เปิดเส้นทางกลับไทยในรอบ 15 ปี ในฐานะ “นักโทษชายทักษิณ” จากดอนเมืองสู่เรือนจำ
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 หลังจากอยู่ต่างประเทศยาวนานถึง 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2551
การเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ ที่โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าอังคารที่ 22 สิงหาคม 9.00 น. ณ ดอนเมือง จะไปรับคุณพ่อทักษิณค่ะ” ขณะที่ต่อมา น.ส.แพทองธาร ยังได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์อีกครั้งว่า “เลื่อน” ไม่ได้ “ยกเลิก” ไม่เพ้อเจ้อนะจ๊ะ หลังจากก่อนหน้านี้นายทักษิณ มีกำหนดเดินทางกลับไทยวันที่ 10 สิงหาคม 2566 แต่ได้เลื่อนออกไป โดยอ้างว่าหมอนัดไปตรวจสุขภาพ
ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจเส้นทาง และเปิดขั้นตอนความพร้อมหากนายทักษิณกลับไทยจริง จะมีวิธีการดังนี้ การกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ครั้งนี้จะเป็นการเดินทางโดยใช้เครื่องบินส่วนตัว ซึ่งตามข้อกำหนดจะต้องมีการขออนุญาต และจองสล็อตการบินล่วงหน้าก่อนทำการบินเข้ามาไม่ต่ำกว่า 3 วัน โดยจะต้องยื่นขออนุมัติจากผู้อำนวยการท่าอากาศยานที่เครื่องบินจะลงจอด คือผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง
โดยส่วนใหญ่เครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ หรือ เครื่องบินส่วนตัว จะนำเครื่องขึ้น-ลง ที่สนามบินดอนเมืองเป็นหลัก เพราะสนามบินสุวรรณภูมิ จะเน้นไปที่เที่ยวบินประจำที่มีตารางบินชัดเจน และปกติสนามบินสุวรรณภูมิจะมีปริมาณการจราจรทางอากาศหนาแน่นอยู่แล้ว ไม่สามารถรองรับเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ หรือ เครื่องบินส่วนตัวได้
แต่เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของนายทักษิณที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยระเบียบวาระที่น่าสนใจคือ ระเบียบวาระที่ 2.2 ขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ
นายทักษิณเดินทางกลับประเทศไทย จะกลับมาในฐานะ นักโทษชายทักษิณ ก็จะต้องผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ตามระเบียบที่กำหนดไว้ทุกขั้นตอน ซึ่งตามปกติจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปรอรับเพื่ออายัดตัวตั้งแต่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และควบคุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพทันที
แต่กรณีนายทักษิณหากช่วงเวลาที่ควบคุมตัวอยู่ในเวลาราชการก็จะรับตัวและส่งศาลฏีกาในทันที แต่หากนอกเวลาราชการ ก็จะทำการส่งตัวไว้ที่สถานคุมตัวพิเศษ ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีก่อน และจะย้ายตัวไปศาลฏีกาในเวลาราชการ จากนั้นสถานที่สุดท้าย คือ นำตัวไปส่งที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
กล่าวโดยสรุปคือ เมื่อนายทักษิณเดินทางถึงไทยจะมีการนำตัวนายทักษิณเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไปยังสถานที่ควบคุมพิเศษ ที่ตั้งอยู่ในสโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต ก่อนเดินทางไปยังศาลฎีกา สนามหลวง เพื่อรับฟังคำพิพากษาของศาลที่ถึงที่สุดแล้ว จำนวน 4 คดี โทษจำคุกรวม 12 ปี แต่จำนวนนี้มี 1 คดีที่ขาดอายุความไปแล้วคือคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก 2 ปี ส่งผลให้เหลือโทษจำคุกรวม 10 หลังจากนั้นก็จะนำตัวนายทักษิณออกจากศาลฎีกา (สนามหลวง) ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ