เพจดังเปิด “รายละเอียดเอกสารของมินนี่” กระดาษ 1 แผ่น แจงชัดทุกประเด็นที่สังคมสงสัย ตอบเองแบบละเอียดยิบ

วันที่ 29 กันยายน 2566 เพจเฟซบุ๊ก ดาวแปดแฉก เผยแพร่ภาพกระดาษ 1 แผ่น ซึ่งระบุว่าเป็นรายละเอียดเอกสารของ “มินนี่” ที่ทนายความนำมายื่นต่อตำรวจ และได้มอบให้กับสื่อมวลชนด้วย

โดยระบุว่า นี้คือเอกสารที่ทนายความของมินนี่ได้แจกเอกสารที่นำมายื่นให้ตำรวจ ให้กับสื่อมวลชนเป็นกระดาษ 1 แผ่น ระบุว่า เป็นคำชี้แจงของ “มินนี่” ประเด็นเกี่ยวกับที่เป็นข่าว โดยสาระสำคัญ ยืนยันว่า “มินนี่” ประกอบธุรกิจนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและค้าขายสินค้าออนไลน์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเว็บไซต์การพนันออนไลน์ และต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว

ส่วนความสัมพันธ์กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ มีโอกาสรู้จักกันประมาณปลายปี 2563 ในงานเลี้ยงส่งผู้การจังหวัดเลย โดยการแนะนำของแม่มินนี่ หลังจากนั้นได้พบเจอกันอีกประมาณ 3 – 4 ครั้ง จนสนิทสนมกัน จากนั้นจึงได้คบหากันเรื่อยมา จนกระทั่ง พ.ต.อ.ภาคภูมิ ย้ายไปประจำที่ จ.ขอนแก่น จึงไม่ได้เจอกันอีกจนกระทั่งปลายปี 2565 หลังกลับจากทำงานที่ต่างประเทศจึงได้พบกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ อีกครั้ง ซึ่งก็รู้ว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ มีครอบครัวอยู่แล้ว แต่ยังคงติดต่อและคบหากันเรื่อยมา

ซึ่งในระหว่างที่คบหากัน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ได้ยืมเงินตนเองหลายครั้ง เป็นเงินสดบ้าง ให้โอนเงินบ้าง ตนเองไม่สะดวกก็เลยให้คนที่สนิทกันโอนเงินให้ หลังจากนั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ ก็จะคืนเงินให้เป็นเงินสดแต่ยังไม่ครบถ้วน

ส่วน พ.ต.อ.เขมรินทร์ (พี่เปียก) เป็นน้องชาย พ.ต.อ.ภาคภูมิ เจอกันประมาณกลางปี 2566 เนื่องจากมีเรื่องปรึกษา พ.ต.อ.ภาคภูมิ เกี่ยวกับคนต่างด้าวที่จะประกอบธุรกิจในประเทศไทย แต่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ไม่ว่าง จึงให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ ซึ่งเป็นตำรวจ ตม. ที่รู้เรื่องดังกล่าวดีมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขออนุญาตทำงานของคนต่างด้าว เมื่อพบกัน จึงได้แอบถ่ายรูปส่งให้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ดู ว่ามากินข้าวกับน้องชาย โดยที่มินนี่ไม่ได้มีความสัมพันธ์และธุรกรรมทางการเงินใด ๆ กับ พ.ต.อ.เขมรินทร์ เลย

ส่วนที่เป็นข่าวกับ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตนเองตกใจมาก เนื่องจากท่านไม่เคยรู้จักตนเอง ไม่เคยมีความสัมพันธ์ และไม่เคยติดต่อกันไม่ว่ากรณีใด ๆ โดยเคยเจอ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แค่ 2 – 3 ครั้ง ในงานเลี้ยงที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พาไป และครั้งหนึ่งเคยไปขอร้องเพลงกับท่านในงานเลี้ยง โดยที่ท่านไม่ได้รู้จักตนเองเป็นการส่วนตัว

ในเอกสารยังบอกอีกว่า ในที่มินนี่ถูกจับกุม มีตำรวจ 2 นายทำการจับกุม ซึ่งจำได้ว่าคนหนึ่งมีการเรียกกันว่าชื่อ “เจ” ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นชายตัวสูง ผิวดำ ไม่ทราบชื่อ ภายหลังจึงทราบว่าตำรวจทั้ง 2 นาย อยู่ในชุดจับกุมของ ศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ หรือ PCT ชุดที่ 4 ได้พยายามชักจูงให้ตนเองรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของธุรกิจเว็บไซต์พนันออนไลน์ และกดดันให้ยืนยันว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิ เกี่ยวข้องกับธุรกิจเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทั้ง ๆ ที่ตนเองและ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจการพนันออนไลน์ใด ๆ เลย

นอกจากนี้ ข้อความทางแชตไลน์ ภาพถ่ายต่าง ๆ เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บอยู่ในโทรศัพท์มือถือของตนเองซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ไหน แต่หลังจากที่ถูกจับกุมและ พนักงานสอบสวนได้ยึดมือถือเครื่องนั้นไป ก็ปรากฏข้อความแชทไลน์ ภาพถ่ายต่าง ๆ ปรากฏในโซเชียลฯ อย่างแพร่หลาย ทั้ง ๆ ที่ ข้อความและภาพถ่ายเป็นพยานหลักฐานในสำนวน แต่ก็มีการนำมาเปิดเผยและโจมตีตนเองและบุคคลต่าง ๆ ทำให้เสียหาย ตนเองจึงจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้สื่อมวลชนทราบ เพื่อปกป้องเกียรติของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้(29 ก.ย.) มีรายงานว่ามินนี่พร้อมทนายความ จะเดินทางไปที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจด้วย

• อ่านข่าว พ.ต.อ.ภาคภูมิ ยอมรับมักง่ายคบ “มินนี่” เคยเตือนแล้วอย่าโพสต์ กลัวเมียมาเห็นเหมือนกัน