Infinix ประเทศไทย เปิดตัว Infinix NOTE 30 Series อย่างเป็นทางการ ภายใต้สโลแกนคอนเซ็ปต์ “5G Speed Gameplay – 5G เกมมิ่งสมาร์ตโฟนหนึ่งเดียวที่มาพร้อม RoV Edition” โดยเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ได้รับการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมด้วยและครบเครื่อง
สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมลื่นไหลด้วย 5G Dimensity 6080 6nm
Infinix NOTE 30 Series ใช้ชิปเซ็ททรงพลัง 5G MediaTek Dimensity 6080 ขนาด 6 นาโนเมตร ซึ่งให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เร็วขึ้นถึง 20% และถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แรงกว่าด้วยความถี่ Arm Cortex-A76 สูงสุด 2.4GHz ที่ช่วยยกระดับความเร็วในการใช้งานแอปฯ และทำให้การเชื่อมต่อราบรื่น อีกทั้ง ยังรองรับซิมคู่ 5G สำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนซิมการ์ดทั้งสองพร้อมกัน
และยังมีเทคโนโลยี Clever 5G 2.0 เพื่อปรับช่องสัญญาณให้เหมาะสมและยืดอายุแบตเตอรี่ เพื่อประสบการณ์การเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะระหว่างเดินทางหรือที่บ้าน นอกจากนี้ เทคโนโลยี UPS (Ultra Powerful Signal) ที่ Infinix พัฒนาขึ้นเอง ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อในสถานการณ์ที่ผู้ใช้งานสัญญาณอ่อน
ด้วยการออกแบบเสาอากาศใหม่ โดยมีเทคโนโลยี UPS สลับเสาอากาศอย่างชาญฉลาด เร่งความเร็วเครือข่าย และลดอัตราความล่าช้าระหว่างแอปพลิเคชันที่มีความหน่วงต่ำ เช่น เล่นเกม ดาวน์โหลดคอนเทนต์ต่างๆ และดูวิดีโอ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานหรือเกมเมอร์สามารถเพลิดเพลินได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ถูกรบกวน
เติมเต็มอรรถรสการเล่นเกม ด้วยหน้าจอถนอมสายตา FHD+ 6.78 นิ้ว ลื่นไหล 120 Hz
สำหรับมือถือในซีรีส์นี้ โดยในรุ่นท็อปอย่าง NOTE 30 5G ยกระดับการเล่นเกมและรับชมความบันเทิงที่เหนือระดับด้วยหน้าจอแสดงผลแบบเจาะรูขนาดใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว ความละเอียดสูง 1080×2460 พิกเซล ที่ให้หน้าจอคมชัด สดใส สวยสมจริง มาพร้อมกับการเล่นเกมแบบไร้ขีดจำกัด ลื่นไหล ไม่มีสะดุดด้วยอัตราการรีเฟรชที่ 120Hz
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีปรับปรุงการแสดงผลในพื้นที่มืด ที่ช่วยให้สามารถมองจอได้อย่างชัดเจนด้วยความสว่างสูงสุด 580nit พร้อม Eye-care Mode ที่ช่วยถนอมสายทำให้เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้อย่างยาวนาน โดย NOTE 30 5G ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ว่าเป็นหน้าจอที่มีแสงสีฟ้าต่ำและไม่มีการสั่นไหว ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาและปัญหาทางสายตาที่เกิดจากการใช้หน้าจอเป็นเวลานาน
ล้ำกว่าด้วยเทคโนโลยีชาร์จไว 45W พร้อมโหมด Bypass
มอบประสบการณ์การเล่นเกมยาวนานด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Dual-channel ปลอดภัยกำลังไฟ 45 วัตต์ ที่ช่วยให้แบตเตอรี่เต็มไว สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ได้ถึง 1-75% ในเวลา 30 นาที และด้วยการชาร์จในเวลาระยะสั้นๆ เพียง 5 นาที สามารถเล่นเกมได้นานถึง 1.75 ชั่วโมง (สำหรับเกม MLBB) โดยInfinix NOTE 30 5G มีฟังก์ชันการชาร์จแบบ Bypass ที่เป็นนวัตกรรมใหม่
เมื่อระดับแบตเตอรี่ถึงหรือเกินเกณฑ์สำหรับการชาร์จแบบบายพาส (30% ตามค่าเริ่มต้น) กระแสไฟที่ชาร์จจะข้ามแบตเตอรี่เพื่อส่งตรงไปยังเมนบอร์ด ซึ่งจะช่วยลดความร้อนที่สูงเกินไปขณะชาร์จและเล่นมือถือไปพร้อมกัน เมื่อเทียบกับโหมดการชาร์จปกติ การชาร์จแบบบายพาสสามารถลดอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 7 องศาเซลเซียส จึงช่วยเพิ่มอิสระในการใช้งานและรับชมความบันเทิงได้ต่อเนื่องยาวนานโดยไรความกังวล
นอกจากนี้ รุ่นท็อปอย่าง NOTE 30 5G ยังเสริมศักยภาพการใช้งานด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุถึง 256GB แรมจากเดิม 8GB ขยายเพิ่มได้อีก 8GB จึงเสมือนได้แรมมากสุดถึง 16GB ทำให้สามารถดาวน์โหลดเกมได้อย่างรวดเร็ว จุใจ ในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด
สำหรับ Infinix NOTE 30 Series มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ NOTE 30 5G (256+8GB), NOTE 30 5G (128+8GB), NOTE 30 4G (256+8GB) และ NOTE 30 4G (128+8GB) โดยสีที่วางจำหน่ายในประเทศไทยสำหรับทุกรุ่น มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ (Magic Black) และ สีฟ้า (Interstellar Blue) พร้อมราคาดังนี้
- NOTE 30 5G (256+8GB) เปิดตัวในราคา 7,999 บาท
- NOTE 30 5G (128+8GB) ราคา 7,499 บาท
- NOTE 30 4G (256+8GB) ราคา 6,599 บาท
- NOTE 30 4G (128+8GB) ราคา 5,999 บาท
พี้อมวางจำหน่ายในวันที่ 13 มิถุนายน และมีราคาพิเศษในช่วงเปิดตัวระหว่างวันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2566 โดยรุ่น NOTE 30 4G (128+8GB) ราคาพิเศษเพียง 5,499 บาท และ NOTE 30 5G (128+8GB) ราคาพิเศษเพียง 6,999 บาท สามารถสั่งซื้อได้ผ่านทางร้านค้าออนไลน์บน Shopee, Lazada, TikTok Shop และสำหรับร้านค้าออฟไลน์สามารถสั่งซื้อได้ที่ BaNANA และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ