ใครจะคิดว่าเพราะคำพูดของพ่อเจ้าสาวในงานแต่งงาน และข้อถกเถียงเรื่องสินสอด จะทำให้คู่รักต้องขัดขาดความสัมพันธ์กัน หลังจากเพิ่งจดทะเบียนสมรสได้เพียง 15 นาทีเท่านั้น

ตามรายงานพบว่า คู่รักในดูไบ พร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัว และเพื่อนฝูงของพวกเขา ต่างเดินทางไปยังสำนักงานฯ เป็นสักชีพยานในพิธีลงนามทะเบียนสมรส ในเวลานั้นเจ้าบ่าวได้นำเงินออกมาให้พ่อเจ้าสาวเป็นจำนวน 50,000 เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ประมาณ 5 แสนบาท) และตกลงจะให้อีกครั้งหนึ่งหลังจากพิธีเสร็จสิ้น

ต่อมา หลังจากพิธีลงนามในทะเบียนสมรส เมื่อแขกคนอื่นๆ เริ่มทยอยกลับ พ่อตาก็ขอให้ลูกเขยจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้ครบ 100,000 เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ประมาณ 1 ล้านบาท) เจ้าบ่าวบอกให้พ่อตารอสักครู่ เนื่องจากเงินจำนวนที่เหลืออยู่ในรถของเขา แต่พ่อตายืนกรานให้ลูกเขยจ่ายเงิน “เดี๋ยวนี้”

เมื่อถูกกระทำเช่นนี้ เจ้าบ่าวรู้สึกว่าพ่อตาไม่ให้เกียรติ และสร้างความอับอายให้แก่เขา สุดท้ายจึงตัดสินใจขอเซ็นใบหย่า หลังจากเพิ่งจดทะเบียนสมรสได้แค่ 15 นาทีเท่านั้น ในที่สุดทั้งคู่ก็ไม่มีโอกาสใช้ชีวิตแต่งงานด้วยกัน แต่กลับต้องแยกทางอย่างรวดเร็วด้วยเหตุผลที่ไม่คาดคิด

ทนายความที่เป็นตัวแทนของเจ้าบ่าว กล่าวว่า “เจ้าบ่าวรู้สึกถูกดูหมิ่นและอับอาย เขาบอกพ่อตาว่าเขาไม่ต้องการแต่งงานกับลูกสาวอีกต่อไป และหย่ากับเธอเพียง 15 นาทีหลังจากลงนามในสัญญาแต่งงาน”

ทั้งนี้ ตามรายงานยังระบุด้วยว่า ในดูไบผู้หญิงจำนวนมากรู้สึกเหมือน “ถูกขาย” หลังจากลงนามในสัญญาการแต่งงาน หรือที่เรียกว่าทะเบียนสมรส พวกเธอกลายเป็นสมบัติของสามี และต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทั้งหมดที่สามีตั้งไว้ ภรรยาต้องรายงานตัวกับสามีไม่ว่าจะไปที่ไหน และต้องรอให้เขาอนุมัติก่อนจึงจะทำอะไรได้ ถ้าเธออยากผูกมิตรกับใครก็ต้องได้รับการอนุมัติจากสามีเช่นกัน ดังนั้น หลังจากแต่งงานแล้วผู้หญิงชาวเอมิเรตส์ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านและใช้เวลาทำงานบ้านเต็มเวลา