ในยุคของ AI แบบนี้ถ้าไม่พูดถึง 2 โมเดล AI สุดฉลาดคงเป็นไปไม่ได้ เพราะทั้ง GPT 4.o ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ และ Gemini 1.5 Pro เวอร์ชั่นใหม่ที่เพิ่งวเผยโฉมไปสดๆ ในวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นโมเดลที่น่าสนใจแต่มันมีความต่างกันอย่างไร Sanook Hitech พาคุณมารู้จักกับด้านที่เก่ง ข้อแตกต่าง ของทั้งคู่กัน
Chat GPT 4.o
เราจะเริ่มกับผู้มาก่อนเพราะตัวนี้เปิดตัวในวันที่ 13 พฤษภาคม รุ่นนี้มีความเร็วที่มากกว่า GPT-4 โดยมีความสามารถตั้งแต่
- สามารถจดจำรายละเอียดที่เปิดผ่านกล้องได้
- เป็นคู่ซ้อมเช่นถ้าคุณจะสมัครงาน มันก็จะมีรายละเอียดที่แนะนำได้
- เล่นเกมเป่ายิงฉุบกับคุณ (Rock Paper Scissors) โดยเป็นการวิเคราะห์ได้
- ตอบคำถามเป็นแบบโทนเสียงแสดงอารมณ์คำรวมถึงการลากเสียง รวมถึงมุกตลกก็เล่นได้
- สอนการบ้าน เหมือนเป็นติวเตอร์ ที่ให้คุณสามารถหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง
- แปลภาษาแบบ Real-Time ระหว่าง 2 ฝ่ายเหมือนเป็นล่ามแปลภาษา
- สามารถบอกอารมณ์สัตว์เลี้ยงได้
ข่าวดีของ Model นี้คือใช้ฟรีและรองรับภาษามากกว่า 50 ภาษาทั่วโลก
Gemini 1.5 Pro
อันนี้สดกว่าเพราะเปิดตัวในงาน Google I/O 2024 ที่เพิ่งจบกันไปในวันที่ 14 พฤษภาคม ในเวลาสหรัฐ หรือเข้าประเทศไทยเมื่อเช้ามืด ของวันที่ 15 พฤษภาคม ลูกเล่นตัวนี้มีความเร็วสูงและไม่ได้เปิดตัวเดียว เพราะมีรุ่น Gemini 1.5 Flash ที่เล็กกว่าและทำงานเร็วกว่า โดยฟีเจอร์ที่มีนั้นประกอบด้วย
- การช่วยแปลข้อความได้หลายภาษา
- รับข้อมูลขนาดใหญ่กว่าเดิม แถมเชื่อฟังคำสั่งมากขึ้น
- สามารถปรับพฤติกรรม AI ให้วางแผนการทำงานได้ดีขึ้น
- เรียนฟีเจอร์ภายนอกได้มากขึ้น
- รองรับการป้อนข้อมูล, ประมวลผล และตอบเป็นเสียงได้ (เสียง AI นะไม่ใช่เสียงเรา)
ฟังดูเหมือน แค่นี้ แต่อย่าเพิ่งครับเพราะว่า Google เองมีการให้ Gemini สามารถทำงานร่วมกับ Project Astra ใหม่ทำให้ AI เป็นเหมือนคนใหม่ เข้าใจสังคม, มีชีวิตชีวามากขึ้น สามารถจำคน เนื้อหา ประมวลผลได้เร็ว
รวมไปถึง Veo ระบบสร้างวิดีโอในรูปแบบ Cinematic ความละเอียด 1080p และยังเพิ่มฟีเจอร์ใส่คำอธิบายแถมขยายวิดีโอให้ยาวได้
ภาพรวมแล้วดูเหมือนกับ Google จะได้เปรียบที่พลังของเขาเยอะและมีลูกเล่นมากมายแต่การที่ GPT 4.o มีลูกเล่นเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ผมว่ามันก็ได้เปรียบประมาณหนึ่งแต่ต้องดูว่า 50 ภาษากับการใช้ในประเทศไทยมันจะทำได้ขนาดไหน ต้องลองกันต่อไป
อย่างไรก็ตามแม้ทั้งคู่จะมีความเก่งไม่แพ้กัน แต่ว่าการนำไปใช้ต้องคิดถึงเรื่องข้อกฎหมาย, ความถูกต้อง และรวมไปถึงเรื่องที่ต้องรับผิดชอบทั้งหลายด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำความผิดและถูกคนอื่นมาฟ้องร้องในภายหลังก็ดีเหมือนกันนะครับ