เปิดวงจรปิด ญาติคนไข้ บุกตบพยาบาล ตบแรงจนเซ แล้วยังตบซ้ำอีกครั้ง

Home » เปิดวงจรปิด ญาติคนไข้ บุกตบพยาบาล ตบแรงจนเซ แล้วยังตบซ้ำอีกครั้ง
เปิดวงจรปิด ญาติคนไข้ บุกตบพยาบาล ตบแรงจนเซ แล้วยังตบซ้ำอีกครั้ง

จากกรณี เหตุการณ์ชายตบหน้าพยาบาล 2 ครั้งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.ระยอง เนื่องจากไม่พอใจที่พยาบาลเตือนภรรยาของผู้ก่อเหตุ ให้พาลูกเล็กออกไปจากห้องผู้ป่วย หลังพยายามพาลูกเข้าไปเยี่ยมคุณยายที่ป่วยไข้หวัดใหญ่ติดเชื้อลงปอด แต่เนื่องจากเตือนหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายใช้ถ้อยคำที่กระทความรู้สึก จนภรรยาและลูกกลับไปเล่าให้สามีที่รออยู่ด้านนอกฟัง สามีจึงกลับเข้ามาถามว่าใครพูดไม่ดีกับภรรยาของเขา ก่อนจะโกรธและใช้กำลังทำร้ายพยาบาล หลังเกิดเหตุพยาบาลได้แจ้งความและยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด

นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นเหตุการณ์ที่ชายผู้ก่อเหตุ เดินเข้าไปที่บริเวณเคาน์เตอร์พยาบาล ถามหาว่าใครเป็นคนที่พูดไม่ดีกับภรรยาของตน ก่อนที่ผู้เสียหายจะเดินเข้ามาแสดงตัว จากยนั้นชายผู้ก่อเหตุก็ลงมือตบหน้าพยาบาลคนดังกล่าวอย่างแรง แล้วก็ตบซ้ำเข้าไปอีกครั้ง ก่อนจะมีการพูดบางสิ่งบางอย่าง แล้วเดินออกจากพื้นที่ไป

ล่าสุดทั้งสองฝ่ายได้เข้าไปให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยทางพยาบาลที่ถูกทำร้ายยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะคู่กรณีดูไม่ได้แสดงความรู้สึกผิดหรือพยายามขอโทษเลย

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความในกลุ่ม ปลวกแดง City ระบุว่า

“ได้ข่าวว่า… พยาบาล รพ.เเห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ถูกทำร้ายร่างกาย (ถูกตบ 2 ครั้ง) จากญาติผู้ป่วย ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า เหตุไม่พอใจที่ถูกห้ามไม่ให้เอาเด็กเข้าเยี่ยมผู้ป่วย แต่… ที่หนักกว่านั้น คือ ผู้บริหารของ รพ. สั่งให้พยาบาลคนนี้ยอมความ เท็จจริงยังไง รอฟังอยู่”

ก่อนที่ต่อมาจะมีการแก้ไขข้อความเพิ่มเติมว่า “ตอนนี้มีคำยืนยันจะการดำเนินคดีแล้ว”

ซึ่งต่อมา ก็ได้มาบุคคลที่คาดว่าเป็นคู่กรณีของพยาบาล ได้เข้ามาคอมเมนต์เล่าเหตุการณ์ในฝั่งของตัวเอง โดยระบุว่าพยาบาลพูดไม่มีกับญาติผู้ป่วย (ลูกสาว) ที่พาหลานซึ่งเป็นเด็กเล็กเข้าไปดูอาการยาย ญาติผู้ป่วยคนดังกล่าวจึงไปบอกสามีและร้องไห้ ซึ่งไม่ได้ร้องที่โดนต่อว่า แต่ร้องเพราะรู้สึกว่ากำลังจะเสียแม่ไปจริงๆ ใช่ไหม จากนั้นสามีจึงเข้าไปดูแม่ยาย ก่อนจะเดินไปหาพยาบาล ถามว่า “ใครด่าลูกเมียกู” แล้วก็ตบหน้าพยาบาล 2 ครั้ง บอกว่าให้พยาบาลให้เกียรติคนไข้และญาติคนไข้บ้าง ยอมรับว่าทำจริงเพราะบันดาลโทสะ หากจะดำเนินคดีก็น้อมรับ

ก่อนจะมีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายเข้ามาคอมเมนต์เพิ่มเติมว่า “พอดีแม่ป่วยขั้นรุนแรงวิกฤติมากๆ ถึงขั้นใส่ท่อ อาการ 50/50 ติดไข้หวัดใหญ่ลงปอดจากหลานที่เขารักมากกกกก เลยขอพยาบาลเข้าไปดูอาการคุณยาย แต่พยาบาลพูดว่า สูญเสียแม่คนนึงยังไม่พอ อยากจะสูญเสียลูกอีกคน ยอมรับได้ใช่ไหม พาเด็กออกไปเดี๋ยวนี้ มีสภาวะเครียดกดดันจากอาการของแม่อยู่แล้วด้วย แต่ยอมรับว่าใช้กำลังเกินไป”

ล่าสุด พยาบาลที่ถูกทำร้ายได้เปิดใจกับ เพจโหนกระแส ว่า เหตุเกิดวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนเข้าเวรบ่าย ซึ่งในเวลาประมาณ 18.00 น. เวรตนไม่ยุ่งมาก แต่เคสใหม่ค่อนข้างยุ่ง ตนจึงเข้าไปช่วยน้องพยาบาลเจ้าของเคส ทำการเจาะเลือดส่งตรวจ และเปลี่ยนชุดให้ผู้ป่วย

หญิงมีอายุป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ลูกสาวคนไข้พาลูกวัยประมาณ 5-6 ขวบ จะเข้ามาเยี่ยมอาการคุณยาย ซึ่งทางน้องพยาบาลเจ้าของเคสบอกกับตนว่า ได้แจ้งญาติไปแล้วว่าไม่ให้นำเด็กเข้ามา และก่อนหน้านั้นก็มีพยาบาลอาวุโสแจ้งไปแล้วเช่น

หลังจากตนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คนไข้เรียบร้อย ตนก็ได้ถอดชุดป้องกันเชื้อโรค ออกไปหาลูกสาวคนไข้ พร้อมบอกว่า “คนไข้อาการไม่ดี ติดเชื้อลงปอด เป็นขนาดนี้ญาติยังพาลูกมาอีกหรอ ถ้าลูกติดเชื้อปล้วลงปอดไปด้วย ลูกอาการแย่ได้เลยนะ ญาติพร้อมจะสูญเสียทั้งสองมั้ย ถ้าติดแล้วอาการไม่ดี ถ้าไม่พร้อมจะสูญเสียใคร ก็ให้พาเด็กออกไป” ทางญาติก็พยักหน้ารับแล้วเดินออกไป ตนยอมรับว่าพูดเสียงดัง จริงจัง แต่ไม่รู้ว่าญาติจะมองว่าเป็นการตะคอกหรือไม่

จากนั้นตนก็ไปให้การพยาบาลผู้ป่วยรายอื่นต่อ ซักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาที่หน้าห้องผู้ป่วยรายดังกล่าว กำลังจะหยิบหน้ากาก N95 แต่พยาบาลเจ้าของเคสแจ้งว่า ญาติไม่สามารถเข้าห้องได้นะคะ แล้วชายคนนั้นก็เดินมาที่เคาน์เตอร์พยาบาล ถามว่าใครเป็นคนพูดกับลูกเมียของเขา ตนจึงเข้าไปบอกว่าญาติไม่สามารถบริเวณเคาน์เตอร์พยาบาลได้ ชายคนนั้นจึงเดินเข้ามาที่ตน ถามย้ำว่าใครพูด พอตนตอบว่า “หนูค่ะ” เขาก็ตยเข้ามาที่หน้าบริเวณกกหูถึง 2 ครั้ง ตนก็ตกใจ ยืนอึ้ง แล้วขาก็พูดว่า ถ้าพูดกับลูกเมียเขาดีก็ไม่โดนแบบนี้หรอก ก่อนจะเดินออกไป

พยาบาลอาวุโสจึงบอกให้ใจเย็นๆ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทางชายผู้ก่อเหตุก็บอกว่าให้ไปคุยข้างนอก พยาบาลอาวุโสจึงแจ้งหัวหน้าพยาบาล และแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาที่เกิดเหตุ นำตัวเขาไป ส่วนตนก็ไปตรวจร่างกาย แล้วเดินทางเข้าแจ้งความ ให้ปากคำ

หลังให้ปากคำแล้ว หัวหน้าตึกได้เข้าไปพูดกับผู้ก่อเหตุว่า ทำไมทำแบบนี้ สถานที่ราชการ พยาบาลกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ทางเขาจึงย้อนกลับมาว่า “ผมพลาดแค่ตรงนี้แหละ” ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร ส่วนภรรยาผู้ก่อเหตุก็บอกว่าตนไปพูดไม่ดีกับเขา

ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด และได้นำหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดส่งให้ตำรวจแล้ว ซึ่งจับภาพเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน

ส่วนที่มีข่าวว่าผู้บริหารให้ยอมความ ตนไม่ทราบว่ามีข้อมูลออกไปอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะตั้งแต่แรกที่ตนเข้าไปพบ ผอ. และนิติกร ท่านก็ได้บอกให้แจ้งความดำเนินคดี พร้อมช่วยเหลือดูแล หัวหน้าพยาบาลก็ให้ตนลาพักไปก่อน

จากนี้หากทางคู่กรณีจะติดต่อขอโทษ ตนก็ยังจะเดินหน้าดำเนินคดี เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ จนไปให้ปากคำที่โรงพักเรียบร้อย เขาไม่ได้มีท่าทีที่รู้สึกผิดหรืออยากขอโทษเลย สีหน้าท่าทางเหมือนกับตอนที่ก่อเหตุ

ยอมรับว่ารู้สึกกลัว ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง ตนยืนยันว่าที่พูดกับญาติคนไข้ไปนั้น พูดด้วยเจตนาดีจริงๆ ผู้ใหญ่ยังอาการหนักได้ขนาดนี้ แล้วเด็กที่ยังภูมิต้านทานน้อยจะเป็นอย่างไร

ซึ่งต่อมา ก็ได้มาบุคคลที่คาดว่าเป็นคู่กรณีของพยาบาล ได้เข้ามาคอมเมนต์เล่าเหตุการณ์ในฝั่งของตัวเอง โดยระบุว่าพยาบาลพูดไม่มีกับญาติผู้ป่วย (ลูกสาว) ที่พาหลานซึ่งเป็นเด็กเล็กเข้าไปดูอาการยาย ญาติผู้ป่วยคนดังกล่าวจึงไปบอกสามีและร้องไห้ ซึ่งไม่ได้ร้องที่โดนต่อว่า แต่ร้องเพราะรู้สึกว่ากำลังจะเสียแม่ไปจริงๆ ใช่ไหม จากนั้นสามีจึงเข้าไปดูแม่ยาย ก่อนจะเดินไปหาพยาบาล ถามว่า “ใครด่าลูกเมียกู” แล้วก็ตบหน้าพยาบาล 2 ครั้ง บอกว่าให้พยาบาลให้เกียรติคนไข้และญาติคนไข้บ้าง ยอมรับว่าทำจริงเพราะบันดาลโทสะ หากจะดำเนินคดีก็น้อมรับ

ก่อนจะมีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายเข้ามาคอมเมนต์เพิ่มเติมว่า “พอดีแม่ป่วยขั้นรุนแรงวิกฤติมากๆ ถึงขั้นใส่ท่อ อาการ 50/50 ติดไข้หวัดใหญ่ลงปอดจากหลานที่เขารักมากกกกก เลยขอพยาบาลเข้าไปดูอาการคุณยาย แต่พยาบาลพูดว่า สูญเสียแม่คนนึงยังไม่พอ อยากจะสูญเสียลูกอีกคน ยอมรับได้ใช่ไหม พาเด็กออกไปเดี๋ยวนี้ มีสภาวะเครียดกดดันจากอาการของแม่อยู่แล้วด้วย แต่ยอมรับว่าใช้กำลังเกินไป”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ