เปรูตัดสิทธิทางการเมืองอดีตประธานาธิบดี “มาร์ติน วิซการ์รา” เป็นเวลา 10 ปี ฐานใช้อำนาจ เอื้อประโยชน์ฉีดวัคซีนให้บุคคลวีไอพี ก่อนสาธารณสุขอนุมัติใช้
สภานิติบัญญัติเปรู ลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 86 ต่อ 0 เสียง ตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ต่ออดีตประธานาธิบดีมาร์ติน บิซการ์รา (Martín Vizcarra) ผู้เคยดำรงตำแหน่งระหว่าง 23 มีนาคม พ.ศ. 2561 – 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ในฐานะสมรู้ร่วมคิด ใช้อำนาจในฐานะประธานาธิบดีลับลอบรับการฉีดวัคซีนให้กับคณะบุคคลสำคัญกลุ่มหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นยังเป็นช่วงที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของประเทศยังไม่ได้รับรองสถานะของวัคซีนดังกล่าว
รายงานระบุว่า อดีตผู้นำเปรูใช้อำนาจในฐานะประธานาธิบดี อำนวยความสะดวกให้อดีตรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของซิโนฟาร์มจากจีน ซึ่งในเวลานั้นกระทรวงสาธารณสุขของเปรูยังไม่ได้รับรองสถานะการใช้งานวัคซีนจากบริษัทใด
ซึ่งนอกจากอดีตผู้นำแล้ว สภาเปรูยังลงมติตัดสิทธิทางการเมืองต่อรัฐมนตรีสาธารณสุขเป็นเวลา 8 ปี รวมถึงอดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเป็นเวลา 1 ปี ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดเข้าถึงวัคซีนก่อนอนุมัติใช้ แม้ว่าทั้งนายบิซการ์รา และรัฐมนตรีทั้งสองจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่านี่เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง
ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา อดีตผู้นำเปรูเผยว่าตนเองและภรรยา เข้ารับวัคซีนป้องกันโควิดของซิโนฟาร์มตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบระยะที่สามของการวิจัยวัคซีนในประเทศ
ทว่าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติซึ่งเป็นผู้ทดลองปฏิเสธว่า ไม่มีรายชื่อของอดีตผู้นำกับภรรยาในรายชื่อของกลุ่มอาสาสมัครที่เข้ารับการทดสอบแต่อย่างใด โดยเปรูเป็นหนึ่งในประเทศที่ทดสอบวัคซีนของซิโนฟาร์มช่วงระหว่างเดือนก.ย.ถึงปลายปี 2563 ในกลุ่มอาสาสมัครราว 12,000 คน
สำหรับเปรูมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมที่ 1.7 ล้านคน รักษาหายแล้ว 1.62 ล้านคน เสียชีวิต 56,797 ราย
- ติดตามข่าวสารและสถานการณ์ COVID-19 ได้ที่นี่