เปิดตัว 'เต้น' นั่งผอ.ครอบครัวเพื่อไทยคนใหม่ ไม่เขิน เป็นลูกน้อง 'อิ๊งค์'

Home » เปิดตัว 'เต้น' นั่งผอ.ครอบครัวเพื่อไทยคนใหม่ ไม่เขิน เป็นลูกน้อง 'อิ๊งค์'



“อิ๊งค์” เปิดตัว “เต้น” นั่งผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ลั่น ขอทุ่มสุดตัวพา พท.แลนด์สไลด์ ไม่เขินเป็นลูกน้องเด็ก ยัน ศรัทธา ทักษิณ พร้อมแยกทางหากเปลี่ยนจุดยืน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 มิ.ย. 2565 ที่ร้านหนังสือก็องดิด เดอะแจมแฟคทอรี่ คลองสาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคพท. นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรค รวมทั้งแกนนำนปช. อาทิ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ ร่วมเปิดตัวนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผอ.ครอบครัวเพื่อไทย

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดตัวครอบครัวเพื่อไทย พวกเราทำงานหนัก เพื่อที่จะรับรู้ปัญหาของประชาชนจริงๆ และเราได้เสียงตอบรับที่ดีมากจากพี่น้องประชาชนผ่านโครงการครอบครัวเพื่อไทย เราจะทำให้ครอบครัวเพื่อไทยแข็งแรงและเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เราเสียเวลามามากแล้วกับเผด็จการ เราต้องระดมคนที่มีจิตใจประชาธิปไตย รักในประชาธิปไตยกลับมาอยู่ร่วมกัน ตอนนี้เราล้าหลังมาก เมื่อดูประเทศรอบข้างเราไม่ทันเขาแล้ว

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า วันนี้รู้สึกมั่นใจเป็นอย่างมากว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือพี่เต้นของพวกเรา จะเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญที่จะทำให้บ้านของเราหลังนี้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น พี่เต้นจะเป็นกำลังสำคัญในการทำให้พี่น้องกลับมาอยู่บ้านของเรา เราพูดเรื่องแลนส์สไลด์ในหลายพื้นที่ที่เราไป เพราะเราอยากให้ฝั่งประชาธิปไตยเป็นผู้ชนะ ครอบครัวเพื่อไทยรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้รับพี่เต้นเข้ามาในครอบครัวเพื่อไทย พี่เต้นไม่เพียงแต่รู้จักพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี แต่ยังเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างลึกซึ้ง ขอต้อนรับพี่เต้นกลับบ้านของเรามาเป็น ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยของเรา

จากนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับหน้าที่นี้ ตนขอสื่อสารกับผู้ที่ต่อสู้และเสียสละ เจ็บปวดบอบช้ำถูกประณามเหยียบย่ำมา 10 กว่าปี แต่คนเหล่านั้นก็ยังคงยืนยันหลักการที่ถูกต้อง เชื่อว่าคนเท่ากัน และประเทศนี้ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง นี่ไม่ใช่เวทีเสื้อแดง แต่เป็นเวทีของครอบครัวเพื่อไทย ที่จะเดินหน้าทำงานคู่ขนานไปกับพรรคเพื่อไทย ต่อสู้ในทางการเมือง ต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง ช่วงชิงอำนาจรัฐบาลเผด็จการกลับคืนสู่รัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่มีเวลาให้กับรัฐบาลสืบทอดเผด็จการชุดนี้อีกต่อไป ประเทศไทยไม่เหลืออะไรให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพรรคพวกกัดกินได้อีกต่อไป

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนถูกตั้งคำถามว่าเหตุใดต้องเป็นครอบครัวเพื่อไทย เหตุใดต้องมาทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยในสนามเลือกตั้ง ถ้าพูดเรื่องประชาธิปไตยในวันนี้ มีพรรคการเมืองประกาศตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แล้วทำไมตนต้องอยู่ที่นี่ คำตอบคือตนเป็นนักการเมืองมา 10 กว่าปี สังกัดมาแล้วหลายพรรค ตลอดเวลาที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย ตนมีทั้งวันชื่นและขื่นขม มีทั้งที่ถูกและผิดต่อกัน มีความทรงจำ มีความไม่เข้าใจ มีความรู้สึกต่างๆ มากมายตลอดเวลา 10 ปี แต่ถึงอย่างไรที่นี่คือบ้าน ตนเกิดและโตที่นี่ ทุกครั้งเมื่อมองเข้าไปในพรรคเพื่อไทย ตนเห็นคนหลายคนที่ตนรักและเห็นคนอีกหลายคนที่รักตน เห็นพี่เพื่อนน้องที่สู้มาด้วยกัน เห็นคนที่เคยร้องไห้มาด้วยกัน เคยถูกไล่ยิงไล่ฆ่าบนถนนมาด้วยกัน ตนอยู่ในประวัติศาสตร์เหล่านั้นร่วมกับพรรคเพื่อไทย

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แม้ว่าช่วงเวลาก่อนหน้านี้อาจจะมีพี่น้องเพื่อนมิตรจากต่างพรรคการเมืองชวนตนไปร่วมงานทางการเมือง แต่การตัดสินใจครั้งสุดท้าย ตนนึกภาพตัวเองไม่ออกว่าจะต้องไปยืนเผชิญหน้ากับคนที่นี่ในสนามเลือกตั้ง ตนจะต้องทำอย่างไร ที่นี่เต็มไปด้วยความหลัง แต่ความหวังอยู่ข้างหน้า นี่เป็นเหตุผลโดยส่วนตัวว่าที่นี่คือบ้าน ส่วนเหตุผลโดยส่วนรวม เรามีภารกิจร่วมกันสำหรับคนไทยทั้งประเทศ คือต้องเอาชนะรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการชุดนี้ หยุดความเพ้อฝันของพล.อ.ประยุทธ์และพวกลงตรงนี้ แล้วคืนความฝันที่เป็นจริงให้กับประชาชนคนไทย ให้มีรัฐบาลที่มีศักยภาพมีความสามารถ มีประสบการณ์แก้ไขปัญหาได้ดี

เราจะทำอย่างนั้นได้มีทางเดียวคือต้องชนะเลือกตั้ง แต่ด้วยกติกาอัปยศนี้ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอ พรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่พรรคพลังประชารัฐใช้คะแนน ส.ว.250 คน โหวตพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ดังนั้น การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงจึงจำเป็นต้องมีพรรคใดพรรคหนึ่งในฝ่ายประชาธิปไตยคว้าชัยชนะให้เด็ดขาด ได้คะแนนเสียงเกินครึ่งในสภาฯ แลนด์สไลด์เพื่อขับไล่เผด็จการออกไปให้กลับมาตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยได้ ตนเดินเข้ามาที่นี่ด้วยเหตุผลในทางการเมือง เชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า ถ้าจะมีพรรคการเมืองประชาธิปไตยพรรคใดได้คะแนนเสียงสูงสุด ชนะขาดหรือเกินครึ่ง หรือแลนด์สไลด์ พรรคการเมืองนั้นต้องเป็นพรรคเพื่อไทย เพราะเขาเคยทำให้เห็นแล้ว 2 ครั้ง

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนจะทุ่มเททุกความคิด ทุกกำลังความสามารถที่มี เพื่อภารกิจครอบครัวเพื่อไทยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าชัยชนะเป็นของประชาชน ถามว่าตนจะพาคนเสื้อแดงกลับบ้าน แต่ภารกิจของตนนั้นคือ ถ้าพี่น้องที่ต่อสู้กอดคอร่วมอุดมการณ์ จะไปร่วมพรรคการเมืองอื่นๆ เราเคารพการตัดสินใจกัน วันหนึ่งถ้าเขาบอกว่าอยากกลับมาเคียงข้างกับพรรคเพื่อไทย อ้อมกอดนี้เปิดรับพี่น้องอยู่ตลอดเวลา จิตวิญญาณเสื้อแดงไม่ว่ายืนมุมไหนฝ่ายประชาธิปไตยเราคือพี่น้องกัน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถามว่าเป็นผอ.พรรค ตอนอายุเยอะแล้ว มาเป็นลูกน้องอิ๊งค์ได้อย่างไร ตนไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ไม่รู้สึกว่าเป็นลูกน้องอิ๊งค์ แต่ตนเดินเข้ามาที่นี่เพราะทำงานร่วมกัน สู้ด้วยกัน เพื่อทำภารกิจสำเร็จให้ได้ เดินหน้าทำงานกับหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ ส่วนจะอยู่ถึงเมื่อไรนั้น ตราบใดพรรคเพื่อไทยเดินเส้นทางและหลักการประชาธิปไตย ตนจะเดินร่วมทางแบบนี้ แม้วันหนึ่งพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนเส้นทางขัดต่อหลักการประชาธิปไตย ก็ถือว่าสุดทางรัก ปล่อยมือแยกทางที่ตรงนั้น

“ผมรักเคารพศรัทธาอดีตนายกฯ ทักษิณ ผมเอาใจช่วย ส่งกำลังใจ คาดหวังว่าวันหนึ่งแผ่นดินไทยจะได้ใช้ศักยภาพระดับโลกของชายคนนี้ มาแก้ปัญหาให้กับประชาชน มาทำให้คนไทยหายจน ปลดแอกผู้คนจากอำนาจฉ้อฉลไร้สติปัญญาที่เป็นมา 8 ปี ไม่ว่าบทบาทใดก็ตามที่เป็นฉันทามติของประชาชน ก็หวังใจรอคอยศักยภาพของชายชื่อทักษิณ ชินวัตร

ดังนั้น ถ้าพูดว่านายณัฐวุฒิเป็นลูกน้องนายทักษิณ ผมก็ชี้แจงว่าจริง เพียงแต่ในหลักการเดียวกัน ตราบเท่าที่นายทักษิณยังคงยืนกับประชาชน ยืนอยู่หลักการประชาธิปไตย สมมติมีการเปลี่ยนเส้นทาง แนวทางจากหลักการประชาธิปไตยโดยนายทักษิณดำเนินการ และยืนอยู่ตรงข้ามหลักการประชาธิปไตย ผมก็จะยืนตรงข้ามและสู้กับนายทักษิณ” นายณัฐวุฒิ กล่าว

เมื่อถามถึงภารกิจแรกที่จะพา ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อไล่หนูตีงูเห่า น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จะพาผอ.ครอบครัวเพื่อไทยไปหาพี่น้องชาวศรีสะเกษ แม้ในพื้นที่จะมี ส.ส.เป็นงูเห่าไปแล้ว ก็หวังจะแลนสไลด์ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนพร้อมทำงานทันที เพราะการทำงานการเมืองในทุกพื้นที่ไม่มีอะไรง่าย มีความซับซ้อนในแต่ละสถานการณ์ เฉพาะที่ จ.ศรีสะเกษ เราก็พร้อมเดินหน้าเข้าหาประชาชน เล่าข้อเท็จจริง เชิญชวนประชาชนเคียงข้างพรรคเพื่อไทยต่อไป เป้าหมายยก จ.ศรีสะเกษ หรือแลนด์สไลด์ ไม่ใช่เป้าหมายที่เกินจริง แต่เป็นเป้าหมายที่เราเคยทำได้มาแล้ว

เมื่อถามถึงความมั่นใจเรื่อง ส.ส. ที่จะไม่กลายเป็นงูเห่า นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส.ส.ทุกคนเป็นมนุษย์ วันนี้หัวใจเป็นแบบนี้ วันต่อไปเงื่อนไขเปลี่ยน เขาก็อาจเปลี่ยนการตัดสินใจได้ สำคัญคือพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ต้องยืนยันหลักการที่ชัดเจนได้ ผู้คนเปลี่ยนหัวใจได้ แต่พรรคการเมืองต้องมีหลักการที่ชัดเจนแน่นอน ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยก็ยังยืนอยู่ในหลักการเดิม และเราจะย้ำให้ประชาชนได้เห็นอีกครั้ง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ