ใครรอด ใครหลุดโผ? เปิดชื่อ 2 ดาวรุ่ง คาดขึ้นนั่ง “รมต.ป้ายแดง” เสริมทัพแกร่ง “ครม.อุ๊งอิ๊ง” ครั้งนี้น่าจะเข้าวินเสียที!
น่าจับตายิ่งสำหรับ “ครม.อุ๊งอิ๊ง”-แพทองธาร ชินวัตร ประมุขฝ่ายบริหารคนล่าสุด ที่จะมีการจัดสรรปันส่วนกันอย่างไร โดยตามสมการการเมืองค่ายเพื่อไทย ได้รับ 17 เก้าอี้ ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี และเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการรวม 9 ที่นั่ง เก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และ รัฐมนตรีช่วยว่าการ รวม 8 ที่นั่ง ซึ่งแน่นอนว่ารัฐมนตรีในสายเศรษฐา อย่าง พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง และจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ อาจจะหลุดจากตำแหน่ง
ในขณะเดียวกัน เชื่อได้ว่าจะมีเหล่าดาวรุ่งพุ่งแรงที่น่าจะถูกสถาปนาขึ้นรัฐมนตรีป้ายแดง อย่างคนแรก “สส.อิ่ม-ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” สส.กทม.หนึ่งเดียวของพรรคเพื่อไทย ที่ชนะก้าวไกลมาได้ 4 คะแนน ซึ่งเธอถูกวางตัวให้ขึ้นมาเป็นขุนพลหญิงดูแล กทม.ในอนาคต และที่ผ่านมาทุกครั้งที่มีการปรับคณะรัฐมนตรี ชื่อของสส.อิ่ม จะติดโผด้วยทุกครั้ง แต่ยังไม่ถึงดวงดาวสักที ปล่อยให้สส.หญิงในพรรคหลายคนแซงหน้าเป็นเสนาบดีไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ครั้งนี้น่าจะเข้าวินเสียที
สำหรับประวัติ “สส.อิ่ม-ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” นั้นอายุอานามเพิ่ง 45 ปี เป็น สส.มาแล้ว 3สมัย เริ่มจากปี พ.ศ. 2554 และชนะเลือกตั้งอีกสองครั้งใน พ.ศ. 2562 และ พ.ศ. 2566 ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในสภาผู้แทนราษฎร และมีบทบาทสำคัญในการลุยใช้เทคโนโลยี ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และในการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน เธอรวย 43 ล้าน ปืน 4 กระบอก สะสมพระดัง- กระเป๋าแบรนด์เนมเพียบ
คนที่ 2. “เดียร์-ขัตติยา สวัสดิผล” อายุ 43ปี สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เธอเป็นลูกสาวเสธ.แดง พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล ที่เสียชีวิตตอนเหตุการณ์ชุมนุมเสื้อแดง ปี 2553 และที่ผ่านมา เธอจัดเป็นวงใน และอยู่ใน”แก๊งมินต์ช็อก-คุณหนูอิ๊ง” ไม่เท่านั้นยังร่วมกลุ่มเพื่อนสายปาร์ตี้ โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร พี่ชายนายกฯ อุ๊งอิ๊ง อีกด้วย โดยที่ผ่านมาเธอมีชื่อเสียงในนาม “ลูกสาวเสธ.แดง” ที่ยังคงทวงหาความยุติธรรมให้กับบิดาที่ถูกลอบสังหารมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเส้นทางการเมืองของ ”เดียร์-ขัตติยา” นั้น เมื่อศึกเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคเพื่อไทย และได้รับเลือกตั้งเป็นสส. แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 44 ต่อมาศึกเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 เธอได้ย้ายมาร่วมงานกับ พรรคไทยรักษาชาติโดยลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 6 แต่พรรคไทยรักษาชาติถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค จึงย้ายกลับมาสังกัดพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง และได้เป็นส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 20
สำหรับการศึกษานั้น เธอจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนราชินีบน ระดับปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทด้านกฎหมาย 2 สถาบัน คือ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน และมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน สหรัฐ ประกอบอาชีพเป็นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทเอกชน ช่วงปี 2551-2554 และในอดีตยังเคย ได้เข้าฟังการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีอีกคนที่น่าจับตา นั้นคือ “สรวงศ์ เทียนทอง” อายุ49 ปีเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ซึ่งที่ผ่านมาเขาทำงานสอดประสานกับอุ๊งอิ๊งได้เป็นอย่างดี เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาแล้ว มีโอกาสสูงที่จะกลับมาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง เพราะมีรายงานว่าปิดดีลกับ “กลุ่มเทียนทองอีกปีก” หนึ่งแล้ว จะกลับมาช่วยเพื่อไทยในเลือกตั้งครั้งหน้า ทำให้เพื่อไทยกวาดสระแก้วยกจังหวัดแน่
อย่างไรก็ตาม คนหนุ่มสาวคนสนิทของอุ๊งอิ๊งในพรรคอย่าง น้ำ-จิราพร สินธุไพร อดีต รมต.สำนักนายกฯ, เผ่าภูมิ โรจนสกุล อดีต รมช.คลัง และ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล อดีตรมว.วัฒนธรรม ก็น่าจะไม่หลุดโผ ได้เป็นรัฐมนตรีบริหารงานราชการแผ่นดินต่อไป!