เปิดราคา Redmi Note 13 Series รุ่นคุ้มประจำปี เลือกรุ่นไหนคุ้มที่สุด

Home » เปิดราคา Redmi Note 13 Series รุ่นคุ้มประจำปี เลือกรุ่นไหนคุ้มที่สุด

Xiaomi ได้เผยโฉม Redmi Note 13 Series ในประเทศจีนเมื่อกันยายน 2023 แต่ตลาดโลกนั้นก็ต้องรอถึงวันที่ 15 มกราคม ที่กำลังจะถึงนี้ โดยคาดว่าจะเปิดตัวทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน นั่นคือ Redmi Note 13, Redmi Note 13 Pro และ Redmi Note 13 Pro+ ทั้งหมดรองรับ 5G เรามาสรุปสเปกแบบคร่าวๆ ของรุ่นที่เปิดขายในไทยดังนี้

batch_redminote13pro5g_p

Redmi Note 13 Pro+ 5G

เริ่มต้นกับ Redmi Note 13 Pro+ 5G รอบนี้มีกล้องหลังความละเอียด 200 ล้านพิกเซล รองรับกำลังชาร์จไฟ 120W และมีมาตรฐานกันน้ำ IP68 พร้อมกับสีสันตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สีคือ ขาว, ดำ และ ม่วงที่เป็นวัสดุแบบ Vegan Leather โดยความจำมีให้เลือกที่ RAM 8 – 12GB และความจำภายใน 256GB / 512GB

ราคาอย่างเป็นทางการของ Redmi Note 13 Pro+ 5G

Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท

พิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าระหว่างวันที่ 16 – 26 มกราคม 2567 รับฟรี! ประกันหน้าจอ 6 เดือน พร้อมอัปเกรดความจุเป็น 12GB+512GB และ Redmi Note 13 Series Giftbox รวมมูลค่าของสมนาคุณทั้งสิ้น 9,280 บาท

Redmi Note 13 Pro+ 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท

batch_redminote13pro5g_s

Redmi Note 13 Pro

รุ่นรองท็อปมาพร้อมกับขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 ได้หน้าจอพร้อมกับ Refresh Rate 120Hz ครอบด้วยกระจก Gorilla Glass Vicus พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือชาร์จไฟกำลัง 67W

batch_img_20240115_180905

มีให้เลือก 3 สีคือ ม่วง, ขาว และ ดำ สำหรับ RAM มีให้เลือกที่ 8GB เท่านั้น และความจำมีให้เลือกตั้งแต่ 128GB และ 256GB เท่านั้น ข่าวร้าย Redmi Note 13 Pro รุ่นนี้ไม่ขายในประเทศไทย

เหตุผลที่ไม่ได้เข้าจำหน่ายในประเทศไทยก็เพราะว่ารุ่นนี้จะมีความคาบเกี่ยวกับ POCO X6 Series ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยในก่อนหน้านี้

batch_redminote13-green-dec_1

Redmi Note 13 5G

ปิดท้ายกับรุ่นเล็ก Redmi Note 13 5G รอบนี้มาพร้อมกับความบางที่ 7.6 มิลลิเมตร พร้อมกับช่องเสียบหูฟังและมี IR Blaster อยู่ ขุมพลังเป็น Dimensity 6080 แต่สำหรับรุ่น 4G จะได้ได้ลำโพงคู่, ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ และ ลำโพงคู่ กันน้ำแบบ IP54 และมีความจำให้เลือก 3 ทางเลือกคือ RAM 6GB / 8GB / 12GB ส่วนพื้นที่ความจำ 128GB และ 256GB เช่นเคย