เปิดใจ! หนุ่มร้องขอความเป็นธรรม แฟนสาว โดนตร. ชนแล้วหนี ดับคาที่

Home » เปิดใจ! หนุ่มร้องขอความเป็นธรรม แฟนสาว โดนตร. ชนแล้วหนี ดับคาที่

ขอความเป็นธรรม

หนุ่มร้อง หลัง แฟนสาว โดนตำรวจขับรถชนแล้วหนี เสียชีวิตคาที่ แจ้งความแล้ว เหมือนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกันเอง วอนหน่วยงานเข้าช่วย

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 เวลา 20.43 น. ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้มีการออกมาโพสต์รูปกรณีแฟนสาวของตนถูกตำรวจสภ.บ้านเป็ด รายหนึ่งขับรถกระบะชนแฟนสาวที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ล้มแล้วหนี ส่วนแฟนสาวทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา

ล่าสุดทางด้านแฟนหนุ่มได้มีการออกมาโพสต์ข้อความเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยระบุข้อความว่า เรื่องเกิดเมื่อ วันที่ 11 กันยายน 2567 เวลา 21.47 น. แฟนของตนถูกตำรวจชนแล้วจากที่เกิดเหตุ และมีแผ่นป้ายทะเบียนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

ตนนั้นได้มีการโทรหาแฟนสาว เพราะเห็นว่าไปกินหมูกระทะกับพี่ที่ทำงานแต่ 22.00 น. แล้วยังไม่ถึงบ้าน เมื่อโทรติดก็มีกู้ภัยรับสายบอกว่าเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอยู่ ถนนเลี้ยงเมือง ตรงบ้านเป็ด ตนจึงรีบไปที่เกิดเหตุและเห็นแฟนนอนเสียชีวิต

ตำรวจชนแล้วหนี
  • ยังจับตัวไม่ได้! คนวิปริต ตัดขาแมวจร ชาวบ้านเผย ตามฝังศพแมวจนเหนื่อย
  • สาวสุดช้ำ! ถูกหลอกไปแต่งงานหนุ่มจีน อ้างหล่อ-รวย สุดท้ายคดีพลิกแถมเสียเงิน
  • โรงงานดัง ย่านบางปู แถลงปม พนักงานป่วย แต่ลาต่อไม่ได้ สุดท้ายเสียชีวิต

ตัวเขานั้นได้มีการสอบถามกับทางกู้ภัยว่าคู่กรณีอยู่ไหน ทางกู้ภัยบอกว่าเขาหลบหนี แต่มีทะเบียนตกอยู่ที่เกิดเหตุ ตนจึงสอบถามไปกับทางกู้ภัยว่า แล้วมีผู้เห็นเหตุการณ์ไหม เขาบอกว่ามีแต่เขากลับไปแล้วและไม่ได้ให้ข้อมูลติดต่อไว้ด้วย

ต่อมาวันที่ 12 กันยายน 2567 เวลา 00.07 น. ตนและเพื่อน ๆ ได้เดินทางมาที่ สภ.บ้านเป็ด เพื่อลงบันทึกประจำวัน และได้มีการสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ของทางแฟนสาวที่เสียชีวิต ได้แจ้งว่าแฟนสาวของตนนั้นถูกชนแล้วหนีให้ช่วยตามทะเบียนคนผิดให้ด้วย ตนนั้นคาดว่าเขาน่าจะเมาแล้วขับ และยังได้สอบถามเกี่ยวกับแผ่นป้ายทะเบียนของรถมอไซค์แฟนสาวของตนว่าอยู่ที่ไหนทำไมถึงไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะแฟนสาวเอาไว้ใต้เบาะรถ ทางร้อยเวรจึงออกไป ณ จุดเกิดเหตุเพื่อนำรถมอไซค์ของแฟนตนมาที่ สภ.บ้านเป็ด แต่ไม่พบแผ่นป้ายทะเบียน และทางร้อยเวรก็ได้ทำการบันทึกข้อมูล

จากนั้นเมื่อเวลา 06.55น. ทางเฟซบุ๊กเพจ จุดบริการประตูเมือง มูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคี ได้โพสเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ว่า รถจักรยานยนต์ล้มเองและเสียชีวิต โดยมีภาพแผ่นป้ายทะเบียนในภาพ จึงมีผู้มาคอมเมนต์ว่าเป็นชนแล้วหนี ทางเพจจึงมีการแก้ไขโพสเป็น รถยนต์+จักยานยนต์+เสาไฟ(คู่กรณีหลบหนี) และต่อมาเวลาได้ทำการแก้ไขกลับไปเป็นรถจักรยานยนต์ล้มเองและเสียชีวิต และได้ทำการลบคอมเม้นต์สำคัญไป และได้ปิดการคอมเม้นต์สำหรับโพสนี้ไปในที่สุด ซึ่งมันแปลกมากทำไมถึงไม่แจ้งความจริงลง

ตำรวจชนแล้วหนี2

ต่อมาในเวลา 07.17น. ทางร้อยเวรได้โทรมาหาผมว่าทราบตัวคู่กรณีแล้ว และบอกชื่อกับตนแต่ไม่บอกนามสกุล ตนจึงได้ย้ำว่ามีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์หรือยัง ทางร้อยเวรแจ้งว่าจะมีการดำเนินการ

เวลา 9.54 น. ตนได้ข้อมูลมาว่าเคยมีตำรวจเมาแล้วทะเลาะกับชาวบ้านแถว สภ.บ้านเป็ด และที่สำคัญ ชื่อตรงกับที่ร้อยเวรแจ้งผมและเป็นตำรวจอยู่ที่ สภ.บ้านเป็ด

ช่วงประมาณ 11.00-11.30 น. ได้พบกับร้อยเวรที่ทำคดีนี้ และได้พูดคุยกันที่หน้าศาลาพิธีกรรม รพ.ศรีนครินทร์ ทางตำรวจแจ้งว่าได้มีการนำคู่กรณีมาตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ที่ รพ.ศรีนครินทร์ เช่นกัน

เช้าวันที่ 13 กันยายน 2567 ประมาณ 9.00 น. ตนกับเพื่อนได้เข้าไปที่ สภ.บ้านเป็ด เพื่อขอบันทึกประจำวัน แต่บันทึกประจำวันระบุว่าแฟนตนขับรถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน และเสียชีวิต ซึ่งไม่มีการระบุใด ๆ เกี่ยวกับรถชนแล้วหนี ลงบันทึกแบบนี้มันได้เหรอ

วันที่ 16 กันยายน 2567 ผมกับพี่และลุงได้เข้าไปที่ สภ.บ้านเป็ด เรื่องการชดเชยเยียวยา และผมได้คุยกับตำรวจคู่กรณีว่า ก่อนเกิดเหตุมาจากไหน ทางตำรวจคู่กรณี ตอบมาว่า อยู่ สภ. จากนั้นตนก็ได้ถามต่อว่า ชนแฟนสาวตอนไหน ทางตำรวจคู่กรณี ตอบว่าราว ๆ เกือบ 4 ทุ่ม

จากนั้นตนได้มีการสอบถามเกี่ยวกับการตรวจแอลกอฮอล์แล้วหรือยัง ซึ่งคำตอบที่ได้คือให้เป่าแล้ว ช่วยบ่าย 3 หลังจากวันที่เกิดเหตุ คำตอบนี้ทำตัวเขาตกใจเป็นอย่างมาก แล้วที่เจอกันก่อนหน้านี้บอกพามาตรวจที่ โรงพยาบาลคืออะไร ยิ่งไปกว่านั้นคู่กรณีบอกว่าขับรถมามอบตัวเองตอน 8.00 น. สภ.นี้ไม่มีคนตรวจวัดแอลกอฮอล์เลยเหรอ แต่กลับปล่อยให้ตำรวจรายนี้กลับบ้านหน้าตาเฉย และได้สอบถามผู้กองเพิ่มว่าวันที่เกิดเหตุตำรวจคู่กรณีได้ติดต่อผู้กองมาไหม ซึ่งผู้กองบอกว่าไม่มีการคุยกัน

ต่อมาในบันทึกประจำวันที่มาคุยในเรื่องค่าเสียหายของแฟนตน ทางผู้กองไม่ยอมลงว่า คู่กรณีหลบหนีในบันทึกประจำวัน ตนมองว่ามันแปลกมาก จนต้องจี้ซ้ำ ๆ ถึงจะยอมพิมพ์ออกมา และการคุยกันเรื่องค่าเสียหายจบด้วยการไม่ลงตัว และแจ้งว่าจะนัดมาคุยเดือนหน้าแต่ไม่ระบุวันที่

ตอนนี้ตนไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบ ตนกลัวครอบครัวของแฟนสาวที่เสียชีวิตจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และตนคิดว่า สภ.นี้แปลก ๆ เหมือนจะพยายามช่วยพวกเดียวกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ