กรมสรรพากรปรับรูปแบบเก็บภาษีออนไลน์ รองรับรายได้จากคริปโต ย้ำควรยื่นให้ครบถ้วนถูกต้อง มีอำนาจตรวจสอบ ฐานข้อมูล ดูได้ 10 ปีย้อนหลัง
วันที่ 4 ม.ค.2565 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงรูปแบบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2564 แบบออนไลน์ ที่เริ่มยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 นั้น มีการปรับรูปแบบให้มีความง่ายและชัดเจนมากขึ้น มีการรองรับเก็บภาษีกำไรจากการขายคริปโตเคอเรนซี่ ได้ชัดเจนมากขึ้น หลังจากมีผู้เสียภาษีจำนวนมากได้กำไรจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของการให้แจ้งเงินได้จากกำไรจากการขายคริปโตเคอเรนซี่ และสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีการออกพ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ว่าให้เก็บภาษีจากกำไรจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว แต่ที่ผ่านมารูปแบบการยื่นภาษีออนไลน์ยังไม่มีความชัดเจน จึงได้มีการปรับรูปแบบใหม่ให้ชัดมากขึ้น
ส่วนการตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้ที่มาจากกำไรจากการขายนั้น เป็นไปตามหลักปฎิบัติปกติของกรมสรรพากร ผู้เสียภาษีมีหน้าที่ประเมินตัวเอง และต้องแจ้งข้อมูลรายได้ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่ามีเงินได้จากทางไหนบ้างให้ครบถ้วน
ในส่วนของกรมสรรพากรก็มีระบบบิ๊กดาต้า (big data) ที่จะมีการรวบรวมข้อมูลของกลุ่มเสี่ยงที่จะมีการยื่นภาษีไม่ถูกต้อง โดยมีอำนาจในการประเมินภาษีเงินได้ย้อนหลัง 10 ปี ดังนั้นผู้เสียภาษีควรยื่นแบบและชำระภาษีให้ถูกต้อง เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเบี้ยปรับเงินเพิ่ม
อย่างไรก็ดี ยังตอบไม่ได้ว่ากรมสรรพากรจะมีรายได้ในการจัดเก็บภาษีจากกำไรจากการขายคริปโทเคอเรนซี่ และสินทรัพย์ดิจิทัลเท่าใด คงต้องรอให้ถึงวันที่ 7 เม.ย.2565 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการยื่นแบบภาษีทางออนไลน์ก่อน แต่เบื้องต้นคาดว่าคงมีรายได้เข้ามาจำนวนหนึ่ง และจะปรับเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง