เห็นสดใสร่าเริง แถมยังเป็นตัวแม่ด้านมนุษย์สัมพันธ์ดีเด่น แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆ แล้ว เจี๊ยบ โสภิตนภา นักแสดงสาวหน้าเด็ก จะต้องประสบพบเจอปัญหาจนส่งผลให้กลายเป็น โรคแพนิค
งานนี้เจ้าตัวขอย้อนเล่ากลางรายการ โต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกร หนูแหม่ม สุริวิภา ถึงประสบการณ์การต่อสู้กับโรคแพริค โดยมีเพื่อนสนิทในวงการ อย่าง นุ่น วรนุช และ เจี๊ยบ ชมพูนุช คอยช่วยเหลือจนทุกอย่างค่อยๆ ดีขึ้น
เล่าถึงปัญหาที่เริ่มต้นมาจากความเครียด ความกดดันหลายๆ อย่าง ?
“คือเราสู้มาตลอดเวลา เพราะคนว่าเรา ว่าเราคุณหนู แต่เราทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เราสู้ชีวิต บางทีมันเก็บมาคิด อย่างเวลาเรากลับบ้านมาเราก็จะไปอยู่ในกล่องเล็กๆ ของตัวเอง พี่เบียร์กับลูกจะรู้ว่าถึงบ้านแล้ว คือจะปิดประตู เงียบ และไม่พูดกับใครเลย หรือถ้ามีเรื่องเศร้าที่จัดการอะไรไม่ได้ก็จะร้องไห้”
อาการมันเป็นยังไงตอนที่เจอสถานการณ์จนกลายเป็นแพนิค ?
“คือเมื่อก่อนเราเป็นคน extrovert แต่อยู่ก็กลายเป็น Introvert เมื่อก่อนเป็นที่ชอบอยู่ข้างนอกมากมาย แต่อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นเริ่มกลัวคน กลายเป็นคน Introvert กลายเป็นคนเงียบ กลายเป็นคนเก็บตัว แต่โชคดีที่เจี๊ยบเป็นคนที่แบบไม่ใช่คนคิดไม่ดี หรือว่าคิดสั้นอะไรแบบนั้น เจี๊ยบเป็นคนรักโลก อยากอยู่บนโลกใบนี้มาก เป็นคนมีความสุขในการทำงาน แต่แค่รู้สึกว่าบางวันมันเศร้า จนไม่อยากเล่าให้ใครๆฟัง เพราะเรามีความรู้สึกว่า สมมติถ้าเราเล่าให้นุ่นฟัง นางก็ฟังเราบ่อยเกิน นางก็ช่วยเราแก้ แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของเรา เราควรเก็บไว้คนเดียว จนเราก็เอาไปปรึกษาลูก ปรึกษาลูกกับสามีสองคน จนเริ่มไปหาคุณหมอปรึกษาคุณหมอ”
ตอนไปหาคุณหมอ คุณหมอให้คำปรึกษาว่าอะไร ?
“หมอบอกว่าเจี๊ยบไม่ได้เป็นโรคค่ะ แต่เจี๊ยบเป็นบุคคลคนนึงที่เจอกับปัญหาชีวิต แต่แก้ปัญหาไม่ได้ และเศร้าใจกับปัญหานั้น เพราะว่าเจี๊ยบยังไปไม่ถึงตรงนั้น คุณหมอแนะนำว่าเราไม่ต้องไปดูโซเชียลมีเดีย เพราะว่าทุกคนมีปัญหามีต่างกัน ทางแก้ต่างกัน คุณหมอบอกว่ามีปัญหาอะไรบ้างให้เล่าให้ฟัง คุณหมอเลยบอกว่าโอเคเลย ให้เราถอยออกมา แล้วค่อยแก้ทีละปัญหา ที่เจี๊ยบสั่นและแพนิคเพราะว่าเจี๊ยบแก้ปัญหาไม่ได้ อาการมันเริ่มมาจากร้องไห้ มีปัญหาความเครียดจากปัญหาในกองถ่าย ช่วงนั้นเครียดจากสถานการณ์โควิด ปัญหาระดับโลก มันไม่ใช่ปัญหาของเราคนเดียว ทุกคนมีปัญหาหมด หมอก็บอกว่าวิธีการแก้ง่ายมากๆ ให้เอากระดาษมาเขียนและกางเป็นข้อๆ จนรู้ว่ามันไม่ได้เกิดจากโรค แต่ปัญหาที่ทุกคนเจอ”
อาการที่หนักสุดที่รู้สึกไม่ปกติคืออาการยังไง ?
“คือตอนที่ต้องไปคุยงานสำคัญมากๆ เวลาอยู่หน้ากระจกเจี๊ยบจะสั่นๆ มือสั่นมากๆ รู้สึกว่าทุกอย่างมันวิ่งเข้าหารอบตัวจนเราอยู่นิ่งไม่ได้ มันควบคุมตัวเองไม่ได้ มันกลัว”
คุณหมอแก้ปัญหาหรือว่าให้ทานยาอะไรในการรักษา ?
“เจี๊ยบเลือกที่จะไม่ทานยาค่ะ แต่เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต ก็คือแก้ปัญหาลดความเครียดสะสางงานให้ได้ คุณบอกให้คิดถึงปัญหาจากสาเหตุต่างๆ แล้วมันก็แก้ได้จริงๆ ค่อยแก้ทีละข้อ และบอกคนรอบข้างให้ช่วยแก้ และหนึ่งคือไม่อยู่กับโซเชียลมีเดียมากเกินไป เพราะยิ่งดูยิ่งเครียด วิธีแก้คืออยู่กับสิ่งที่ตัวเองชอบและฝึกสมาธิ เริ่มต้นเช้าวันใหม่ให้ดีขึ้น เจี๊ยบใช้เวลาหนึ่งปีในการแก้ปัญหาฝึกปฏิบัติ ทำแบบฝึกหัด สามีกับลูกให้คำแนะนำ มีแนะนำให้ที่กำลังกายแล้วก็มี เจี๊ยบ ชมพูนุช เป็นคนสอนฝึกโยคะ และสอนกำหนดลมหายใจทุกครั้งที่เจี๊ยบมีปัญหา จนทุกอย่างมันเริ่มหายไป เวลาที่เรามีปัญหาอะไรเรามีความรู้สึกโกรธเราใช้วิธีนี้มันก็ช่วยเราได้ดีมาก”