ย้อนเส้นทาง ก่อน “พ.ต.อ.วชิรา” ผกก.ทางหลวง ตัดสินใจจบชีวิตในบ้านพัก เพื่อนร่วมงานเผยมีความเครียดและกดดัน หลัง “สารวัตรแบงค์” ถูกยิงเสียชีวิต
วันนี้ (11 ก.ย.66) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยภายหลังร่วมตรวจที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. ว่า จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์สันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-10 ชั่วโมง คือช่วงประมาณตี 5 โดยในที่เกิดเหตุ คือบริเวณชั้น 1 ที่ห้องรับแขก
สภาพศพผู้เสียชีวิต นอนอยู่หน้าทีวี มีรอยกระสุนเข้าที่ขมับขวาทะลุออกหลังหูซ้าย และพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ด้านขวาของศีรษะ และพบปลอกกระสุนกระเด็นตกอยู่ 1 ปลอก ซึ่งจากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ก่อนเสียชีวิต น่าจะอยู่ในท่านั่ง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และยังไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยประตูหน้าต่างในบ้านก็ยังถูกปิดล็อคไว้
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้เสียชีวิตเดินทางกลับมาที่บ้านด้วยรถแท็กซี่ตอนเวลาประมาณตี 4 และไม่พบว่ามีผู้ใดตามมา ส่วนผู้ที่มาพบศพคือเพื่อนร่วมรุ่น นรต. เนื่องจากเมื่อคืนนี้ได้มีการนัดรวมตัวทานข้าวกันแถวเมืองทองธานี และผู้เสียชีวิตได้เปิดโรงแรมนอนแยกย้ายกับเพื่อนตอนประมาณ 4 ทุ่ม
โดยนัดหมายว่าให้เพื่อนมารับตอน 9 โมงเช้า เพื่อไปทำงาน แต่พอถึงตอนเช้า เพื่อนไม่สามารถติดต่อได้ จึงให้แม่บ้านของโรงแรมขึ้นไปเปิดห้องดูก็ไม่พบ จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าได้เรียกแท็กซี่ออกไปตอนตี 4 ทั้งนี้ เพื่อนร่วมรุ่นบอกว่าเมื่อคืนที่ทานข้าวด้วยกัน ผู้เสียชีวิตมีการระบายว่ารู้สึกเครียดและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวมีรายงาน ไทม์ไลน์ของ ผกก.เบิ้ม ก่อนจะมาจบชีวิตที่บ้านพักย่านปทุมธานี เวลา 09.00 น. เพื่อนๆ ตำรวจเริ่มตามหาหลายที่ที่คาดว่า พ.ต.อ.วชิรา จะเดินทางไป เพราะไม่สามารถติดต่อผ่านทางเครื่องมือสื่อสารได้
มีการตามรอยมาจนกระทั่งเดินทางมาถึงพักที่หมู่บ้าน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เวลาประมาณ 13.20 น. เห็นรองเท้าคู่ที่ ผกก.วชิรา ใส่อยู่ประจำ วางอยู่หน้าบ้าน เพื่อนจึงได้โทรศัพท์ไปถามภรรยาเพื่อขอรหัสเปิดประตู เมื่อเปิดเข้าไปก็พบร่างของ ผกก.วชิรา นอนเสียชีวิตบนพื้นบ้านชั้นล่างของบ้านหลังดังกล่าว
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุการณ์ เสียชีวิตของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งเป็นเหมือนน้องและผู้ใต้บังคับบัญชาของ ผกก.วชิรา ทราบว่า ผกก.วชิรา มีความโศกเศร้าเสียใจอย่างเห็นได้ชัด ผู้บังคับบัญชาจึงได้ให้เพื่อนสนิทและลูกน้องคอยอยู่เป็นเพื่อนคุยตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เครียดและคิดมาก
จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่เพื่อนและลูกน้องคนที่คอยดูแล พาไปทานข้าวย่านเมืองทอง แต่ ผกก.เบิ้ม ก็ทานได้พียงเล็กน้อย จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. วันเดียวกัน ได้พา ผกก.วชิรา กลับเข้าที่พักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองทองธานี
โดยระหว่างทางได้แวะซื้อของกินให้กับ ผกก.วชิรา หลังจากที่ส่ง ผกก.วชิรา แล้ว เพื่อนและลูกน้องก็กลับเข้าที่พักของตัวเอง โดยก่อนกลับ ผกก.วชิรา บอกว่าพรุ่งนี้เช้า (11 ก.ย.) จะนัดลูกน้อง ตำรวจทางหลวงมารับเพื่อจะเข้ารายงานตัวที่ ศปก.ตร.
ต่อมาเช้าวันที่ 11 ก.ย. เวลาประมาณ 08.30 น. เพื่อนและลูกน้องได้เดินทางมาที่โรงแรมที่พัก ปรากฏว่าเคาะประตูไม่มีคนมาเปิด โทรศัพท์หา ผกก.วชิรา ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ให้พนักงานของโรงแรมมาเปิดประตูเข้าไป ก็ไม่พบตัว ผกก.วชิรา พบเพียงแต่ของกินที่ซื้อเมื่อคืนก่อน
จึงได้ติดต่อทางโรงแรมเพื่อขอดูกล้องบันทึกภาพย้อนหลัง ก็พบว่าเวลาประมาณ ตี 4 เห็น ผกก.วชิราฯได้ขึ้นรถแท็กซี่สีชมพูออกจากโรงแรมไป ไม่ทราบว่าไปที่ใด เพื่อนและลูกน้องจึงได้ออกติดตาม จนกระทั่งมาพบร่างของ ผกก.วชิรา นอนเสียชีวิตในบ้านหลังดังกล่าว จึงได้โทรแจ้งเหตุที่ 191 และผู้บังคับบัญชาทราบ