เปิดใจรปภ.โดนลวงรุมตื้บคาบริษัท-ไหว้ขอชีวิต แฉตร.อยู่เบื้องหลัง ปมแค้นลาออก เชื่อบริษัทต้องรู้เห็น เหตุโดนปิดประตูทำร้ายในห้อง
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 20 ม.ค.65 ที่สน.หัวหมาก พนักงานรักษาความปลอดภัย และพวกรวม 4 คน ที่ถูกทำร้ายร่างกาย เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน หลังจากแจ้งความไว้ว่าถูกชายฉกรรจ์ในบริษัทรักษาความปลอดภัย ย่านรามคำแรง รุมทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายอนันตชัย ปิยะธีรวัฒน์ อายุ 32 ปี กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนและพวกรวม 4 คนจะไปรับเงินเดือนงวดสุดท้าย หลังจากที่ตัดสินใจลาออก ซึ่งบริษัทนัดแนะให้เข้าไปรับเงินดังกล่าว โดยมีผู้จัดการฝ่ายกำลังพลของบริษัทให้การต้อนรับ โดยระบุว่าให้พักคอยที่ห้องประชุม ระหว่างนั้นมีการใช้ให้ยกโต๊ะเก้าอี้ออก จัดห้องเพื่อให้มีพื้นที่โล่ง
จากนั้นเวลาต่อมา มีชายฉกรรจ์ 6-7 คน แต่งตัวรัดกุม พร้อมสวมหมวกกันน็อก ตั้งใจปิดบังใบหน้าและอาวุธครบมือ เข้ามายึดโทรศัพท์ของทุกคนไปวางไว้ไกลตัว ก่อนจะรุมทำร้ายทั้งร่างกาย ทั้งกระทืบ ตบต่อย โดยใช้ดิ้ว ทุบตีตามร่างกาย ซึ่งไม่สามารถปัดป้องได้ อีกทั้งแต่ละคนก็ไม่ได้ต่อสู้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย ยอมให้กลุ่มคนดังกล่าวทำร้ายนานกว่า 5 นาที โดยขณะที่ลงมือมีพนักงานคนอื่นๆ ของบริษัทเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือ
ต่อมาเมื่อชายฉกรรจ์ทำร้ายร่างกายเสร็จ ก็เดินออกจากห้องไป ทั้ง 4 คนก็ไปนั่งรอรับเงินเดือนที่ต้องได้ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ขณะนั้นเองผู้จัดการฝ่ายกำลังพลของบริษัท เรียกหัวหน้ารปภ.เข้าไปในห้องแล้วอัดเสียง ถามสาเหตุถึงการลาออก และถ่ายรูปบาดแผลของแต่ละคนไปด้วย แต่ไม่ถามถึงเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายเลย ตนคาดว่าสาเหตุที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นเพราะกลุ่มของตนลาออกจากบริษัท จึงสร้างความไม่พอใจให้กับเพื่อนร่วมงาน
ก่อนที่จะตัดสินใจลาออก ตนได้ทำเรื่องยื่นจดหมายลาออกตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. และมีผลให้ออกสิ้นเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของบริษัทในการยื่นใบลาออก โดยปกติแล้วการจ่ายเงินเดือน จะจ่ายผ่านการโอน แค่ครั้งนี้ที่นัดมารับที่บริษัท เพราะอ้างว่าให้เข้ามาเคลียร์เอกสารและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งนี้ เชื่อว่าคนที่ทำร้ายตน น่าจะเป็นคนในบริษัท เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในบริษัทรักษาความปลอดภัย ไม่น่าจะมีคนอื่นเข้ามาได้
สำหรับอาการบาดเจ็บของตน ก็มีรอยถลอกที่ใบหน้าข้างขวา มีรอบฟกช้ำตามแผ่นหลังประมาณ 4-5 จุดใหญ่ ตอนนี้ก็ยังมีอาการปวดอยู่ ได้ทานยาตามที่แพทย์จ่ายให้แล้ว
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนเป็นลูกสาวของรปภ.ที่อายุมากแล้ว ทราบว่าชายฉกรรจ์ทั้ง 6-7 คนรุมทำร้ายร่างกายอย่างเดียว จนพ่อต้องยกมือไหว้ ถึงจะยอมหยุด จากนั้นเห็นว่าชายฉกรรจ์ได้เดินเข้าไปรับซองเงินจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่คนในบริษัทเรียกว่าผู้การ ทราบมาว่าน่าจะมียศตำรวจ ซึ่งพฤติกรรมของชายฉกรรจ์ทั้งหมดเหมือนกับคนที่ตั้งใจวางแผนล่อมาให้ทำร้ายร่างกายมาก