เปิดใจเหยื่อคอลเซ็นเตอร์โหด ถูกหลอกไปทำงานเขมร ทำร้ายสุดทารุณ สุดระทึกตอนขอความช่วยเหลือ

Home » เปิดใจเหยื่อคอลเซ็นเตอร์โหด ถูกหลอกไปทำงานเขมร ทำร้ายสุดทารุณ สุดระทึกตอนขอความช่วยเหลือ



เปิดใจเหยื่อคอลเซ็นเตอร์โหด ถูกหลอกไปทำงานเขมร ทำร้ายสุดทารุณ สุดระทึกตอนขอความช่วยเหลือ เผยยังอยู่อีกเป็นร้อยที่กลับไม่ได้

วันที่ 15 ธ.ค.64 จากกรณีที่ ตร.กัมพูชา ได้เข้าช่วย 99 คนไทย ถูกหลอกไปทำงานออนไลน์ ให้บริษัทนายทุนจีน โดนขัง ถูกทรมานสารพัด หนักยิ่งกว่าทาส ต้องทำงานไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์โหด ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เริ่มต้นเราหางานผ่านทางเฟซบุ๊ก เจองานหนึ่งบอกว่าเงินเดือนเริ่มต้น 24,000 บาท เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในลักษณะการแบ่งเปอร์เซ็น สูงสุด 36,000 บาท

ตอนแรกนึกว่าเป็นงานกาสิโนออนไลน์ คิดว่าเป็นงานบริสุทธิ์ ก็เลยตัดสินใจที่จะไปทำ เขาก็จะดึงเข้าไปในกลุ่มไลน์ มีการนัดรวมตัวที่สถานีรถไฟดอนเมือง ก่อนจะไปต่อที่สระแก้ว โดยนอนที่นั่น 1 คืน หลังจากนั้นเขาก็พาเดินป่าเพื่อข้ามแดน ประมาณ 10 ชั่วโมง โดยมีคนไทยเป็นคนนำทาง เขาบอกว่าจะไปปอยเปตก่อน ตอนนั้นก็เข้าใจว่าเป็นช่วงโควิด-19 เขาปิดประเทศเลยต้องเดินข้ามไป พอไปถึงก็มีรถมารับ ตอนนั้นเริ่มรู้สึกอยากกลับบ้านแล้ว แต่ไม่กล้า ระหว่างที่เดินป่าก็ไม่ได้กินข้าวกินน้ำเลย หากไม่ไปต่อก็จะโดนทิ้งไว้ในป่า เราก็เลยต้องจำใจเดินต่อ ระหว่างทางก็เจอทหารของฝั่งกัมพูชาด้วย เหมือนเขาจะเห็นเรา แต่ก็หลับหูหลับตาไป สงสัยว่าคงได้รับเงินกันมา

พอไปถึงตึกแห่งหนึ่ง เขาก็จะส่งเราลง ให้ไปดูห้องนอน ให้อยู่รวมกัน พอเข้าไปก็ปิดประตูขัง สภาพตอนแรกมันเหมือนบ้านร้าง หลังจากเขาพาเราไปปล่อยไว้ ก็จะมีชาวจีนเข้ามาดูแลต่อ การทำงานเริ่มแรก เขาจะให้สร้างโปรไฟล์ปลอมเป็นใครก็ได้ คนนึงจะดูแลโทรศัพท์ประมาณ 20-25 เครื่อง มีอวตารหลายร่าง เพื่อให้เราคุยกับลูกค้า สร้างความเชื่อใจ เข้าไปตีสนิท ก่อนจะชวนเขามาลงทุน ซึ่งเราก็ต้องจำเองว่าคุยอะไรกับใครไว้บ้าง คุยวันนึงก็เป็นร้อยคน เรื่องอาหารการกินที่นั่น มีอาหาร 3 มื้อ แต่งบางคนก็ไม่ได้กิน เพราะเขาทำอาหารไม่พอ

แต่หากเป็นคนจีน เขาจะเลี้ยงดีกว่า แรกๆ เขาก็ดูแลดี แต่หลังๆ เริ่มบีบให้เราทำยอด มีการหักเงินไปเรื่อยๆ ซึ่งแอปพลิเคชั่นที่ใช้หลอกลวง ชื่อว่า Spell หากมีคนสนใจโทรกลับมาแล้วเป็นผู้ชาย ก็จะโยนสายให้ผู้หญิงเป็นคนรับ เหยื่ออาจคิดว่าจุดเริ่มต้นลงทุนแค่ 200 บาท แต่จาก 200 บาทนั้น มันสามารถกลายเป็นล้านบาทได้ ทีมของเราสามารถทำยอดได้ถึงแสนบาทต่อชั่วโมง แล้วแต่ลูกค้าจะเติมเงิน ยอดส่วนตัวที่ทำได้คนที่ติดท็อป 3 รวมๆ แล้วเป็นล้าน แต่ถ้าไม่สามารถทำยอดได้ตามที่เขาต้องการ ก็จะโดนทำร้าย ใช้กระบองเหล็กฟาด เพราะยอดไม่ค่อยดี

แล้วก็เรื่องที่แอบเอาโทรศัพท์เขาไปในห้อง เราโดนบังคับให้ทำงานไม่มีวันหยุดไม่มีโอกาสเห็นแสงเดือนแสงตะวัน ถ้าได้ยอดไม่ถึงก็หักเงิน 1 ดอลลาร์บ้าง 10 ดอลลาร์บ้าง บางคนโดนหักเงินจนติดลบ สรุปไปทำงานได้เงินบางทีไม่ถึงหมื่น เพราะเราต้องควักเงินซื้อของใช้ในนั้น เขามีมินิมาร์ทให้ ซึ่งราคาสินค้าในนั้นจะแพงมาก เราเคยคิดจะหนี สุดท้ายโดนจับได้ก็โดนทำร้ายกัน ขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้เลย เพราะถ้าแจ้งไปเขาจะรู้ทันที และรู้ด้วยว่าใครเป็นคนแจ้ง

เราจึงตัดสินใจติดต่อตำรวจจากกลุ่มเฟซบุ๊กคนไทยในพนมเปญ เราต้องสลับกันเข้าออกจากกลุ่ม เพราะป้องกันเขาจับได้ เพราะเขาจะคอยเช็คโทรศัพท์เราตลอด และก็ต้องระวังว่าจะมีคนเอาเรื่องไปบอกพวกนั้น เพราะถ้าใครบอกจะได้เงิน ชีวิตของเราวนเวียนแค่อยู่ในตึกมืดๆ เดินได้แค่ชั้น 1 ชั้น 2 ออกมานอกตึกก็ไม่ได้

ด้าน ร.ต.อ.กฤษณะ เอี่ยมสอาด รอง สว.กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว เผยถึงปฏิบัติการช่วยเหลือเหยื่อคนไทยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการสร้างกลุ่มโอเพ่นแชท เพื่อช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา ช่วงแรกๆ ก็จะมีคนไทยที่นั่นขอกลับบ้านแบบธรรมดา ผู้ป่วยโควิด-19 อยากกลับบ้าน จนสุดท้ายก็มาเจอเหยื่อกลุ่มนี้ เราต้องเปลี่ยนโปรไฟล์ตัวเองในกลุ่ม ไม่ให้เป็นรูปใส่เครื่องแบบเพื่อป้องกันไม่ให้เขาถูกจับได้ ถ้าเขาติดต่อมาแล้วเริ่มหายไป เราก็เริ่มเป็นห่วงแล้ว เราเริ่มเห็นเขาเริ่มเจอเรื่องอันตราย เพราะมีการทำร้ายกัน เราก็รอช้าไม่ได้ ประสานตำรวจฝั่งนั้นเข้าช่วยเหลือทันที ช่วงนั้นเราต้องปรับเวลาการทำงาน เวลานอนของตัวเอง เพื่อที่จะได้คุยกับน้องๆ

ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยว่า เรื่องนี้เป็นเป็นขบวนการค้ามนุษย์ เป็นขบวนการของคนจีนที่ใช่พื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านก่อเหตุร้าย ซึ่งเราจะไม่ยอมให้คนไทยตกเป็นเหยื่อ อาชญกรรมแบบนี้มีทั้งโลก เท่าที่ตนตรวจสอบ ยังมีคนไทยที่ตกค้างอยู่ราว 200 คน เป้าหมายของเราตอนนี้ทราบแล้วว่ามีจุดไหนบ้าง มี 90 คนที่อยู่ในพื้นที่กัมพูชา ตนก็ได้ประสานด้วยตัวเองกับผู้ช่วย ผบ.ตร.ของกัมพูชา เราออกหมายจับไปแล้วบางส่วน และได้มีการจับนายหน้าคนไทยไปแล้ว ทั้งยังดำเนินการตรวจสอบทรัพย์ ดำเนินคดียึดทรัพย์ ตามความผิดฐานฉ้อโกง

เราจะนำขบวนการนี้ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ทั้งคนชักชวน คนพาเดินทาง เราจะจับมาลงโทษให้ได้ทั้งหมด เพื่อถอนรากถอนโคนขบวนการนี้ ต้องยอมรับว่าตอนนี้เทคโนโลยีก้าวหน้ามาก รูปแบบการหลอกลวงลงทุน ที่ไม่มีอยู่จริงๆ ซึ่งตอนนี้ลามไปถึงส่วนของคริปโตแล้ว เราจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้คนไทยไม่ตกเป็นเหยื่อ และฝากถึงคนไทยว่า การลงทุนต่างๆ ขอให้ตรวจสอบจาก จนท.ของรัฐให้ดีเสียก่อน

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/QLMG8NMPFE8

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ