เปิดใจ ‘บริการเช่าพี่โจ’ รับฟังความฉิบหายชีวิต 199 บาท เผยเจอเคสประหลาดติดต่อมา ลูกค้าสนใจทักมาเพียบ โดยเฉพาะเด็กนักเรียน
จากกรณีโซเชียลฮือฮาเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘สิทธิพงษ์ อิ่มทองใบ’ โพสต์อาชีพสุดแปลก “บริการเช่าพี่โจ” เป็นที่ปรึกษา รับฟังปัญหา นั่งคุย นั่งระบายความฉิบหายชีวิต ชั่วโมงละ 199 บาท รายได้ไม่นำไปบุญ จะเอาไปกินเบียร์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 65 ข่าวสดออนไลน์ ได้คุยกับ นายสิทธิพงษ์ อิ่มทองใบ ผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว เล่าว่า ตนเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ และทำงานเกี่ยวกับที่ปรึกษาทางการตลาดอยู่แล้ว จุดเริ่มต้นบริการเช่าพี่โจ ตนเพิ่งโพสต์เมื่อวานนี้ เพราะที่ผ่านมาตนเห็นว่าโลกโซเชียล มักมีการอวด โชว์ไลฟ์สไตล์ เรื่องของความสำเร็จ หรือพวกไลฟ์โค้ช ทุกคนประสบความสำเร็จ ซึ่งความจริงแล้ว ต้นทุนของคนมันต่างกัน พอมีคนพูดถึงเส้นทาง การนำไปสูความสำเร็จแล้ว ตนอยากเป็นคนรับฟังความเครียด ความฉิบหายของชีวิต สำหรับคนที่อยากระบาย
ก่อนหน้านี้เคยโพสต์ขำๆ รับงานเอ็นไปเป็นผู้ปกครอง จึงมีการต่อยอดเป็นบริการเช่าพี่โจ กระแสตอบรับดีมาก มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่มาขอคำปรึกษา แต่ตนไม่คิดจะทำเป็นอาชีพหลัก เพราะไม่ใช่ไลฟ์โค้ช ตนก็แค่รับฟังปัญหาของพวกเขา เหมือนเพื่อนมากกว่า เป็นการโพสต์เอาฮา การที่เขาจะสามารถเล่าเรื่องฉิบหายให้คนนอกฟังได้คือสุดแล้ว อย่างเช่น ลูกไม่กล้าเล่าปัญหาให้พ่อแม่ฟัง , สามีไม่กล้าเล่าปัญหาที่ทำงานให้ภรรยาฟัง แต่พวกเขาก็มาพูดให้ตนฟัง
นายสิทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ถ้าถามว่าตนช่วยได้หรือไม่ ก็คงช่วยไม่ได้หรอก ได้แต่รับฟังซึ่งมีคนติดต่อมาเยอะมาก เฉพาะในข้อความก็เป็น 100 คนแล้ว โดยเฉพาะเด็กนักเรียนทักมาเยอะมาก สำหรับปัญหานี้ตนก็เคยมีปัญหาในสมัยเรียน บางอย่างมันแก้ไขได้ แต่บางอย่างแก้ไขไม่ได้ ก็ต้องพักไว้ก่อน ค่อยกลับมาแก้ ปัญหาหามีทุกวัย ทุกคนมีปัญหาหมดแหละ
ส่วนเรื่องที่ประหลาดที่สุด คือมีคนทักมาชวนไปมีอะไรด้วย แต่ตนก็ไม่ได้ไป และก็มีคนชวนไปกินเหล้ากินเบียร์ ตนก็ไม่ได้ไปอีกเช่นกัน เพราะหมอไม่ให้กินเยอะ มีเคสแปลกๆทักเข้ามาเยอะ คนที่มีปัญหาทางจิตจริงๆ ก็มีเยอะ แต่สิ่งที่ตนช่วยไป พูดไปก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาหรอก เพราะถ้าเรามีปัญหาจริงๆ ก็ไม่ได้อยากให้คนมาปลอบใจอะไรมากหรอก ตนแค่อยากให้มีคนฟัง
นายสิทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ถ้าใครดูอยู่ก็สามารถทักมาได้ แต่ต้องให้เวลาหน่อย เพราะตนก็มีธุระกิจของตัวเอง มันไม่ง่ายเลยที่จะรับฟังทุกเรื่องราวของทุกคน เพียงแต่ตนจะไม่เก็บมาเป็นอารมณ์
“ส่วนคนที่กำลังท้อแท้กับชีวิต ตนอย่างจะบอกว่าอย่างไปกดดันตัวเองให้มากไป เมื่อเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จนะ ทุกคนมีต้นทุนที่ต่างกัน คนที่เราเห็นว่าเขาประสบผลสำเร็จ อาจเป็นเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า มันจะได้ไม่ท้อแท้และทรมาน” นายสิทธิพงษ์ กล่าวปิดท้าย