ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่สร้างความผิดหวังให้คนจำนวนไม่น้อย พี่สาวน้องสาวหลายคนกลับสะดุดตาเข้ากับภาพถ่ายของสถานีโทรทัศน์ PPTV ที่บันทึกวินาทีขณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคก้าวไกลคนหนึ่ง กอดให้กำลังใจนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ระหว่างที่นายพิธากำลังเดินออกจากห้องประชุมหลังจากได้รับคำสั่งจากศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเมื่อวันพุธ (19 ก.ค.)

พี่สาวน้องสาวเหล่านี้ยังอยากรู้ด้วยว่าเขาคนนี้เป็นใคร และมีความสามารถด้านไหน จึงอยากพาให้ทุกท่านไปรู้จักกับ โจ-ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร ทีมเศรษฐกิจของพรรคการเมืองดังกล่าวให้มากขึ้น พร้อมกับเปิดวาร์ปให้ไปติดตามกันด้วย

โพรไฟล์เลิศ

ข้อมูลจากพรรคก้าวไกลระบุว่า นายชัยวัฒน์ หรือ โจ วัย 42 ปี จบการศึกษาสูงสุดระดับปริญาเอก ด้านวิทยาการสารสนเทศ (Information Science) จากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงญี่ปุ่น (JAIST)

สส. รายนี้ เริ่มทำงานในตำแหน่งวิศวกรให้กับ ชลัมเบอร์เจอร์ โอเวอร์ซีส์ เอส.เอ. ก่อนผันตัวเป็นนักวิจัย โดยเคยร่วมงานกับหน่วยวิจัยส่วนกลางของ เอ็นอีซี คอร์ป ต่อมาได้รับตำแหน่งผู้ให้คำปรึกษาภายใต้ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศศ ที่มีฐานดำเนินงานในเมืองบาเซิล ของสวิตเซอร์แลนด์ และทำงานในตำแหน่งสุดท้ายเป็นรองผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์องค์กรของธนาคารแห่งประเทศไทย

โชว์วิสัยทัศน์ ชูข้อมูลเป็นขุมทรัพย์ดิจิทัล

นายชัยวัฒน์ เปิดตัวในฐานะทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 22 มี.ค. หรือหลังการยุบสภาฯ เพียง 2 วัน และระหว่างการเปิดตัวดังกล่าว นายชัยวัฒน์ขึ้นพูดเกี่ยวกับการแปลงข้อมูลเป็นขุมทรัพย์เพื่อยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย

“การจะส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้แข่งขันได้ จำเป็นต้องมีบ่อน้ำมันของข้อมูลเป็นทรัพยากรขับเคลื่อน” นายชัยวัฒน์ กล่าว

“ข้อมูลของเรากระจัดกระจายขาดการเชื่อมโยง บริษัทต่างๆ ใช้ข้อมูลได้เพียงแต่สิ่งที่ตัวเองเก็บอยู่ เป็นเรื่องน่าเศร้าครับที่รัฐบาลไทยที่ผ่านมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อยมากๆ”

นายชัยวัฒน์มองว่ารัฐจะต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล 3 อย่างนี้ ได้แก่

1. การสร้างมาตรฐานข้อมูล หรือการทำถนนเพื่อให้ข้อมูลต่างๆ เชื่อมเข้าหากันโดยมีมาตรฐานเดียวกัน
2. การสร้างกลไกควบคุมความเป็นส่วนตัว ซึ่งเปรียบได้กับการตั้งกฎจราจรในการใช้ถนนดังกล่าว เพื่อการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนเจ้าของข้อมูล
3. การสร้างพื้นที่จัดเก็บทรัพยากรข้อมูลให้พร้อมใช้

นอกจากนี้การสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เอกชนได้ใช้งาน ที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจแล้ว นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่ารัฐเองก็ได้ประโยชน์ด้วย และจะนำไปสู่การเปลี่ยนเป็นรัฐบาลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

ติงดิจิทัลวอลเลต นโยบายคู่แข่ง

ก่อนการเลือกตั้ง นายชัยวัฒน์ยังตั้งข้อสังเกตและข้อวิจารณ์ต่อนโยบายดิจิทัลวอลเลตของพรรคการเมืองคู่แข่ง ว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

นายชัยวัฒน์ มองว่า การสร้างระบบการชำระเงินด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนต้องอาศัยระบบอื่นๆ มีหลายชั้น เช่น ระบบการรักษาข้อมูลส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อดิจิทัลวอลเล็ต การใช้เทคโนโลยีดังกล่าวจึงต้องคำนึงถึงโจทย์ที่ต้องการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน มากกว่านำมาเป็นแค่ลูกเล่นเพื่อสร้างความทันสมัย

“คนที่มีประสบการณ์กับ blockchain จะรู้ว่าอะไรควรใช้ อะไรไม่ควรใช้ พรรคที่อ้างว่ามีประสบการณ์ก็ใช่ว่าจะมีประสบการณ์จริงๆ ขอให้ประชาชน trustless และใช้วิจารณญาณ จะได้รู้ทันว่าอะไรเป็น gimmick อะไรเป็นของจริง”

ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ชี้ว่า พรรคก้าวไกลได้รับการจัดสรร สส. แบบปาร์ตี้ลิสต์มากที่สุด ถึง 39 ที่นั่ง ทำให้นายชัยวัฒน์ ที่ลงสมัครแบบปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 15 ได้รับเลือกไปด้วย

แจกวาร์ป

ส่วนพี่สาวน้องสาวที่อยากติดตาม สส. รายนี้เพื่อดูความเคลื่อนไหวต่างๆ ก็สามารถไปติดตามได้ที่ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก @ChaiwatPublic แต่ถ้าใครอยากเห็นเป็นคลิปสั้นแบบ TikTok ต้องขอแสดงความเสียใจไว้ด้วย เพราะ สส. รายนี้ยังไม่ได้ลงคลิปไว้เลยแม้แต่คลิปเดียว