vivo X200 Series เปิดตัวแล้วแต่เป็นเวอร์ชั่นในประเทศจีน โดยรอบนี้เราจะพาคุณมาดูรุ่น X200 ที่เรียกว่าความโดดเด่นไม่แพ้กับรุ่น Pro ที่จะแนะนำให้ได้ดูกันอีกไม่นานหลังจากนี้
จุดเด่นของ vivo X200 รุ่นพื้นฐาน
vivo X200 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว 10-bit LTPS รองรับ HDR10+ แสดงสีสันได้อย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยี Zeiss Natural Color ลดการสั่นไหวด้วย PWM dimming ความสว่างสูงสุด 4,500 nits ประหยัดพลังงาน และใช้งานได้ยาวนานกว่าหน้าจอ OLED ทั่วไปถึงสามเท่า พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ optical ใต้หน้าจอ
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Dimensity 9400 รุ่นที่สองที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 3nm ซึ่ง vivo ได้ร่วมมือกับ ARM และ MediaTek ในการพัฒนา โดยมีแกนประมวลผล Cortex-X4 ความเร็ว 3.626GHz พร้อม RAM สูงสุด 16GB (ขยายได้สองเท่าด้วย virtual RAM) และ ROM 256GB, 512GB หรือ 1TB (ขยายได้ด้วยเทคโนโลยีการบีบอัดข้อมูลของ vivo)
vivo X200 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX921 ขนาด 1/1.56″ 50MP จับคู่กับเลนส์ Zeiss f/1.57″ พร้อม T* coating กล้อง Telephoto 70mm f/2.57 50MP (ใช้เซ็นเซอร์ IMX882 ขนาด 1/1.95″) และกล้อง Ultrawide 15mm 50MP บันทึกวิดีโอ 4K 120fps พร้อม 10-bit log colors ถือว่าให้เยอะกว่าที่คาด
แบตเตอรี่ BlueVolt ความจุ 5,800mAh ใช้งานได้ยาวนาน รองรับการชาร์จไว 90W ตัวเครื่องมีขนาดเล็กและบางกว่ารุ่นก่อนหน้า (หนา 7.99 มม. เทียบกับ 8.5 มม. ใน X100) แถมยังกันน้ำและยังสามารถสื่อสารผ่านดาวนเทียม และยังมาพร้่อมกับ Origio OS 5 เวอร์ชั่นใหม่ แถมมี AI Model สำหรับในประเทศจีน
ราคาและการวางจำหน่าย
vivo X200 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Sapphire Blue, Titanium Grey, Moonlight White และ Carbon Black เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ววันนี้ วางจำหน่าย 19 ตุลาคม ราคาเริ่มต้น 4,300 หยวน (ประมาณ 20,500 บาท) สำหรับรุ่น 12/256GB
รุ่นนี้ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าจะวางจำหน่ายในเวอร์ชั่นตลาดโลกเมื่อไหร่กันต่อไป