เปิดใจลูกสุดเศร้า! พ่อขับแท็กซี่ช็อกในสนามบิน ถูกรพ.ตามเก็บเงิน ไม่มีผ่อนจ่ายได้

Home » เปิดใจลูกสุดเศร้า! พ่อขับแท็กซี่ช็อกในสนามบิน ถูกรพ.ตามเก็บเงิน ไม่มีผ่อนจ่ายได้



เปิดใจลูกสุดเศร้า! พ่อขับแท็กซี่ช็อกในสนามบิน ถูกรพ.ตามเก็บเงิน ไม่มีผ่อนจ่ายได้ เผยอยากให้มองผู้มาใช้สนามบินสุวรรณภูมิไม่ใช่มีแต่คนรวย คนระดับรากหญ้าก็ใช้บริการด้วย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 เม.ย. นายภัคพล เมธีภักดี อายุ 37 ปี อาชีพนักข่าว ซึ่งเป็นลูกชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า พ่อเป็คนขับรถแท็กซี่ แล้วพอเข้าไปส่งลูกค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อส่งลูกค้าเสร็จในเวลา 19.40 น. พ่อมีอาการช็อก เนื่องจากมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ แล้วมีโรงพยาบาลเอกชนส่งตัวพ่อไปรพ.เอกชน ขอขอบคุณโรงพยาบาลที่นำส่งพ่อ หลังจากนั้นหมอโทรมาหาตนว่า พ่อหมดสติ หยุดหายใจและสมองขาดออกซิเจนไปนานแล้ว ทางหมอปั๊มหัวใจถึง 4 ครั้ง โดยครั้งที่ 3 มีชีพจรกลับมา หมอจึงให้ยากระตุ้นหัวใจ พอยาโรคหมดฤทธิ์ ชีพจรพ่อก็เริ่มอ่อน หมอจึงถามตนว่าจะให้ปั๊มหัวใจต่อหรือไม่ แต่ถ้าหัวใจกลับมา พ่ออาจจะไม่กลับมาเป็นปกติ อาจจะอยู่ให้สภาพที่เจ้าชายนิทรา เพราะสมองขาดออกซิเจนถึง 4 นาที จึงปรึกษากับครอบครัวว่าจะยื้อชีวิตพ่อหรือไม่ และเห็นว่าควรปล่อยให้พ่อจากไปอย่างสงบ

นายภัคพล เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น 19.40 น. พ่อมาถึงมารพ.เอกชน 20.00 น. ในวันถัดมาทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ขณะที่เดินทางไปรับศพในเวลา 07.15 น. ทางรพ.เอกชนดังกล่าวโทรมาอีกครั้ง โดยโทรบอกว่ามีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 13,000 บาท เป็นค่ารักษาพยาบาล ตนมองว่าช่วงเวลาห่างกันแค่ 20 นาที แต่เขาบอกว่าเป็นค่ารักษาพยาบาล โดยที่ตัวพ่อไม่ได้เข้าไปรักษาพยาบาลเลย โดยในคลิปเสียงทางพยาบาลบอกว่าได้ทำการรักษาพยาบาลด้วยการให้น้ำเกลือ ตรวจเล็บ ค่าอุปกรณ์ และค่านำส่งที่โรงพยาบาล ตนมองว่าไม่ใช่ ถ้าเป็นค่ารักษาต้องนำพ่อเข้าไปตรวจ

นายภัคพล เปิดเผยต่อว่า กรณีของพ่อเป็นกรณีฉุกเฉิน หนึ่งใน 6 ข้อของผู้ป่วยในสภาวะฉุกเฉินของสปสช.ที่จะสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างชัดเจน กฎหมายนิวเซฟ โดยที่ทีมไปช่วยเหลือสามารถนำตัวส่งโรงพยาบาลได้เลย ทุกแห่งเลย โรงพยาบาลที่ใกล้ทุกแห่งและไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น กฎหมายของสาธารณสุขเขียนไว้ชัดเจน ตนคิดว่าพ่อเป็นเคสฉุกเฉิน ทำไมยังมีการเรียกเก็บเงินกับผู้ป่วย เพราะเขาสามารถไปเรียกเก็บเงินกับนิวเซฟได้อยู่แล้ว จะมาเรียกเก็บเงินซ้ำอีกทำไม และถ้ามีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจริง ต้องเป็นฝ่ายการเงินที่ต้องโทรมา แต่นี้เป็นเบอร์มือถือปลายสายเป็นผู้หญิง อ้างเป็นพยาบาล ทำไมไม่เป็นการเงิน

“จึงมองว่ากฎหมายที่สาธารณสุขออกมา กฎหมายนิวเซฟ ใช้ได้จริงหรือเปล่า แล้วอีกอย่างหนึ่งที่สงสัยว่าทำไมพวกคุณไม่มีรถเอราวัณหรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เขาไม่เรียกเก็บกับประชาชนแบบนี้ โดยปลายสายบอกว่าเขตพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นเขตพิเศษ พื้นที่หวงห้ามต้องเป็นเขาเท่านั้น แต่สนามบินสุวรรณภูมิออกมาชี้แจงกับผม และผมไม่ได้ตำหนิสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ตำหนิหน่วยงานนั้น เพราะมองว่าผู้ที่มาใช้สนามบินสุวรรณภูมิไม่ใช่มีแต่คนรวยเท่านั้น มีคนระดับรากหญ้ามาใช้บริการด้วย ทำไมถึงต้องมีแต่โรงพยาบาลเอกชนอยู่ภายในนั้น ทำไมไม่มีโรงพยาบาลรัฐบาลไปอยู่ด้วย เข้าใจว่าสนามบินสุวรรณภูมิคือหน้าต่างของประเทศ แต่ควรมีทางเลือกให้กับประชาชนด้วย”

“ส่วนเรื่องที่ว่าเขาบอกให้ผมผ่อนจ่ายได้ โดยที่เขาบอกว่า ถ้ายังไม่มีก็ผ่อนจ่ายได้ คือยังไงก็ต้องจ่าย ก็อยากรู้เหมือนกันว่ามีเคสแบบนี้เกิดขึ้นเยอะมั้ย ผมได้ไปถามที่หน้าห้องเก็บศพ เขาก็ได้เล่าให้ฟังว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ มีแต่ตัดพ้อที่หน้าห้องศพเพียงเท่านั้น จึงอยากจะเป็นกระบอกเสียงและตัดสินใจโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊ก“นายภัคพลกล่าวปิดท้าย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ