จากกรณีเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 09.30 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คนใช้อาวุธปืนยิง ครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และ นายธนสรณ์ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถึงแก่ชีวิต บริเวณแขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้ใช้ “มาตรการเด็ดขาด” พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ น.1 เร่งรัดสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และเป็นที่สนใจของประชาชน และคนร้ายมีจิตใจโหดเหี้ยมลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมแบบมือปืน
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. (น.1) ลงมาควบคุมการสืบสวนด้วยตนเอง เรียกระดมกำลัง บก.สส.บช.น., กก.สส.บก.น.5, กก.สส.บก.น.6 และ สน.ทุ่งมหาเมฆ ติดตามคนร้ายในคดีนี้และให้ทำแบบ “ขุดรากถอนโคน” แต่งานนี้ไม่หมู เพราะไม่ต่างกับการไล่ปราบกองโจรในสมัยก่อน ทีมสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนอย่างละเอียดกว่า 1 สัปดาห์ ร่วมกับ พล.ต.ต วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีนี้แบบ “ขุดรากถอนโคน”
- คดียิงเด็กอุเทน – ครูเจี๊ยบ ตร. จับคนร้ายได้แล้ว 1 ค้นซุ้ม พบวางแผนมาอย่างดี
- เลขฝาโลง ส่ง ‘ครูเจี๊ยบ’ เหยื่อกระสุนลูกหลงเด็กช่างกล กลับสู่อ้อมกอดพระเจ้า
- นายกฯ ยกเคส ‘ครูเจี๊ยบ’ สั่ง อนุทิน เร่งรัดกวดขันการใช้อาวุธ
โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนจากกล้องวงจรปิดกว่า 1,000 ตัว ทั้งกรุงเทพและปริมณฑล จนพบรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายได้พยายามลบร่องรอยการติดตามเกือบทุกขั้นตอน อีกทั้งคนร้ายได้ลักแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2 แห่ง ในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ประชาชื่น เพื่อใช้ในการตบตาเจ้าหน้าที่
ชุดสืบสวน มีการทิ้งจุดเพื่อหลอกล่อให้ชุดสืบสวนเข้าใจผิดหรือหลงประเด็น และเปลี่ยนสีรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุจากสีแดง เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของคนร้ายทั้งหมด และมีคนร้ายอีกหลายคนให้การช่วยเหลือก่อเหตุดังกล่าว
ผู้การจ๋อ จึงได้จัดทีมวิเคราะห์เส้นทางหลบหนี พร้อมเอาแฟ้มข้อมูลแผนประทุษกรรมกลุ่มบุคคลในเครือข่ายก่อนหน้าเพื่อเชื่อมโยงพบมีลักษณะก่อเหตุของคนร้ายคล้ายคลึงกัน คนร้ายแบ่งขั้นตอนวางแผนดูเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุ เส้นทางหลบหนี ที่พักคอย จุดเปลี่ยน และตระเตรียมจุดที่ลงมือ ไม่ธรรมดาคนเดียวที่ทำไม่ได้ จนพบพยานหลักฐานยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มครู่อริมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน สืบทราบแหล่งเซฟเฮ้าส์อีก 4 แห่งวงศ์สว่าง 19 เป็นเซฟเฮาส์ทำกิจกรรม เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 8 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก