เปิดใจเจ้าของร้านสุดงงมาได้ไง! เจอหนุ่มสาวชาวจีนบุกร้าน เข้ามาตัดผมเอง

Home » เปิดใจเจ้าของร้านสุดงงมาได้ไง! เจอหนุ่มสาวชาวจีนบุกร้าน เข้ามาตัดผมเอง



เปิดใจเจ้าของร้านสุดงงมาได้ไง! เจอหนุ่มสาวชาวจีนบุกร้าน เข้ามาตัดผมเอง ทั้งที่ร้านปิดบริการ เปิดวงจรปิดเอะใจ ก่อนเรียกตำรวจมาเคลียร์

กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพระบุมีหญิงชาวจีนบุกเข้ามาในร้านซาลอนเสริมสวยในย่านสุขุมวิท กทม. โดยหญิงรายนี้เข้ามาแต่งหน้าเอง ทั้งที่ร้านปิดให้บริการ เนื่องจากเป็นวันหยุด

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 ก.ค.65 ที่ร้านชาดาซาลอน ซอยสุขุมวิท 57 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา ข่าวสดออนไลน์พูดคุยกับคุณวุฒิชัย ถานะ หุ้นส่วนของร้าน เปิดเผยว่า วันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ร้านปิดบริการ แต่ไม่ได้ล็อกประตู เพราะมีช่างเข้ามาปรับปรุงบ้าน แล้วตนได้รับโทรศัพท์จากน้องสาวมาถามว่ารับช่างทำผมใหม่มาหรือเปล่า เพราะเห็นมีคนเข้ามาทำผมที่ร้าน ตนก็ตกใจ จึงเปิดกล้องวงจรปิดเห็นชาวจีน 2 คนเป็นชายหญิง กำลังตัดผมกันเองอยู่ จึงรีบขับรถเข้ามา โดยสอบถามชาวจีนผ่านกล้องว่ามาทำอะไร แต่เขาบอกว่าขอยืมกรรไกรตัดผม และซื้อผลิตภัณฑ์ในร้าน ตนก็บอกว่าทำไม่ได้ และวันนี้ร้านปิด แต่ในกล้องไม่ได้บันทึกเสียง จึงไม่ได้ยินบทสนทนา ทำให้ชาวเน็ตอาจไปตีความอะไรกันเอง

วุฒิชัย กล่าวอีกว่า ชาวจีนคู่นี้ใช้เวลาตัดผมประมาณ 30 นาที เมื่อตนมาถึง เขายังอยู่ที่ร้าน และบอกว่าจะขอจ่ายเงินได้หรือไม่ ตนก็ปฏิเสธ พร้อมบอกว่าประเทศเราไม่ทำกันแบบนี้ ก่อนติดต่อตำรวจ สน.ทองหล่อ มาพบ เพราะเกรงว่าของจะหาย เมื่อพูดคุยกัน ชาวจีนอ้างว่าได้บอกกับช่างก่อสร้างว่าจะขอตัดผม ช่างก็ตกลง ตนจึงปรึกษากับตำรวจว่าควรทำอย่างไร เจ้าหน้าที่แนะนำว่าสามารถแจ้งความฐานบุกรุกได้ แต่ตนคุยแล้วก็ไม่ติดใจเอาความอะไร บอกเพียงว่าต้องเดินทางไปต่างประเทศ จึงต้องหาร้านตัดผม โดยหญิงชาวจีนรายนี้เคยเรียนตัดผมมาก่อน และชาวจีนคู่นี้เคยวอล์กอินมาที่ร้าน แต่ร้านตนต้องจองล่วงหน้าก่อน จากนี้คงต้องติดป้ายรับจองก่อน เพราะเคยมีลูกค้าจากต่างจังหวัดเดินทางมาถึงแล้วไม่ได้ตัดเพราะไม่ได้จอง

วุฒิชัย กล่าวว่า คืนก่อนเกิดเหตุชาวจีนคู่นี้เคยมานั่งรอหน้าร้านพร้อมสูบบุหรี่ ก่อนจะเคาะกระจกเรียกราว 21.30 น. แต่ร้านเราปิดตั้งแต่ 18.00 น. ดูแล้วทั้งคู่ไม่เมา และพูดภาษาอังกฤษได้ ทั้งนี้ขอโทษคู่กรณี เพราะไม่คิดว่าเรื่องนี้จะใหญ่โตขนาดนี้ ยืนยันไม่มีเจตนาประจาน เพียงแต่มองเป็นเรื่องแปลกไม่เคยเจอมาก่อน จึงลงคลิปในโซเชียลไป อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องคู่กรณีไม่ได้ติดต่อกลับมาอีก

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ