เปิดใจสัปเหร่อหญิงคนแรก ผ่านมือมา 1,000 ศพ-ผีประตูแดงบางขวาง ภูมิใจเผา ‘ซีอุย’ เผยเรื่องฝังใจ ทำพิธีเผา “พันธุ์สายทอง” นักโทษประหาร ฆ่าข่มขืน 4 ขวบ
เมื่อวันที่ 20 ส.ค 65 ข่าวสดออนไลน์ ลงพื้นที่มายังวัดบางแพรกใต้ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี อยู่ติดกับเรือนจำกลางบางขวาง หรือที่หลายคนรู้จักเรียกว่า ‘คุกบางขวาง’ ได้คุยกับ นางอรชร มั่งรือน อายุ 50 ปี สัปเหร่อวัดบางแพรกใต้ เปิดใจเล่าเหตุการณ์ฝังใจ เผาศพนักโทษประหาร คดีฆ่าข่มขืนเด็ก 4 ขวบ และความภูมิใจที่ได้เผาศพซีอุย
นางอรชร เล่าว่า เป็นสัปเหร่อมาแล้ว 30 กว่าปี ส่วนที่หลายคนบอกว่าเป็นสัปเหร่อหญิงคนแรกของไทย ตนมองอาจจะไม่ใช่ เพียงแต่เป็นผู้หญิงที่กล้าเปิดเผยตัวเองว่าทำอาชีพสัปเหร่อ รวมถึงเผาศพนักโทษด้วย สมัยก่อนนักโทษถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าและฉีดยา ก็มีหลายศพที่มาทำพิธีที่วัดบางแพรกใต้ จนถึงตอนนี้เผามาแล้ว 1,000 กว่าศพ
ซึ่งมีเรื่องราวที่ฝังใจ คือทำพิธีเผาศพ “พันธุ์สายทอง” นักโทษประหาร คดีฆ่าข่มขืน ด.ญ.วัย 4 ขวบ ขณะนั้นตนยังไม่เป็นสัปเหร่อเต็มตัว แค่มาช่วยสามี กว่าญาติจะติดต่อมารับศพ ก็ผ่านไป 1 เดือน ศพถูกเก็บในช่องเก็บศพไม่ได้ฉีดยา พอถึงวันทำพิธีมีนักโทษ 4 คน เป็นคนแบกศพออกมา พอถึงบันไดเมรุโรงได้เอียง ทำให้น้ำเหลืองเทออกมา กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ต้องรีบล้างทันที ส่วนนักโทษที่แบกโรงก็วิ่งไปอาเจียน ถึงกับกินข้าวกันไม่ได้เลย
นางอรชร เล่าอีกว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนเป็นคนเผาศพ ‘ซีอุย’ แต่ก่อนที่จะมีพิธีเผาศพ นอนเครียดมา 2-3 วัน เพราะไม่รู้ว่าสารที่เคลือบร่างซีอุยคืออะไร กลัวว่าจะเผาไม่ไหม้ แต่พอถึงพิธีเผาจริงๆ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เหมือนสารที่เคลือบร่างซีอุยติดไฟได้ง่าย ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้เผาซีอุย เพราะที่ผ่านมาตนชอบไปดูซีอุยที่ รพ.ศิริราช รู้สึกเหมือนเขาได้รับอิสรภาพ ซึ่งในวันที่มีพิธีเผาศพซีอุย ตนก็ต้องเผาศพนักโทษอีก 1 ศพ ที่ถูกเก็บมาเกือบ 20 ปี แต่ไม่มีญาติมารับกลับไปทำพิธี
แม้ว่าตนจะเป็นสัปเหร่อเผาศพมาแล้ว 30 ปี ไม่เคยเจอผี หรือเรื่องลี้ลับเลย เพราะตนชอบพูดว่าถ้ามาหลอกจะไม่ทำพิธีให้ ส่วนเรื่องผีนักโทษหญิง ที่ชาวบ้านเล่ากันว่า เคยมายืนโบกรถสามล้อให้เข้ามาส่งที่วัด พอจ่ายเงินกลับกลายเป็นใบไม้ เป็นเรื่องที่เล่าขานกันมานานแล้ว ตนไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
“ส่วนที่มาทำอาชีพสัปเหร่อ ถึงจะไม่ได้เงินเดือน แต่ตนอยากช่วยเจ้าอาวาส ถ้าตนไม่ทำต่อก็หาคนมาทำไม่ได้ ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคน และอยากเตือนสติทุกคนทำอะไรให้คิดก่อน ความตายเป็นธรรมชาติ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ท้อก็อยากให้สู้ต่อ” นางอรชร กล่าวปิดท้าย