เปิดที่มาของ ‘กล่องสุ่ม’ คืออะไร ทำไมคนถึงชอบซื้อ? พิมรี่พาย ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำ!

Home » เปิดที่มาของ ‘กล่องสุ่ม’ คืออะไร ทำไมคนถึงชอบซื้อ? พิมรี่พาย ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำ!

เปิดที่มาของ ‘กล่องสุ่ม‘ ทำไมคนถึงชอบซื้อ? ปม ซื้อกล่องสุ่ม 1 แสน พิมรี่พาย ทนายดังเตือน เข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.การพนัน ถ้าไม่ขออนุญาติ

เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ กล่องสุ่ม หรือ “random box / MysteryBox” โดยในปัจจุบันเจ้ากล่องสุ่มกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นกล่องสุ่มไอโฟน กล่องสุ่มของเล่น กล่องสุ่มอาหารทะเล กลุ่มสุ่มหมูกระทะ แต่ละเจ้าก็ตั้งราคากล่องสุ่มนั้น ๆ ต่างกันไปขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อ อย่างเช่น กล่องสุ่มเครื่องสำอางราคาหลักแสนของแม่ค้าสาวสวย พิมรี่พาย

  • พิมรี่พาย จัดเต็ม กล่องสุ่ม 1 แสนบาท พร้อมของแถมสุดอลังการ ใครได้อะไรบ้างไปดู!

สำหรับเหตุผลที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่า ‘กล่องสุ่ม‘ ก็เพราะว่ามีภายนอกมีลักษณะเป็นกล่องกระดาษหรือเป็นลังกระดาษปริศนา และภายในกล่องจะเต็มไปด้วยสิ่งของที่ผู้ซื้อไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง โดยผู้ขายจะใส่ของหรือสินค้าลงกล่องแบบแรนด้อม ทำให้ผู้ซื้อได้ตื่นเต้นและลุ้นว่าได้ของอะไรมาบ้าง ราคาของกล่องสุ่มนั้นมีตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่นหลักแสนเลยก็มี ขึ้นอยู่กับประเภทและราคาเดิมของสินค้าเหล่านั้น ซึ่งเจ้ากล่องสุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ก็เกิดมานาน ตั้งแต่ช่วง 3-4 ปีแล้ว โดยบางคนก็บอกว่ามันเป็นเพียงแค่การตลาดของแม่ค้า

ต้องยอมรับว่าคนไทยส่วนหนึ่งมองว่าการได้แกะ ‘กล่องสุ่ม‘ ก็เหมือนได้ความท้าทายและการมีความหวัง การซื้อกล่องสุ่มมา ถือเป็นการเสี่ยงโชคอย่างหนึ่ง และคนส่วนมากมองว่ามันเป็นเรื่องน่าสนุก ที่จะได้เปิดกล่องดูว่าภายในกล่องได้อะไรมาบ้าง คล้ายกับการเล่นเกม เมื่อซื้อกล่องสุ่มมาในราคาถูก แล้วเปิดกล่องขึ้นมาได้ของดี ก็จะเกิดความดีใจและเหมือนได้ชัยชนะ 

  • ส่องเลขทะเบียนรถ ป้ายแดง 3 คัน ของแถมจากกล่องสุ่มเครื่องสำอาง “พิมรี่พาย” 1แสนบาท

ล่าสุด ก็ได้มีนั่งวิเคราะห์ รวมถึงทนายดังหลายท่าน ออกมาพูดถึงเรื่องกล่องสุ่มเครื่องสำอาง 1 แสนบาท ของแม่ค้าสาวพิมรี่พายกันอยากคับคั่ง

โดยหนึ่งในนั้นก็คือ นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง ที่ได้ออกมาพูดถึงกระแสกล่องสุ่มเครื่องสำอางดังกล่าว โดยระบุว่า “ต้องดูว่าสินค้าที่ส่งมาเป็นอะไร หากลงทุนกล่องละ 1 แสนบาท แต่สินค้าทุกอย่างราคา 1 แสนบาทขึ้นไปก็อาจไม่ผิด เพราะถือว่าได้สินค้าคุ้มราคา จึงไม่เสี่ยง แต่ถ้าสินค้ามีมากกว่าหรือน้อยกว่า 1 แสนบาท ก็เข้าข่ายการพนัน เพราะถือว่ามีการได้เสีย ถ้าลงทุน 1 แสนบาทได้สินค้าราคาที่มากกว่าก็ถือว่าได้ ถ้าได้ราคาที่น้อยกว่าก็ถือว่าเสีย

ดังนั้นเมื่อมีการเสี่ยงโชค จึงอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.การพนัน ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกและปรับตามอัตรากฎหมายกำหนด จึงต้องขออนุญาตกับรัฐ แต่ส่วนมากเชื่อว่าอาจจะไม่ได้ขอกัน เพราะรัฐอาจไม่อนุญาตให้ เนื่องจากไม่เล็งเห็นถึงประโยชน์ต่อสังคม

แต่ส่วนที่ขออนุญาตโดยมากก็เช่น เกมปาเป้า ยิงปืนในงานวัด งานกาชาด ซึ่งถ้าจัดกันเองโดยไม่ขออนุญาตต้องมีความผิดแน่นอน ดังนั้นประชาชนจึงควรตรวจสอบก่อนว่าการเสี่ยงโชคนั้นได้ขออนุญาตแล้วหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดทั้งผู้เล่นและผู้จัด”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ