ในที่สุดก็สิ้นสุดการรอคอยสำหรับ OnePlus 12 Series ได้เผยโฉมเวอร์ชั่นตลาดโลกอย่างเป็นทางการ ซึ่งเรียกว่าเป็นมือถือที่มีความโดดเด่นหลายสิ่งมากมาย และเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของ OnePlus เช่นเดียวกัน
รายละเอียดสเปก One Plus 12 เวอร์ชั่นตลาดโลก
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) : 163.3 x 75.8 x 9.2 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 220 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : IP65
- หน้าจอแสดงผล หน้าจอโค้งขนาด 6.82 นิ้ว LTPO AMOLED ความละเอียด 1440 x 3168 พิกเซล พร้อมกับ Refresh Rate 1-120 Hz ผลิตโดย BOE ความสว่าง 1,600 – 4,500 nits พร้อมกับลดแสงสีฟ้าและมีค่า PWM Dimming ที่ 2,160 Hz
- กระจกคลุมจอ Corning Gorilla Glass Victus 2
- ชิปเซ็ตประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ใช้ GPU Adreno 750
- หน่วยความจำแรม (RAM) : 12 / 16GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) : 256 GB / 512GB
- การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11 B/G/N/AC/AX/7, Bluetooth 5.4, GPS, A-GPS, 5G, 4G
- SIM Card : รองรับ Dual Nano SIM
- หน่วยความจำภายนอก : –
- ระบบปฏิบัติการ : Android14 + Oxygen OS 14
- ระบบความปลอดภัย
- สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องสำหรับถ่าย Selfie
- ด้านนอกความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
- วิดีโอ 4K@30fps, 1080p@30fps, gyro-EIS
- กล้องหลัง
- ตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล LYTIA-T808 เซนเซอร์ขนาด 1 / 1.43 นิ้ว Dual Layer Transistor
- กล้องมุมกว้าง 48 ล้านพิกเซล ให้มุมมองที่กว้างพอสมควร
- กล้อง Telephoto 64 ล้านพิกเซล รองรับการซูม 3 เท่าและเป็นเลนส์แบบ Periscope ที่ซูมไกลสุด 6x แบบ Hybrid Zoom
- ลำโพง Stereo แบ่งเปนทั้งหมด 2 จุด
- แบตเตอรี่ความจุ : 5400 mAh รองรับ Super VOOC กำลัง 100W / ระบบชาร์จไฟไร้สาย 50W
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ : USB Type-C มาตรฐาน 3.2
- สีสันของเครื่อง : Black, Green, Silver
ความน่าสนใจของ OnePlus 12
OnePlus 12 มีจุดน่าสนใจหลายจุด ทั้งการออกแบบเครื่องที่โดดเด่นและยังมีการใช้สีสันที่สวยงามและมีการใช้ลดลายหลังเครื่องเหมือนกับงานศิลปะชั้นดี สีเขียว Flowy Emerald และ สีดำ Silky Black ได้รับแรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์อันน่าทึ่งของแม่น้ำ Dart ที่ถักทอเป็นรูปทรงคดเคี้ยวในประเทศนิวซีแลนด์
หน้าจอของ OnePlus 12 เป็นแบบ ProXDR 2K 120Hz ที่ขับเคลื่อนโดยรูปแบบพิกเซลบลูไดมอนด์ใหม่ล่าสุดของ BOE ซึ่งช่วยให้ OnePlus 12 เข้าถึงความสว่างสูงสุดที่ 4,500 nits (Peak Mode) และแสดงผลแบบ ProXDR พร้อมกับมีค่า Refresh Rate 1 – 120Hz แบบ Adaptive
และยังทัชได้แม่นยำกับฟีเจอร์ Aqua Touch สามารถตรวจจับนิ้วมือที่เปียกและหยดน้ำบนหน้าจอ ช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวกับมือที่เปียกเหงื่อและการสัมผัสติดขัดระหว่างการเล่นเกมรวมไปถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมาก
ลำโพงคู่และมาพร้อมเทคโนโลยี 3D Spatial Audio, Dolby ATMOS มาแบบครบครัน
ด้านกล้องนั้นก็มีการจับมือกับ Hasselblad รอบนี้ตัวกล้องหลักเป็น LYT-808 ใหม่จาก Sony พร้อมกับค่ารูรับแสง F/1.6 ได้ความละเอียด 50 MP
กล้อง Periscope Telephot จาก OV64B รองรับการซูม 3x และไปจนถึง 120 เท่า และเลนส์มุมกว้างที่ให้มมุมกว้าง 114 องศา
ด้านขุมพลังนอกจาก Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ที่ได้ประสิทธิภาพสูงทั้ง CPU ดีขึ้น 30% และ GPU แรงขึ้น 25% ผ่านเทคโนโลยี Trinity Engine ยังได้ RAM สูงสุด 16GB และความจำสูงสุด 512GB ที่เขียนและอ่นได้ไว และใช้งานได้พร้อมกันนานถึง 72 ชั่วโมง
และยังรองรับ Snpadragon Spaces Ready ที่สามารถทงานำกับอุปกรณ์ XR ทั้งหลาย พร้อมกับระบบระบายความร้อน Dual Cryo-velocity VC โครงสร้างการกระจายความร้อนแบบ 3 มิติ และการออกแบบ VC คู่พร้อมพื้นที่ที่ครอบคลุมถึง 9,140 ตารางมิลลิเมตร ดูดซับความร้อนได้เร็ว
ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 5400 mAh รองรับ 100W SUPERVOOC Endurance Edition สามารถชาร์จไฟได้จาก 1 – 100% ได้ภายใน 26 นาที ซึ่งเทคโนโลยีนี้สหรัฐอเมริกาจะได้แค่ 80W เท่านั้น ส่วนระบบชาร์จไฟไร้สาย AIRVOOC รองรับกำลัง 50W
ด้วยแบตเตอรี่ใหญ่ขนาดนี้ ความสามารถในการรันเกม Genshin Impact ที่การตั้งค่าสูงสุด โดยมีอัตราเฟรมสม่ำเสมอที่ 57.4FPS3 (เฟรมต่อวินาที) ในระหว่างการทดสอบเป็นเวลา 3 ชั่วโมง และด้วยประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนายังช่วยให้สามารถถ่ายวิดีโอต่อเนื่องได้นาน 5.5 ชั่วโมงบนความละเอียด 1080p ที่ 30Hz
ลุ้นกันต่อไปครับว่า OnePlus 12 Series จะว่างจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อไหร่กันต่อไป