เปิดใจอีกมุม ‘แหม่ม’ ลั่นทำไมต้องวางแผนฆ่า ‘เสี่ยก้อง’ เป็นเมียคนหนึ่งเหมือนกัน

Home » เปิดใจอีกมุม ‘แหม่ม’ ลั่นทำไมต้องวางแผนฆ่า ‘เสี่ยก้อง’ เป็นเมียคนหนึ่งเหมือนกัน


เปิดใจอีกมุม ‘แหม่ม’ ลั่นทำไมต้องวางแผนฆ่า ‘เสี่ยก้อง’ เป็นเมียคนหนึ่งเหมือนกัน

เปิดใจอีกมุม ‘แหม่ม’ ลั่นทำไมต้องวางแผนฆ่า ‘เสี่ยก้อง’ เป็นเมียคนหนึ่งเหมือนกัน ลั่นที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าจดทะเบียน “นุ่น” เมียแรกไม่เคยตามราวี

กรณีที่ “นุ่น” และครอบครัว “เสี่ยก้อง” เจ้าของธุรกิจร้านเกาลัดชื่อดังในจังหวัดกาญจนบุรี ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังเสี่ยก้องประสบอุบัติเหตุตกรถกระบะ โดยคาใจว่า “แหม่ม” ภรรยาอีกคน รวมทั้ง “เจฟ” น้องชายแหม่มกลับไม่ให้ความช่วยเหลือ จนต่อมาเสี่ยก้องไปเสียชีวิตที่รพ. อีกทั้งยังมีช่วงเวลาที่หายไปคล้ายปกปิดอะไรบางอย่าง

รายการโหนกระแสวันที่ 3 ก.พ. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้เปิดใจสัมภาษณ์อีกมุม แหม่ม ภรรยาอีกคนของเสี่ยก้อง มาพร้อม เจฟ น้องชาย ออย เพื่อนแหม่มและเสี่ยก้อง , เป้ คนอยู่ในเหตุการณ์

นุ่น ภรรยาคนแรกเขามา เขาบอกว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากคุณ ถ้าคุณไม่ไปราวีที่คลินิกแห่งนั้น เรื่องไม่เกิด วันนั้นคุณไปเจอเขาได้ยังไง?
แหม่ม : ก่อนออกจากบ้าน ตัวคุณก้องเขาให้ลูกน้องส่งคลิปมาว่าทำงานอยู่ หนูก็ไม่อะไร ใช้ชีวิตปกติ ระหว่างนั้นไปซื้อของที่โลตัสข้างๆ บ้าน ซึ่งคลินิกนี้อยู่ใกล้ๆ โลตัส

ไปเจอโดยบังเอิญ?
แหม่ม : ใช่ค่ะ

เขาบอกว่ามีคนส่งข้อความให้คุณ คุณเลยตามไป?
แหม่ม : ไม่ใช่ค่ะ ข้อความที่ส่งคือลูกน้องพี่ก้อง ส่งมาบอกว่าทำงานอยู่ที่บ้านนะ แต่ภาพที่ไปเจอ คือเขาอยู่หน้าคลินิก

คุณดึงกุญแจรถไปทำไม คุณตบผู้ตาย ตบทำไม?
แหม่ม : โมโหไงคะ ฟิวส์ขาด เพราะเขาโกหกว่าทำงานอยู่ พอมาเจอแบบนี้ก็ฟิวส์ขาด

แหม่มรู้ใช่มั้ย วันนั้นเขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาภรรยาคนแรก แล้วนุ่นไปตรวจครรภ์ วันนั้นมีลูกสาวเขาอยู่ตรงนั้นด้วย เราไปตบหน้าเขาต่อหน้าลูกสาว ลูกสาวไปบอกแม่ว่าทำไมเพื่อนพ่อต้องตบหน้าพ่อแบบนั้น ทำไมต้องตบหน้าเขาต่อหน้าลูก?
แหม่ม : โมโหมากค่ะ ขาดสติ

อยู่กินมานานแค่ไหน?
แหม่ม : เข้าปีที่ 5 ค่ะ มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 6 เดือน

5 ปีรู้มาก่อนมั้ยว่าเสี่ยก้องมีภรรยา?
แหม่ม : ตอนคบกันแรกๆ รู้ว่าเขามีภรรยา มีลูก แต่เขาบอกว่าเลิกกันแล้วค่ะ ก็คบกันมา

คุณก็เชื่อเสี่ยก้อง?
แหม่ม : ใช่ เพราะว่าเขาก็อยู่กับเราปกติ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด 24 ชม.ก็ได้ค่ะ

ไม่น่ามีข้อกังขา?
แหม่ม : ใช่ค่ะ

ฝั่งนุ่นบอกว่าคุณรู้ตั้งแต่แรก เพราะนุ่นเคยตามไปแหกคุณมาก่อน แล้วคุณไม่ยอมเลิกกัน?
แหม่ม : นุ่นไม่เคยตาม แต่อาจมาที่บ้านมีปากเสียงกับก้อง ซึ่งก้องไปเคลียร์ใจกับนุ่น แล้วเขาก็มาบอกหนูว่าเคลียร์แล้ว เลิกแล้ว ซึ่งหนูก็ใช้ชีวิตกับเขา เพราะเขาบอกว่าเลิกแล้วเคลียร์แล้ว เพราะเขาก็ทำให้เราเชื่อใจ เขาก็บล็อกไม่ติดต่อ

อยู่กินกันยังไง?
แหม่ม : อยู่บ้านเขาค่ะ นุ่นก็อยู่บ้านเขา

คุณทราบเรื่องเขาไม่ได้หย่ากันมั้ย?
แหม่ม : ไม่เคยทราบเรื่องนี้เลย เพราะพี่ก้องบอกแค่ว่าเลิกกันแล้ว เคยถามครั้งนึงเรื่องทะเบียนสมรส แต่เขาบอกว่าไม่ได้จด

รู้เมื่อไหร่ว่าเขามีทะเบียนสมรส?
แหม่ม : มารู้ตอนไปเฝ้าที่รพ. ก่อนเขาตาย พยาบาลหรือหมอนี่แหละเรียกญาติมาพบ และเหมือนมีการตัดสินใจในการปั๊มหัวใจ หรือการผ่าตัด ก็เห็นนุ่นพูดว่านุ่นตัดสินใจได้นะ นุ่นมีทะเบียนสมรส ก็เริ่มรู้ตรงนั้น

แล้วคุณอยู่ที่บ้านเสี่ยก้องเลยเหรอ?
แหม่ม : ใช่ค่ะ

อยู่มา 5 ปีเลยเหรอ?
แหม่ม : ช่วงแรกๆ คบกันยังไม่ค่ะ เพิ่งจะเริ่มช่วง 2 ปีหลังที่อยู่ตลอด

เมียเขาไม่รู้เหรอ?
แหม่ม : น่าจะรู้นะคะ เพราะเขาบอกเลิกกันแล้ว และนุ่นก็ไม่เคยมาวอแว

ญาติพี่น้องเขาล่ะ?
แหม่ม : ก็รับรู้ค่ะ พี่จูน พี่สะใภ้เขา, พี่กอล์ฟ พี่ชายก็คือกินข้าวด้วยกันปกติ มีความสัมพันธ์ที่ดี

สองคนที่นั่งอยู่ที่นี่เมื่อวาน คุณก็อยู่บ้านเดียวกับเขา?
แหม่ม : ใช่ค่ะ

แต่เมื่อวานเขาพูดเหมือนเป็นอีกเรื่อง เขาบอกว่าคุณไม่ใช่?
แหม่ม : ความจริงคือความจริงค่ะ

คุณไปตบเสี่ยก้องเพราะโกรธที่เขาโกหกคุณ บอกว่าทำงานแต่กลายเป็นว่าพานุ่นมาเพื่อไปคลินิก แล้วไปตรวจครรภ์ คุณรู้มั้ยว่าเขามีลูกอีกคนในท้อง?
แหม่ม : น่าจะเริ่มรู้ช่วงพฤศจิกายนค่ะ ก็มีปากเสียงกัน และขอเลิก ขอจบกับก้อง แต่ก้องบอกว่าเขาไม่เลิก เขาขอจัดการเคลียร์ปัญหาของเขาเอง ซึ่งหนูก็ไม่รู้ว่าเขาไปคุยอะไรกับนุ่น เขาขอเวลา ขอโอกาส หนูก็ให้เวลาเขา ที่เขากลับมาเขาก็บอกว่าเขาเคลียร์กับนุ่นแล้ว

คุณไม่งงเหรอ เคลียร์อีท่าไหนท้อง 7 เดือน?
แหม่ม : (หัวเราะ) ก็…ก็ตัวก้องบอกว่าคุยกันแล้ว แต่การใช้ชีวิตของเขาไงคะ หลังเขาบอกเคลียร์แล้ว เขาก็มาใช้ชีวิตอยู่กับหนูปกติ

วันเกิดเหตุคุณไปผลักนุ่นเขาทำไม?
แหม่ม : มีการดึงเขา เพื่อไม่ให้เขาเดินขึ้นรถ เพื่อให้เขาคุยเขาเคลียร์ เพราะตลอดเวลาที่มีปัญหากันมา พยายามคุยกับนุ่นด้วย แต่นุ่นไม่คุย

นุ่นเขาไม่อยากยุ่ง เพราะก้องเองก็ไม่ยอมหย่า แต่ก็ไม่ได้กลับบ้านมาอยู่กับเขา อ้างไปทำงาน เขาก็อยู่กับลูกสาว ลูกในท้อง เขาก็งงว่าทำไมคุณต้องตามไปราวีเขาแบบนี้?
แหม่ม : เราให้เขาอยู่คุย เพราะไม่รู้ว่าก้องไปคุยอะไรกับนุ่น และมาคุยกับหนู ซึ่งไม่เคยได้คำตอบอะไรเลย พอจะคุยกับนุ่นเขาก็บอกว่าให้ไปถามก้อง พอคุยกับก้อง ก้องก็บอกว่าไม่มีอะไร เลิกกันแล้ว ทุกครั้งที่คุยกับนุ่น นุ่นก็จะไม่มีอะไรจะคุย ไม่เคยได้คำตอบ

เลยไม่รู้สถานะอยู่ตรงไหน?
แหม่ม : ใช่ค่ะ ไม่ใช่หนูอยากอยู่สถานะนี้ แต่หนูคุยกับก้องตลอด เขาก็อ้างว่าเลิกตลอด แต่พอไม่ได้คำตอบก็เลือกคุยกับนุ่น จะได้ความจริงว่าเป็นยังไง แต่นุ่นไม่เคยคุยเลยค่ะ และไม่เคยบอกว่ามีทะเบียนสมรส เขาไม่เคยพูดอะไรเลย ไม่เคยมาบอกว่าเป็นเมีย ไม่เคยมายุ่ง ไม่เคยอะไรเลย

เขาอาจเหมือนเมียหลวงในละคร ไม่อยากแสดงตัวหรือเปล่า วันนั้นทำไมเสี่ยก้องต้องขึ้นรถไปกับคุณ เขาว่าคุณกำลังจะไปอาละวาดนุ่น?
แหม่ม : เหมือนทุกครั้งที่มีปัญหาทะเลาะกัน เขาต้องหนีปัญหาตลอดก้องเนี่ย หนูเลยชักกุญแจ กันเขาหนีออกไป แต่พอมีปากเสียงทะเลาะกัน ก็บอกว่างั้นก็เลิก เขาก็บอกว่าไม่เลิก และเป็นคนพูดเองว่าให้ขึ้นไปคุยกันบนรถ แล้วเขาก็ตามแหม่มขึ้นไปบนรถ

เขาบอกว่าคุณกำลังจะตามไปราวีนุ่นที่บ้าน เขาเลยต้องขึ้นไปห้ามว่าอย่าไป แต่คุณก็ยังจะไป จนเขาต้องโดดรถลงมา จริงมั้ย?
แหม่ม : อันนี้ไม่ใช่ค่ะ เขาบอกขึ้นไปคุยกันบนรถ พอเขาตามขึ้นมาบนรถ ก็มีปากเสียงกันตลอด เขาบอกว่าไม่ได้อะไร เขาเลิก หนูเลยบอกว่าถ้าจะคุยจริงๆ ให้จบ จะคุยกันแบบนี้ไม่ได้ ต้องไปคุยกันต่อหน้า 3 คนไปเลย ต่อหน้าคนใหญ่ งั้นก็ให้ไปคุยกันบ้านนุ่น

จะเลือกใครก็เลือกมา ถ้าเลือกฉันต้องเลิกนุ่น ถ้าเลือกนุ่นต้องเลือกฉัน?
แหม่ม : ใช่ค่ะ เพราะสถานะแบบนี้คนเขาก็ด่าหนู ถูกมั้ยพี่ ไม่ได้ด่าผู้ชาย หนูก็ไม่ได้อยากอยู่ตรงนี้ หนูก็เรียกร้องมาตลอดว่าก้องเลือกใคร ซึ่งก้องไม่เคยให้คำตอบ หนูเลยเลือกทำแบบนี้ ให้มันชัดเจนไปเลย

หลังขึ้นรถไป เกิดอะไรขึ้น ทำไมก้องกระโดดลงมา?
แหม่ม : ก็บอกว่าจะเลิก ไม่ต้องคุยอะไรทั้งนั้น พอเขาบอกว่าไม่เลิก ถ้าไม่เลิกก็ไปคุยที่บ้านนุ่น ให้จบๆ กันไป คุยกันต่อหน้า เขาก็เหมือนมีเถียงกันบ้างตลอดทาง จนช่วงเลี้ยวเข้าซอยชะลอ เขาก็พูดว่าไปคุยกันเองได้มั้ย 2 คน หนูก็บอกว่าคุยกันเองไม่ได้หรอก แล้วเขาก็โดดเลย

จังหวะเลี้ยวไปปุ๊บ เสี่ยก้องเปิดประตู คุณไม่ชะลอ คนมองว่าคุณเจตนาหรือเปล่า?
แหม่ม : ไม่ได้เร่งเครื่องค่ะ เป็นช่วงใส่เกียร์ ไม่ใช่เกียร์ออโต้นะคะ เป็นเกียร์กระปุก รถเหมือนรถที่ทำมา พอเปลี่ยนเกียร์ก็จะเป็นอย่างที่เห็น

ทำไมคุณไม่ชะลอตอนเขาเปิดประตู?
แหม่ม : ชะลอนะคะ ขับมาแค่ 40 เป็นช่วงเลี้ยว

แต่ไฟเบรกไม่มี เหมือนไม่มีการเบรก?
แหม่ม : เพราะว่าช่วงเขากระโดดไปแล้ว ตกใจด้วยค่ะ กะทันหันค่ะ

เจฟน้องชาย ขับรถตามไป ทำไมถึงบอกว่าช่างมัน มันโดดมาเอง กูโดนรถเมล์ยังไม่เป็นไรเลย ไม่ต้องลงไปช่วยมัน ปล่อยมัน มันแกล้ง?
เจฟ : เพราะเขาเป็นคนชอบแกล้ง ชอบเล่นใหญ่

เขาเคยโดดรถแบบนี้มั้ย?
เจฟ : ไม่เคยครับ เพียงแต่ว่าเวลาทะเลาะกันแบบนี้ เขาจะจอดรถเดินเป็น 2-3 กิโล

จอดรถเดินกับการโดดรถมันต่างกันนะ เรารู้สึกไม่เชื่อเขา?
เจฟ : ครับ เพราะเขาเป็นคนชอบแกล้ง

กับเสี่ยก้อง สามีพี่สาวคุณ มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งมั้ย มีความเกลียดชังก่อนหน้านี้มั้ย?
เจฟ : ไม่มีครับ เราไปเที่ยวด้วยกันตลอด กินข้าวก็ไปด้วยกันหมดครับ ไม่มีอย่างนั้นครับ

เวลาคนตกรถ ต้องช่วยหรือเปล่า?
เจฟ : ความที่เราตกใจตรงนั้นครับ

ทำไมถึงไม่เลิก?
แหม่ม : หนูจะเลิกนะทุกครั้ง ไม่ใช่ไม่เลิก แต่ทุกครั้งที่จะเลิก เขาจะประชดแบบนี้ จะโดดรถมั่ง ลงจากรถเดินบนถนน

ทำร้ายตัวเองมีมั้ย?
แหม่ม : มีค่ะ และโทรหาคนรอบข้างห้ามมายุ่งกับหนู ประชดประชัน ด่าทอ ถามว่าหนูทุกข์ใจมั้ย หนูก็ทุกข์ใจนะพี่ ถามว่าอยากเลิกมั้ยก็อยากจะเลิก แต่เลิกไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่จะเลิกเขาก็เป็นแบบนี้

พูดง่ายๆ ว่าเขาไม่ยอม?
แหม่ม : ใช่ค่ะ เขาไม่ยอมเลิก ทำร้ายร่างกายตัวเองนิดหน่อย แต่ไม่เคยทำร้ายหนู

เจฟบอกว่าเฮ้ยไม่ต้องช่วยมัน หลังเหตุการณ์นั้น แหม่มลงจากรถมา ตอนแรกไม่มีใครช่วย?
แหม่ม : คิดว่าเขาแกล้ง ก็ยังไปดึงแขนเขา บอกให้เขาลุก อย่าทำแบบนี้ เขย่า แล้วบอกว่าอย่าทำแบบนี้ คิดว่าเขาแกล้งอยู่ ก็ดึงให้เขาลุก

ห้านาทีผ่านไป เจฟลงไปทำอะไร?
เจฟ : พยายามไปช่วยเขา พยายามพยุงเขา เพราะพื้นร้อนมาก

เป้ : อุ้มไม่ไหว ตัวเขาหนัก ก็เลยให้เจฟถอยรถมา

คุณเห็นคนโดดรถแล้วหลับแบบนี้ ทุกคนคิดว่าเขาแกล้งหมดเลยเหรอ?
เจฟ : เขาเป็นคนแบบนี้ ชอบแกล้ง ชอบเล่นใหญ่ แล้วไม่มีเลือด ไม่มีอะไรเลย

แหม่ม : แล้วที่เขาหมดสติไป เขาเหมือนนอนกรนค่ะ

รถอีกคันเข้ามาทำอะไร?
แหม่ม : น้องสาวหนูเองค่ะ อุ้มลูกหนูกับพี่ก้อง

นี่คือสิ่งที่ฝั่งโน้นอยากเห็นทั้งหมด คุณเปิดให้ดูแล้วว่าคุณช่วย ไม่ใช่ไม่ช่วย ประเด็นถัดมา เขาบอกว่าคุณเองตอนลงมา มีคำพูดว่าหนักเอาขึ้นรถไม่ได้ ต้องรอกู้ภัย สุดท้ายตัดมาอีกทีเขาอยู่บนรถ?
เจฟ : พยายามช่วยกันอุ้มขึ้นรถครับ

แล้วรอกู้ภัยทำไม ทำไมไม่พาส่งรพ.?
เจฟ : เราไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์ครับ กลัวจะเป็นอะไรไปกันใหญ่

แหม่ม : ช่วงอุ้มเหมือนเขาเจ็บขา

โดดมา สิบห้านาทีผ่านไป กว่าจะช่วยออกไป กินเวลาตรงนี้สัก 20 นาที ช้าไปมั้ย?
เจฟ : ผมก็ช่วยนะครับ ช่วงที่อยู่บนรถก็เรียกเขาตลอดว่าพี่ๆ

ทนายตั้มบอกว่าเหมือนคุณขับรถกระชาก รถเบี่ยงขวาทำให้เขาเสียหลักตกลงมา มองยังไง?
แหม่ม : ไม่จริงเลยค่ะ ขับมาปกติค่ะ ไม่ได้เบี่ยงขวา เพราะรถขับคร่อมเลนอยู่แล้ว

คุยกับ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” เรื่องนี้เข้ามาช่วยดูแล มองยังไง?
ทนายเดชา : มองตามหลักฐานที่ปรากฏ และฟังจากคำพูดประจักษ์พยาน มองอยู่แค่นั้น เป็นอุบัติเหตุชัดเจน

ทนายฝั่งโน้นบอกว่าตอนรถเลี้ยวไปตอนเสี่ยก้องเปิดประตู ควรชะลอก่อน แต่อันนี้เหมือนเข้าเกียร์แล้วกระชากไปแล้วเบี่ยงขวานิดนึง ทำให้เสี่ยก้องตกลงมา?
ทนายเดชา : อันนั้นไม่เห็นด้วย ถึงแม้เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏ แนวคำตัดสินของศาลฎีกาที่ผ่านมา มีคำพิพากษาฎีกาที่ 114/2510 เคยตัดสินว่าถ้าคนที่กระโดดลงจากรถ เป็นความสมัครใจของผู้ตายเอง ทฤษฎีทางกฎหมาย ทฤษฎีว่าด้วยความสัมพันธ์และผล คนตายไม่ได้เป็นผลมาจากคนขับรถ แม้ขับรถเร็วแค่ไหน เร่งเครื่องก็ไม่มีความผิด ไม่มีอะไรมีความสัมพันธ์กันเลย ผมก็มีคดีแบบนี้อยู่ในศาลอีก 1 เรื่อง มันไม่เกี่ยวกันเลย

เรื่องไทม์ไลน์ตัวเวลา มีผลกับคดีมั้ย?
ทนายเดชา : พฤติกรรมที่เกิดขึ้น หลังผู้ตายตกรถเนี่ย เป็นเรื่องความผิดละหุโทษว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยอะไรต่างๆ แต่ถ้าเราดู เราจะเห็นความต่อเนื่องในการเข้าไปช่วยผู้ตายต่อเนื่อง แล้วกฎหมายไม่ได้บอกว่าต้องเร่งรีบในการช่วยเหลือ เขาบอกว่าต้องช่วยเหลือตามความจำเป็น เขาทำเต็มที่แล้ว เพราะตัวคุณแหม่ม หนึ่งตกใจ สองไม่มีความรู้ด้านการแพทย์ ไม่ได้เป็นแพทย์ ไม่ได้เป็นพยาบาล ไม่ได้รับการฝึกอบรมจากหน่วยงานสาธารณสุข ผมดูแล้วไม่มีอะไรเป็นคดีความทางอาญาเลย

คำพูดของฝั่งเจฟที่บอกว่าไม่ต้องไปช่วยหรอก ปล่อยมัน ไม่มีผลกับคดี?
ทนายเดชา : คำพูดไม่มีความผิด ยกเว้นหมิ่นประมาทซึ่งหน้า ต้องดูการกระทำว่านายเจฟ หลังจากนั้นได้มีการเข้าไปช่วยเหลือมั้ย บุคคลจะรับผิดทางอาญาต่อเมื่อมีการกระทำ ที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด ฉะนั้นเขาก็เข้าช่วยเหลือ ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไรเลย

หนักใจมั้ย เหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมากับทนายตั้มมา แล้วเจอกันอีกแล้ว?
ทนายเดชา : (หัวเราะ) เวลาเราสู้กันเราสู้ในศาล ไม่ได้มาสู้กันทางเฟซบุ๊ก หรือรายการโหนกระแส หรือมาดูคอมเมนต์โซเชียล พยานหลักฐานที่มีแค่นี้มันจบแล้ว ดูกล้องหน้าร้อน ฟุตเทจหน้าหลัง มันออกหมดแล้วในโหนกระแส ส่วนความขัดแย้งส่วนตัวไม่เกี่ยวกับคดี ไม่มีผล อยู่ที่พยานหลักฐานชัดเจน

ไทม์ไลน์หลังเสี่ยก้องตกลงไป แล้วเขายังยืนอยู่ ไม่ได้เดินไปหาเสี่ยก้อง ไม่มีผลต่อคดี?
ทนายเดชา : ไม่มีนะ ไม่มีกฎหมายบอกว่าคนตกรถแล้วต้องวิ่งไปถึงผู้ตายภายใน 30 วินาที ไม่มีกฎเกณฑ์กติกา ไม่มีข้อสงสัยเลย มันชัดเจน ถ้าเกิดกรณีนี้ดูคลิปต่างๆ แล้ว สมมติว่าเจฟกับแหม่ม ทำผิดจริง ตอนนี้พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องออกหมายจับหรือออกหมายเรียกแล้ว

เรื่องนี้แบ่งเป็นสองมุม คดีว่ากันไปตามข้อเท็จจริง อีกเรื่องมุมสังคม ต้องตอบให้ได้ในฐานะที่เราเป็นภรรยาอีกคน สังคมไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้คุณบอกว่าคุณทุกข์ทรมานมาเหมือนกัน ถามเพื่อนสนิท คุณสนิททั้งคู่ เขาคบหากันคุณรู้ตลอด?
ออย : รู้ค่ะ

ยืนยันเหรอว่าเขาคบกันโดยฝ่ายโน้นไม่มายุ่งเกี่ยว?
ออย : ใช่ค่ะ เพราะหนูอยู่ด้วยตลอด

เสี่ยก้องเขารักมาก?
ออย : เขารัก เขาชอบหึงหวง ไปกินข้าวไปไหนก็ไปกันหมด

ไม่ยอมเลิก?
ออย : ไม่มีวี่แววว่าทางโน้น (นุ่น) จะมีปัญหาอะไร เพราะเขาก็อยู่กับเพื่อนหนูตลอด

นุ่นไม่เคยมาราวี?
ออย : ไม่มีค่ะ

เรื่องคลิปในกล้องวงจรปิด ฝั่งโน้นติดใจว่าทำไมต้องเอาให้ช่างลบคลิปทิ้ง ทั้งที่คุณควรเอาเมมโมรี่การ์ดหน้ารถหรือหลังรถคุณเอาไปให้ตร. แต่นี่กลายเป็นว่าเอาไปให้ช่างลบทิ้ง ทำไมต้องไล่ลบ ไปถามศูนย์โตโยต้าบ้าง ถามร้านแต่งรถบ้าง เพราะอะไร?
เจฟ : อันนั้นไม่เป็นความจริงเลย ความจริงคือวันเกิดเหตุทุกอย่างผมอยู่ในนั้นหมด ผมขับรถไปรพ. เพื่อไปดูว่าเป็นยังไง พอขับรถไปถึงก็เจอคนหลายคนบรรดาเพื่อนเขา เขาก็ถามว่าหน้ารถมีกล้องมั้ย ผมก็บอกว่ามีครับ เขาบอกว่าถอดได้มั้ย ผมก็บอกว่าถอดไม่เป็น ใครอยากถอด ถอดไปได้เลยครับ

ถอดออกมาเพื่อ?
เจฟ : เพื่อให้เขาดูว่าเหตุการณ์เป็นยังไง

ฝั่งโน้นบอกว่าถอดเพื่อลบ?
แหม่ม : ไม่ใช่ค่ะ

เจฟ : ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้ถอดเองด้วย เขาเป็นคนถอดเอง

เขาบอกว่าคุณเป็นคนขอให้เพื่อนเสี่ยก้องลบให้หน่อย แต่ช่างไม่ลบ กลับเซฟออกมาแล้วเอามาเปิดเผย?
เจฟ : อันนี้ไม่จริงเลยครับ

แหม่ม : ไม่จริงค่ะ เพราะวันเกิดเหตุ นุ่นกับน้องสาวเขาอีกคนเหมือนถามหาคลิป หาภาพที่บันทึก ก็ถามเจฟว่าหน้ากล้องรถมีมั้ย แล้วตรงนั้นมีช่างสองคนที่มาดูพี่ก้อง ก็ให้เขาเป็นคนลงไปถอดให้ ซึ่งถอดมามันใช้เวลา น้องสาวอีกคนบันทึกภาพผ่านโทรศัพท์ให้เขาดูว่าเหตุการณ์เป็นแบบนี้นะ แต่คลิปที่หลุดออกไป ทางเราก็ไม่รู้ว่าหลุดไปได้ยังไง บางข่าวบอกว่าแหม่มเอาไปให้ตร. แต่ทำไมให้แค่นี้ แหม่มก็ไม่รู้มันหลุดไปได้ยังไง ภาพที่บันทึกไป ออกไปแค่ 5 นาทีที่มีเสียงเจฟด่า ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ลบคลิปอะไรเลย

ยืนยันสู้ถึงที่สุดเหมือนกัน?
เจฟ : ยืนยันครับ เพราะเราไม่มีเจตนา ไม่ได้คิดแบบนั้นเลยครับ

อยากบอกอะไรนุ่น ถ้าเขาดูอยู่?
แหม่ม : ก็..ไม่ได้เคยคิดจะวางแผน หรือทำให้เขาต้องตาย เพราะเขาก็เป็นพ่อของลูกคนนึง เขาเป็นสามีคนหนึ่งของหนูเหมือนกัน มีลูกเล็กๆ เหมือนกัน เขาเป็นเสาหลัก หัวหน้าครอบครัว หนูก็ไม่ได้อยากให้เขาเป็นแบบนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เขาเป็นพ่อของลูกหนูค่ะ หนูไม่รู้ว่าถ้าสิ่งที่เขาคิดว่าหนูอุ้มฆ่า หนูก็ไม่รู้จะได้อะไรจากตรงนี้เหมือนกัน

ทำไมวันนี้ถึงมาออกรายการ คุณรู้ว่าสังคมด่าคุณแน่นอน สังคมไม่ยอมรับ?
แหม่ม : ก็อยากให้เขาฟังในมุมแหม่มบ้าง ถ้าหลังจากนี้สังคมออกแบบไหน ก็น้อมรับทุกอย่าง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ