัดให้ ทุเรียนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ในอันดับที่ 17 และมีคำอธิบายว่า “ทุเรียนถือเป็นราชาแห่งผลไม้และขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นฉุนที่รุนแรงซึ่งแทรกซึมได้แม้กระทั่งเปลือกที่มีหนาม บางคนคิดว่ามันหอมหวาน ในขณะที่บางคนบรรยายว่ากลิ่นนี้เป็นส่วนผสมของหัวหอมเน่ากับน้ำเน่าดิบ หรือถุงเท้าที่ไม่ได้ซัก หรือฝูงแมวที่ตายแล้ว
บางคนได้อธิบายว่ามันเป็นปลาเน่า การกินทุเรียนเป็นสิ่งต้องห้ามในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะและโรงแรมในหลายพื้นที่ทั่วโลก มีรายงานการเสียชีวิตจำนวนมากจากการบริโภคทุเรียนร่วมกับแอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงแตกต่างจากอาหารเหม็นอื่นๆ”
“พิพิธภัณฑ์อาหารน่าขยะแขยง” หรือ Disgusting Food Museum ได้ปรับการเปลี่ยนโฉมมาจากโรงฆ่าสัตว์เก่า จุดประสงค์นอกเหนือจากการรวบรวมอาหารที่น่าขยะแขยงจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว ยังมุ่งเน้นให้ผู้เข้าชมตั้งคำถามถึงรสนิยมและความรู้สึกที่คนเรามีต่ออาหารจานหนึ่ง เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าความคิดเหล่านี้ จริงๆ แล้วเกี่ยวข้องกับบริบททางวัฒนธรรมและสังคม อาหารบางอย่างที่เรามองว่าไม่น่ากิน อาจเป็นของอร่อยสำหรับคนในอีกพื้นที่หนึ่งก็ได้