หนุ่มหัวหมอ ทำตามทริคในโซเชียลฯ แอบยัดสัมภาระไว้ใน “หมอนรองคอ” หวังขึ้นเครื่องบินแบบประหยัด ไม่จ่ายค่าสัมภาระ สุดท้ายถูกตำรวจคุมตัว
อุทาหรณ์เตือนสายเที่ยวอย่าขี้โกง! สายการบินหลายแห่งมีกฎและข้อจำกัดเกี่ยวกับสิ่งของที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ แต่ล่าสุดมีกรณีผู้โดยสารถูกห้ามขึ้นเครื่องบิน หลังจากพยายามทำตัว “หัวหมอ” แอบยัดเสื้อผ้าใส่ในหมอนรองคอ ตามเคล็ดลับที่แชร์กันอย่างแพร่หลายในโซเชียลฯ เพื่อประหยัดเงินในการจ่ายค่าสัมภาระ
ผู้ใช้งานบัญชี TikTok @natashaorganic แชร์คลิปที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสนามบินนานาชาติออร์แลนโด ผู้โดยสารชายคนหนึ่งโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับ “หมอนรองคอ” ที่เขาต้องการนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน หลังจากพบว่าเขาพยายามยัดเสื้อผ้าและสัมภาระส่วนตัวทั้งหมด ไว้ภายในหมอนรองคอดังกล่าว และปฏิเสธที่จะชำระเงินค่าสัมภาระเดินทางที่จะนำขึ้นเครื่องบิน เรื่องราวบานปลายจนตำรวจเข้าไปพัวพัน
เจ้าของคลิปกล่าวว่า “หยุดปล่อยให้เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียเหล่านี้ ให้คำแนะนำและเคล็ดลับแก่คุณ เพราะบางครั้งมันก็ใช้ไม่ได้ผล… เพื่อนคนนี้พยายามจะพกปลอกหมอนที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและสิ่งของอื่นๆ ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเพียงหมอน แต่ใครๆ ก็เห็นได้ชัดเจนว่ามันไม่ใช่แค่หมอน”
ในตอนแรกที่ตรวจพบความผิดปกติ เจ้าหน้าที่สนามบินให้โอกาสชายคนนี้จ่ายเงินเพื่อสำหรับสัมภาระของเขา แต่เขากลับยื้อเวลารอจนหยักสุดท้าย เมื่อจะถึงเวลาปิดประตูเครื่องบินจึงยอมตกลงที่จะจ่าย และพยายามพาตัวเองขึ้นเครืองบินลำนั้น แต่เจ้าหน้าที่ก็โต้ตอบกลับมาอย่างหนักแน่นว่า “ถอยออกไป เราให้โอกาสคุณแล้ว แต่คุณก็ไม่จ่ายเงิน” สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ตัดสินใจโทรเรียกตำรวจให้ควบคุมตัวเขาออกไป
เมื่อเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยบอกว่าพวกเขาแปลกใจมากๆ ที่มีคนยอมเสี่ยงครั้งใหญ่ ไม่จ่ายเงินที่ตนเองควรต้องจ่าย และสุดท้ายก็ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน เสียค่าตั๋วเดินทางซึ่งมีมูลค่ามากกว่าเสียอีก
“สนามบินเป็นสถานที่เดียวที่ฉันแน่ใจว่าฉันปฏิบัติตัวเป็นพลเมืองตัวอย่าง ทำไมเขาคนนี้ถึงไม่กลัวความผิดทางอาญา และการถูกขึ้นบัญชีห้ามบิน?”
“ฉันจะสู้กับใครก็ได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ไม่เคยคิดจะมีปัญหาใดๆ ที่สนามบินเลย การอยู่ในบัญชีห้ามบิน (no-fly lists) นั้นแย่กว่าคะแนนเครดิตที่ไม่ดีเสียอีก”
“ฉันเป็นพนักงานสนามบิน และเมื่อฉันเห็นวิดีโอนี้ ฉันก็แบบว่า ฮ่าๆ ..”