เปิ้ล ไอริณ เผย ใบเตย ขอโทษแล้ว เปิดชนวนศึก ต้นเหตุคำสาปนอนคุก

ขุดสนั่นเต็มโซเชี่ยล กับคลิปเก่าเมื่อ 9 ปีก่อน ที่ เปิ้ล ไอริณ เคยสาปแช่ง ใบเตย อาร์สยาม ผ่านสื่อเมื่อครั้งที่มีปัญหากัน “ถ้าไม่ยอมขอโทษ ได้ไปนอนหนุนแอร์เมสในตารางแน่นอน” ซึ่งเรื่องนี้ ชาวเน็ตต่างมองว่า คำสาปแช่งของ เปิ้ล ไอริณ นั้นศักดิ์สิทธิ์มากๆ หลังจากที่ ใบเตย และ ดีเจแมน ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ หลังจากที่ถูกส่งฟ้อง ในคดี Forex-3D และศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ9ปีที่แล้ว ใบเตย กับ เปิ้ล ไอริณ กลายเป็นผู้ที่มีวิวาทะผ่านสื่อกันไปมา ปมเกิดจาก ใบเตย หึงหวง ดีเจแมน ที่เล่นเลิฟซีนกับ เปิ้ล และมีข่าวเม้าธ์ว่าใบเตยสั่งให้ตัดฉากเลิฟซีนบางส่วนออกไป

ดีเจแมน-เปิ้ล เลิฟซีน

ดีเจแมน-เปิ้ล เลิฟซีน

ด้าน เปิ้ล ไอริณ ออกมาแฉฝ่ายชายขอหลับนอนด้วยถึง 3 ครั้ง ซึ่ง ดีเจแมน ก็ได้ออกมายอมรับว่าพูดขอหลับนอนจริง แต่แค่พูดเล่น ส่วน ใบเตย ได้มีการโพสต์แขวะ เปิ้ล บนโซเชียล จนกลายเป็นที่มาของประโยค ไม่ขอโทษได้ไปนอนหนุนแอร์เมสในตาราง

ใบเตย – ดีเจแมน

เปิ้ล ไอริณ ยังบอกอีกว่า ใบเตย ก๊อป เอ็มวีของเธอ มันก็เลยยิ่งเกิดเป็นดราม่าทำให้ทั้งสองคนเข้าหน้ากันไม่ติด แล้วมันเคยมีคลิปที่ออกมาในโซเชียลด้วยว่าทั้งสองคนคล้ายจะเจอกันแล้วในงานหนึ่ง โดยเปิ้ล ไอริณ เดินกรู่เข้าไปหา ใบเตย ขณะสัมภาษ์สื่อ แต่โดนกันไว้ก่อน

โดยเมื่อเวลาผ่านไปเรื่องของทั้งคู่ก็ซาลง จนกระทั่งมีประเด็นที่ใบเตยและดีเจแมนถูกจับ คนเลยแห่เอาคลิปเก่ามาลง จนเป็นไวรัลอีกครั้ง บอกว่าปากแม่เปิ้ ศักดิ์สิทธิ์มากๆ ซึ่งด้าน เปิ้ล ไอริณ ได้เปิดใจ กับ ข่าวสดออนไลน์ ถึงประเด็นดังกล่าวว่า

“ถ้าย้อนกลับไปได้ก็จะไม่พูด เพราะความรู้สึกของเราตอนนั้น จิตใจเราค่อนข้างอ่อนแอ หลายเรื่อง จริงๆ ไม่อยากพูดเรื่องเก่า ถ้าอธิบายว่าทำไมตอนนั้นถึงต้องพูดแบบนั้น คือตอนนั้นโดนหลายเรื่องมาก โดนแคนเซิลงาน ผู้ใหญ่ต่อว่า เราก็ไม่รู้สึกว่าเราทำอะไรผิด แล้วเปิ้ลเองเป็นคนที่ไม่เข้าใจอยู่เรื่องนึง เปิ้ลรู้สึกว่าเปิ้ลขาดความยุติธรรมในตอนนั้น เปิ้ลขออธิบาย เปิ้ลค่อนข้างให้เกียรติคนอย่างที่สุด ไม่เคยเรียก ยาม ว่า ยาม เรียก รปภ ทุกคำ แม่บ้าน ก็เรียกพี่คะ ไม่เคยจิกใช้ใคร เรื่องการให้เกียรติคนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ชั่วโมงนั้น โดนหยามเกียรติ ไม่ให้เกียรติ ด้วยความที่มันหลายเรื่อง ใจค่อนข้างๆ บางๆ อาจจะพูดอะไรไปที่มันโมโหอยู่ พอมาย้อนดู เรื่องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี มันก็คือ อัตตาตัวตน เรามายึดมาถือมันก็หนัก ตอนนี้ย้อนกลับไปได้ไม่คิดพูดสาปแช่งใคร อยากให้ส่งคลื่นพลังงานดีๆ ให้กับคนมากกว่า”

“เปิ้ลคงไม่กล้าอ้างว่าเป็นคนพูดอะไรแล้วศักดิ์สิทธิ์ แต่เปิ้ลเชื่อในหลักฟิสิกส์ ควอนตั้ม เชื่อในกฎวิทยาศาสตร์ว่าอะไรก็ตามอะไรที่เราพูดจากหัวใจ ด้วยพลังงานเพียว มันจะไปแอทแทคให้เป็นเรื่องจริงบวกกับเราเป็นคนที่ค่อนข้างรักษาศีล เปิ้ลพยายามไม่มุสา ใช้ปากในการสวดมนต์ทุกคืน ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยไม่สวดมนต์เลยสักคืน เหมือนเราใช้ปากในการท่องคาถามั้ง เราใช้ชีวิตประจำวันก็พยายามไม่พูดคำหยาบอาจจะมีส่วนเวลาเราพูดอะไรเลยมีพลังงาน เชื่อเรื่องพลังงานมากกว่าไปเชื่อเรื่องมง”

“หลายคนไม่เคยรู้เลยว่าจริงๆเขาเองก็ขอโทษเปิ้ลเป็นนัยๆแล้ว เขาฝากขอบคุณมากับผู้จัดการเปิ้ลว่า ถ้าไม่ได้เปิ้ลช่วงนั้นเขาอาจจะไม่เปี้ยงก็ได้ เขาฝากผู้จัดการมาแล้ว เปิ้ลก็ไม่ได้คิดอะไรแล้ว จริงๆแล้วตัวเปิ้ลเองก็ไม่ได้ชอบเห็นใครโดนซ้ำเติม แล้วตัวเปิ้ลก็จะไม่ทำแบบนั้นกับใครด้วย แล้วส่วนที่จะไปตัดสินใครว่าใครเป็นอะไรยังไงมันเกินสิทธิที่เปิ้ลจะไปก้าวล่วง เอาเป็นว่าตอนนี้เปิ้ลไม่มีอะไรกับใคร เปิ้ลก็แค่หาความสงบ อยากจะเดินหน้าทำงานตัวเองต่อไป อยากจะทำอะไรให้สังคม ส่วนเพลงใหม่ล่าสุด ฟังแล้วรวย ก็คืออยากจะส่ง energy ดีๆเป็นเพลงมายเซ็ตดีๆให้กับผู้คน เราอยากเป็นตัวอย่างมายเซ็ตที่ดี เราไม่อยากส่งอะไรที่ทำให้คนทุกข์ เพราะว่าตอนนี้ทุกคนต้องการกำลังใจ เราอยากส่งกำลังใจให้ทุกคนมากกว่าค่ะ ถ้าย้อนกลับไปได้ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนมากๆหลายคอมเมนต์เปิ้ลอ่านหมดสำหรับคนที่เขียนถึงเราในแง่บวก รู้สึกซาบซึ้งจริงๆ เกือบ 30 ปีที่อยู่ในวงการมา เป็นปีที่เปิ้ลได้เห็นคอมเมนต์อะไรดีๆเกี่ยวกับตัวเองเยอะมาก จนตัวเราไม่กล้าจะส่งพลังงานไม่ดีไปให้ผู้คนเลย ขอบคุณทุกคนจากใจอีกครั้งเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายค่ะ”

“เรื่องคนที่คยข้างใครน้อยใครมาก พูดจากหัวใจเลยว่าไม่เคยใส่ใจเลยจริงๆ อยู่ในวงการหลายคนชอบบอกว่าตอนนั้นเปิ้ลดังตอนนี้เปิ้ลไม่ดัง จริงๆแล้วตัวเปิ้ลไม่ได้ปรารถนาที่อยากจะดังอะไรเลย พอเราดังปุ๊บในวงการมีคนมารักเราลุ่มหลงเรามากๆมันก็คือกิเลสอย่างนึง มันก็คือการลุ่มหลง เราอยากได้เราควรรักตัวเองมากๆศรัทธาตัวเองให้มากๆ เห็นไหมว่าอาจารย์ต่างๆโค้ดต่างๆถึงได้รวยเอารวยเอา เพราะว่าทุกคนไปโยนอำนาจความรักความศรัทธาให้กับพวกเขาหมด เปิ้ลอยากให้ทุกคนรักตัวเองดีแล้วศรัทธาตัวเองมากๆ ให้พลังกับตัวเองมากๆเพราะสุดท้ายเวลาที่เราเศร้าตัวเราเองนี่แหละที่เป็นคนอยู่กับตาน้ำตาตัวเอง แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกๆคนจากหัวใจจริงๆ ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่มีสีสันที่สุดสำหรับเปิ้ล เป็นปีที่เปลี่ยนชีวิตเปิ้ลไม่เหมือนเดิมอีกเลย จำตัวเองเวอร์ชั่นเดิมไม่ได้แล้ว รู้สึกเหมือนตัวเองได้พัฒนาจิตวิญญาณความคิดได้เยอะมากๆเลย ก็ต้องขอบคุณทุกปัญหาทุกอุปสรรคและทุกคนที่มาในชีวิตเปิ้ล ถือว่าเป็นครูของเปิ้ลทุกคนค่ะ”