เปิดสาเหตุ! ศาลยกฟ้อง คดีเดวิด ‘ฝรั่งเตะหมอ’ เพราะด้วยเหตุผลนี้

Home » เปิดสาเหตุ! ศาลยกฟ้อง คดีเดวิด ‘ฝรั่งเตะหมอ’ เพราะด้วยเหตุผลนี้

เปิดสาเหตุ ฝรั่งเตะหมอ-min

ทนายรัชพล เปิดสาเหตุ “เดวิด” คดีฝรั่งเตะหมอ ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพราะในคลิป เห็นไม่ชัดว่าเตะจริง

จากกรณีศาลแขวงภูเก็ต นัดอ่านคำพิพากษาคดี พนักงานอัยการคดีศาลแขวง และ พญ.ธารดาว หรือ หมอปาย เป็นโจทก์ และโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างภูเก็ต ใน คดีทำร้ายร่างกาย กรณีเตะเข้าที่หลังหมอปาย พร้อมตะโกนด่าถ้อยคำหยาบคาย ขณะนั่งบันไดหน้าวิลล่าหรู ชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา

หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษา แจ้งเพิกถอนคำสั่งห้ามนายเดวิด เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เนื่องจากการพิจารณาคดีดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว เนื่องจากยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย

ฝรั่งเตะหมอ-1-min
ฝรั่งเตะหมอ-2-min

เมื่อสอบถามไปยัง พ.ต.อ.นิกร ชูทอง ผกก.สภ.ถลาง เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น กล่าวว่า กรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าตำรวจทำสำนวนคดีอ่อนนั้น ในส่วนของตำรวจได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และได้มีการเสนออัยการสั่งฟ้องไปตามขั้นตอนครบถ้วน โดยผู้เสียหายได้เป็นโจทก์ฟ้องร่วมด้วย กับทางอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต

สำหรับในส่วนของ หมอปาย ทีมข่าวพยายามติดต่อ เพื่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ คาดว่าภายหลังศาลมีคำพิพากษา หมอปาย ได้เก็บตัวเงียบ และอาจจะรู้สึกว่า ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เดวิด-min
  • สรุปคดี ฝรั่งเตะหมอ ศาลยกฟ้อง ‘เดวิด’ ยกประโยชน์ความสงสัยให้จำเลย
  • เพจดัง แฉอีก! ‘ฝรั่งเตะหมอ’ ถ่ายภาพร่วมเฟรม บิ๊กเบิ้ม ภูเก็ต
  • โดนอีกแน่! ฝรั่งกร่างเตะหมอ พบธุรกิจปางช้างมีพิรุจ แถมมีที่ดินงอกปริศนา

ล่าสุด วันที่ 4 ก.ย. 2567 ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กถึงคดีความดังกล่าวโดยระบุว่า “สรุปว่า ฝรั่งเตะหมอ พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันไม่ได้ชัดว่าเตะจริง เลยยกฟ้อง”

ทนายรัชพล-ฝรั่งเตะหมอ-min

เปิดคำพิพากษาเต็มคดี ฝรั่งเตะหมอ 

คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน โดยสำนวนแรก พนักงานอัยการคดีศาลแขวงเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยว่า จำเลยใช้กำลังทำร้ายร่างกาย นางสาวธารดาว จันทร์ดำ ผู้เสียหาย โดยการเตะบริเวณหลังหนึ่งครั้ง เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฟกช้ำบริเวณหลังส่วนบนโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391

สำนวนที่สอง นางสาวธารดาว เป็นโจทก์ฟ้องจำเลย ว่า การกระทำของจำเลยดังกล่าว เป็นเหตุให้นางสาวธารดาว มีอาการทางจิตประสาทโศกเศร้าเสียใจซึ่งเป็นอาการทางจิตเวชโดยแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรค PTSD (โรคเครียดภายหลังเผชิญเหตุการณ์สะเทือนขวัญ) ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295

ศาลให้เรียกพนักงานอัยการคดีศาลแขวงว่า โจทก์ที่ 1 และเรียกนางสาวธารดาวว่าโจทก์ที่ 2 คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าเมื่อพิจารณาคำเบิกความและคำให้การชั้นสอบสวนของโจทก์ที่ 2 ประกอบกับคลิปวีดีโอตามวัตถุพยาน ปรากฏว่า มีความแตกต่างและไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ

เนื่องจากตามคลิปวีดีโอปรากฏภาพโจทก์ที่ 2 หันหน้ามาทางข้างขวาและเหลียวหลังมองไปทิศทางที่จำเลยกำลังเดินตรงมาที่โจทก์ที่ 2 จึงเชื่อว่าหากจำเลยเตะโจทก์ที่ 2 จริงโจทก์ที่ 2 และนางสาวศุกาญจน์ ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยกัน ย่อมน่าจะเห็นเหตุการณ์และยืนยันได้หนักแน่นว่าจำเลยเตะทำร้ายร่างกายโจทก์ที่ 2

โดยมีลักษณะและรายละเอียดการเตะอย่างไรกันแน่ เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุมีแสงสว่างจากหลอดไฟในสวน จากดวงจันทร์เต็มดวงเพียงพอที่พยานโจทก์จะมองเห็นและจดจำเหตุการณ์ได้แต่โจทก์ที่ 2 กลับไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงถึงการถูกทำร้ายร่างกายนั้นได้อันเป็นข้อพิรุธให้น่าสงสัย

นอกจากนี้ ตามคลิปวีดีโอวัตถุพยานก็ไม่ปรากฏภาพเหตุการณ์ที่แสดงถึงจำเลยใช้เท้าเตะโจทก์ที่ 2 จนมีลักษณะคะมำไปด้านหน้า ดังที่โจทก์ที่ 2 ให้การต่อพนักงานสอบสวน

แต่กลับปรากฏภาพโจทก์ที่ 2 สามารถลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากที่เกิดเหตุได้อย่างปกติ อันขัดแย้งกับคำให้การของโจทก์ที่ 2 ทั้งไม่สมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรูปร่างของจำเลยที่เป็นคนสูงใหญ่กว่าโจทก์ ที่ 2 มาก

ประกอบกับโจทก์ที่ 2 กับจำเลยไม่เคยรู้จักกันหรือมีเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนพฤติการณ์แห่งคดีไม่ปรากฏว่าโจทก์ที่ 2 และจำเลยมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันก่อน และปกติบุคคลทั่วไปเมื่อถูกทำร้ายร่างกายโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันย่อมต้องสอบถามมูลเหตุที่ทำร้ายตนแต่ทางนำสืบของโจทก์กลับไม่ปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าวในชั้นพิจารณา

นอกจากนี้พยานโจทก์ปากพนักงานสอบสวนยังเบิกความอีกว่าตำแหน่งที่โจทก์ที่ 2 นั่งบนบันไดขั้นที่สอง นับจากด้านล่าง หากจำเลยยืนอยู่บันไดขั้นบนสุดจะไม่สามารถเตะถึงโจทก์ที่ 2 ได้ และหากจำเลยเดินลงมาอีก หนึ่งถึงสองขั้นบันไดย่อมประชิดตัวโจทก์ที่ 2 ซึ่งโจทก์ที่ 2 และนางสาวศุภกาญจน์ ต้องเห็นเหตุการณ์เป็นอย่างดี

อีกทั้งพยานแวดล้อมกรณีของโจทก์ทั้งสองไม่มีพยานปากใด ให้การยืนยันว่า จำเลยรับต่อพยานว่าได้เตะโจทก์ที่2 ทั้งหลังเกิดเหตุมีการไกล่เกลี่ยในที่เกิดเหตุ จำเลยก็ปฏิเสธต่อตำรวจของสถานีตำรวจภูธรถลาง ว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายโจทก์ที่ 2

สำหรับรายละเอียดบาดแผลของโจทก์ที่ 2 โจทก์ทั้งสองมีพยานปาก แพทย์ออกผลการตรวจชันสูตรบาดแผลเบิกความว่า พยานไม่ได้ตรวจร่างกาย โจทก์ที่ 2 เพียงแต่ดูลักษณะบาดแผลจากภาพถ่ายและข้อมูลที่พยาบาลบันทึกไว้เท่านั้น โดยโจทก์ที่ 1 ไม่ได้นำพยาบาลซึ่งเป็นผู้ถ่ายรูปบาดแผลของโจทก์ที่ 2 มาเบิกความยืนยัน และมิได้ส่งภาพถ่ายบาดแผลและประวัติการรักษาทางเวชระเบียน ซึ่งโจทก์ที่ 2 เข้าทำการรักษาก่อนออกผลการตรวจทางนิติเวชโดยภาพถ่ายบาดแผลจำเลยเป็นฝ่ายอ้างเป็นพยาน ดังนั้น ผลการตรวจชันสูตรบาดแผลจึงยังมีข้อพิรุธให้สงสัย

เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอดพยานหลักฐานของโจทก์ทั้งสองที่นำสืบมาจึงยังมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

ส่วนที่ โจทก์ที่ 2 อ้างว่า การกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ที่ 2 รับอันตรายแก่จิตใจโดยป่วยเป็นโรค PTSD เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่ามีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยกระทำความผิดหรือไม่ดังวินิจฉัยข้างต้น ข้อเท็จจริงว่าโจทก์ที่ 2 ได้รับอันตรายแก่จิตใจหรือไม่จึงย่อมไม่ใช่ผลโดยตรงจากการกระทำของจำเลย

นอกจากนี้ โจทก์ที่ 2 อ้างว่าป่วยเป็นโรค PTSD จำเลยนำสืบหักล้างและมีพยานปากผู้เชี่ยวชาญซึ่งศาลหมายเรียกมาให้ความเห็นเป็นหนังสือและมาเบิกความประกอบมีความเห็นตรงกันว่า การวินิจฉัยว่าเป็นโรคPTSD บุคคลนั้นต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่อันตรายถึงแก่ชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศซึ่งเหตุการณ์ที่โจทก์ที่ 2 ได้รับมาตามที่กล่าวอ้างนั้นไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าวพิพากษายกฟ้อง

ขณะเดียวกัน ศาลแขวงภูเก็ต มีหนังสือถึงผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แจ้งเพิกถอนคำสั่งห้ามนายเดวิด เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เนื่องจากการพิจารณาคดีดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ