การเปิดตัวของ iPad Pro 2021 ทำให้ประเทศที่วางจำหน่ายของ iPad Pro รุ่นปี 2020 จำต้องเลิกขาย แต่บางประเทศรวมถึงในประเทศไทยนั้นก็ยังคงมีขาย คำถามคือหลายคนเลือกอยู่ว่าจะไปซื้อรุ่นเก่าดีหรือรุ่นใหม่ดี ทีม Sanook Hitech เรามีคำตอบครับ
สิ่งที่เหมือนกัน
- หากเป็นรุ่นหน้าจอขนาด 11 นิ้วไม่ได้แตกต่างกันมา โดยมีความละเอียด เท่าเดิม, Truetone Display, มาตรฐาน P3 ให้สีสันที่ตรงและ Liquid Retina Display
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบ่งออกเป็น เลนส์หลัก F/1.8 และ เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับเซนเซอร์ LiDAR
- รองรับระบการถ่ายวิดีโอ 4K, กันสั่นที่วิดีโอ และสามารถซูมเสียงได้
- กล้องหน้าแบบ TrueDepth และมความละเอียด 7 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับระบบ Face ID
- ลำโพง Stereo ทั้งหมด 4 Channel
- ไมโครโฟนรองรับเสียงแบบ Stereo
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ 10 วัน
- USB-C
- รองรับการต่อเชื่อม Keyboard, Mouse และ Apple Pencil รุ่นที่ 2
- สีมีให้เลือกคือสีเงิน และ สี Space Gray
- บอดี้บางเฉียบ
นั่นคือสิ่งที่เหมือนกัน แล้วสิ่งที่แตกต่างกันที่เกิดขึ้นใน iPad Pro 2021 ที่ดีกว่าจะเป็นอะไรบ้างนั้นมาดูกัน
เทคโนโลยีหน้าจอ
สำหรับ iPad Pro 12.9 นิ้วเรื่องของหน้าจอมีการใช้หน้าจอแบบ Mini LED แต่มาในชื่อ Liquid Retina XDR mini-LED ที่มีหลอด LED ขนาดจิ๋วกว่า 10,000 หลอด และวิ่งทำงานภายในหน้าจอ ให้ความสว่างของหน้าจอสูงสุด 1,600 nits และยังรองรับ HDR ให้สีแบบ Truetone เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานเรื่องภาพและคนทำหนัง และยังรองรับ Dolby Vision ด้วยครับ
แต่ว่ารุ่น 11 นิ้ว ยังคงได้หน้าจอแบบเดิมนะครับไม่ได้เปลี่ยนแปลง
ชิป Apple M1 VS Apple A12Z Bionic
สำคัญสุดคือเรื่องของความจำที่ Apple นำ M1 มาใส่ทันทีกับ iPad Pro โดยจริงๆ ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนเพราะชิป M1 นั้นอยู่ใน MacBook Air, MacBook Pro, Mac Mini และ iMac รุ่นล่าสุด เปรียบเทียบกับ A12Z นั้นก็คือ Core ที่อัปเกรดแต่พื้นฐานของ A12 ที่ใส่ตั้งแต่ใน iPhone XS ในปี 2021 ดังนั้นชิป M1 จะมีกราฟิกที่ให้กำลังที่ดีกว่า และมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า
แถมยังมีขนาดเล็กกว่าที่ 5 นาโนเมตร (A12Z มีขนาด 7 นาโนเมตร) ความเร็ว 3.2 GHz ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าคะแนนประสิทธิภาพออกมาจะเท่าไหร่
RAM / พื้นที่ความจำ
สำหรับเรื่องของพื้นที่ความจำ และ RAM ของรุ่นนี้มีมาให้ถึง 8 – 16GB เลยแล้วแต่ความจำที่ ส่วนพื้นที่ความจำภายในมีขนาด 128GB / 256GB / 512GB / 1TB และ 2 TB จนเรียกได้ว่า เยอะกว่าทุกรุ่น
กล้อง
แม้ว่ากล้องจะมได้เปลี่ยนสเปกแต่ลูกเล่นภายในจะมีการใส่ Smart HDR 3 ทำให้เก็บรายละเอียดเวลาถ่ายวิดีโอดีขึ้นและยังมีฟีเจอร์ Center Stage สำหรับวิดีโอคอลล์ การทำงานง่ายๆ ถ้าเครื่องจับใบหน้าสามารถติดตามคุณได้ได้หมดและซูมหาหน้าคนอัตโนมัติ โดยใช้ Machine Learning
การเชื่อมต่อ
จุดนี้ถือว่าเปลี่ยนแปลงเพราะตัวนี้จะมาพร้อมกับการเชื่อมต่อไร้สายด้วยเทคโนโลยี 5G ที่เร็วกว่าเดิม แต่ว่า Wi-Fi ยังรองรับ Wi-Fi 6 เท่านั้น อีกสิ่งที่เปลี่ยนชื่อช่องเสียบต่อของ iPad Pro 2021 จะเป็น Thunderbolt แต่มาในรอบของ USB-C ทำให้การเชื่อมต่อได้รวดเร็วกว่าเดิมถึง 40Gb/s ซึ่งปกติ USB-C จะรองรับการต่อที่ 10Gb/s ถือว่าเร็วมาก เหมาะกับการเสียบหน้าจอ หรือ External Hard Drive
อุปกรณ์เสริม
สำหรับ iPad Pro รุ่นนี้ยังมีเพียงแค่ Apple Pencil สามารถใช้งานได้ แต่ว่า อุปกรณ์เสริมอย่างเช่น Keyboard เช่น Smart Keyboard Folio และ Magic Keyboard สำหรับขนาด 11 นิ้ว จะยังคงใช้ของเดิมได้ แต่สำหรับคนจะเลือกใช้ iPad Pro 12.9 นิ้วอาจจะต้องซื้อใหม่เพราะว่าอุปกรณ์เสริมนั้นไม่เข้ากันนั่นเอง เท่ากับคุณต้องเตรียมเงินเพิ่มสำหรับอุปกรณ์เสริมใหม่ของ Apple ชิ้นนี้ด้วย
ราคาเครื่อง
ถือว่าเริ่มต้นค่อนข้างสูง เพราะว่า ความกับความจุ 128GB ในราคา Wi-Fi Only ในประเทศไทยคือ 27,900 บาท และแพงสุดกับรุ่น 2TB Cellular มากระดับ 8 หมื่นบาท นี่ยังไม่รวมอุปกรณ์เสริม และประกัน Apple Care+ อีกด้วยครับ
โดยสรุปแล้วการเปลี่ยนแปลงของ iPad Pro 2021 ถือว่าเปลี่ยนเยอะเมื่อเทียบกับในรุ่นของปี 2020 ผ่านมาทั้งประสิทธิภาพที่สูงกว่าและหน้าจอที่มีความคมชัดกว่า (เฉพาะรุ่นหน้าจอ 12.9 นิ้ว) และการได้ชิปที่แรงก็ทำให้สามารถใช้งานได้ดี และเหมาะกับคนที่ต้องการทำงานสาย Creator เพราะว่ามันสามารถทำงานได้ได้ดีกว่ารุ่นเดิม แถมยังรองรับ 5G ด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกบน iPad
แต่ก็ต้องทำใจกับอุปกรณ์เสริมเพราะว่าในรุ่น 12.9 นิ้วจะใช้เคสเดียวกับ iPad Pro 12.9 นิ้วปี 2020 ได้ รวมไปถึงราคาที่สูงขึ้นกว่ารุ่นเดิมพอสมควร ดังนั้นต้องถามกันแล้วว่า iPad Pro ของคุณนั้นยังดีพอที่จะใช้ต่อหรือเปลี่ยน ซึ่งคำตอบนั้นก็คงแล้วแต่ความเห็นของแต่ละคนนะ
แต่ถ้า iPad Pro ทั้ง 2 รุ่นแพงไปแล้วการเลือก iPad Air ที่ได้ฟีเจอร์ใกล้เคียงกันทั้ง
